×

ยุโรปเร่งทรานส์ฟอร์มสู่พลังงานสะอาด ‘เยอรมนี-ฝรั่งเศส’ ประกาศคำมั่นเพิ่มการผลิตพลังงานลม สร้างความมั่นคงพลังงาน

25.04.2023
  • LOADING...
กันหันลม

บรรดาผู้นำในกลุ่มยุโรปตะวันตก นำโดยเยอรมนีและฝรั่งเศส ต่างให้คำมั่นที่จะเพิ่มการผลิตพลังงานสะอาดจากกังหันลมในทะเลเหนืออย่างมหาศาล เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศ และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในการลดการพึ่งพาพลังงานกับรัสเซีย

 

รายงานระบุว่า บรรดาผู้นำเหล่านี้ยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับปรุงความปลอดภัยรอบๆ โครงข่ายไฟฟ้าใต้น้ำที่กำลังเติบโต เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามต่างๆ ที่หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าอาจมีการโจมตีเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปี 2022

 

Alexander De Croo นายกรัฐมนตรีเบลเยียม และเจ้าภาพการประชุมสุดยอดครั้งนี้ กล่าวว่า กังหันลมนอกชายฝั่ง รวมถึงสายเคเบิลและท่อบนพื้นดิน มีแนวโน้มที่จะตกเป็นเป้าของการก่อวินาศกรรมหรือจารกรรม ก่อนเสริมว่าประเด็นการหารือในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ยังครอบคลุมถึงความเป็นอิสระด้านพลังงานของยุโรป 

 

นายกรัฐมนตรีเบลเยียมกล่าวว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยุโรปเผชิญกับผลกระทบของการพึ่งพาพลังงานจากภายนอกที่มากเกินไป และสารพัดมาตรการที่นำมาใช้ ทำให้ยุโรปตระหนักว่าความมั่นคงด้านพลังงานเป็นสิ่งจำเป็น และความมั่นคงดังกล่าวหมายความว่ายุโรปต้องมีความสามารถในการผลิตพลังงานของตนเอง และแหล่งที่มาของพลังงานดังกล่าวต้องเป็นพลังงานสะอาดเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของภูมิภาคอีกทางหนึ่งด้วย 

 

Mark Rutte นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า กลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกจะต้องทำให้แน่ใจว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย “หมดหนทางที่จะกดดันยุโรปด้วยการปิดวาล์วแก๊ส และการผลิตพลังงานสะอาดคือวิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุเป้าหมายนี้”

 

สำหรับการประชุมสุดยอดที่เมืองท่าออสเทนด์ ณ ทะเลเหนือของเบลเยียม เป็นการประชุมครั้งที่ 2 เพื่อจัดการกับปัญหาด้านพลังงานที่เริ่มมีแรงกดดันมากขึ้น และได้ขยายไปถึง 9 ประเทศ ได้แก่ เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อังกฤษ, ไอร์แลนด์, นอร์เวย์ และเดนมาร์ก

 

รายงานระบุว่า เฉพาะ 9 ประเทศยุโรป ต้องการเพิ่มการผลิตในปัจจุบันมากกว่า 4 เท่าเป็น 120 กิกะวัตต์ภายในสิ้นทศวรรษนี้ และขยับเป็น 300 กิกะวัตต์ภายในปี 2050 โดยสหภาพยุโรปให้คำมั่นว่า 42.5% ของการใช้พลังงานทั้งหมดควรมาจากพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2030 

 

แม้ว่านายกรัฐมนตรี Olaf Scholz ของเยอรมนี จะบรรยายว่าทะเลเหนือเป็น “โรงไฟฟ้าพลังงานที่อยู่หน้าประตูบ้านของเรา” ซึ่งจะช่วยให้ยุโรปมีความเป็นกลางทางสภาพอากาศ แต่เจ้าตัวก็เตือนว่า เงื่อนไขดังกล่าวก็ยิ่งทำให้ยุโรปต้องคิดให้ใหญ่ขึ้น และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานของตน

 

นอกจากนี้ การประชุมสุดยอดครั้งนี้ยังมองไปไกลกว่าตัวกังหันลม โดยครอบคลุมถึงความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าของฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งเพื่อนำพลังงานเข้าสู่ชายฝั่งและเข้าสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมของทวีป ซึ่งบางครั้งอยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์

 

นายกรัฐมนตรี Scholz แห่งเยอรมนี เน้นย้ำว่าโครงข่ายไฟฟ้าของยุโรปซึ่งมีลักษณะเป็น ‘สายใย’ นั้นจำเป็นต้องขยายให้ใหญ่ขึ้นในระดับเดียวกับฟาร์มกังหันลม เพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่ผลิตในทะเลเหนือสามารถเข้าถึงพื้นที่อุตสาหกรรมทางตอนใต้ของเยอรมนีและที่อื่นๆ ต่อไป 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising