×

โกเซนส์เด่นมาก / ฝรั่งเศสเกรดตก / สเปนอาจตกรอบ? – EURO 2020 ROUND UP Day 9

โดย THE STANDARD TEAM
20.06.2021
  • LOADING...
EURO 2020 ROUND UP Day 9

หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ฟุตบอลยูโร 2020 ต้องเจอกับวันที่ยิงประตูกันน้อยที่สุดเพียง 3 ประตู ทว่าผ่านมาเพียงวันเดียว พวกเขาก็เจอกับวันที่มีประตูเยอะที่สุดร่วมกับวันที่ 3 ของการแข่งขัน ที่มีประตูรวมกัน 3 สนามถึง 10 ลูก อันมาจากเกมที่ฮังการีเสมอฝรั่งเศส 1-1, โปรตุเกสพ่ายเยอรมนี 2-4 และ สเปนเสมอโปแลนด์ 1-1 ซึ่งนอกจากนั้นแล้ว การที่เกมเมื่อคืนแข่งขันกันลุล่วงทั้ง 3 คู่ ยังหมายถึงการที่เกมรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 เล่นไปครบทุกกลุ่มเช่นกัน ซึ่งทำให้เห็นถึงโอกาสการเข้ารอบของแต่ละกลุ่มนับจากนี้ได้ชัดเจนขึ้นด้วย

 

โรบิน โกเซนส์ กุญแจแห่งชัยชนะเหนือโปรตุเกสของเยอรมนี

 

กุญแจในความสำเร็จของเยอรมนีที่คว้าชัยชนะเหนือโปรตุเกส คือการขึ้นเกมจากริมเส้นทั้งสองข้าง ไม่ว่าจะเป็น โจชัว คิมมิช หรือ โรบิน โกเซนส์ โดยเฉพาะในรายหลัง มีส่วนร่วมกับประตูของทีมในถึง 3 ประตู ไล่ตั้งแต่การเปิดให้ รูเบน ดิอาส สกัดบอลเข้าประตูตัวเอง, การเปิดให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ แท็ปอินเข้าไป และการโหม่งประตูที่ 4 ให้ทีม ช่วยให้ ‘อินทรีเหล็ก’ เปิดสนามฟุตบอลอารีนา มิวนิก ถล่มโปรตุเกสไป 4-2

 

หลังจบเกม โกเซนส์ยังได้รับรางวัล สตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์ ที่ถูกมอบให้โดยสปอนเซอร์ นั่นย่อมตอกย้ำว่าฟอร์มการเล่นของแบ็กจากอตาลันตาคนนี้ยอดเยี่ยมแค่ไหน ขณะที่ปีกอีกฝั่งอย่าง โจชัว คิมมิช ก็ไม่น้อยหน้า เขามีส่วนร่วมกับ 2 ประตูของทีม นั่นคือในจังหวะเปิดเข้าไปให้ ราฟาเอล เกอร์เรโร สกัดเข้าประตูตัวเองก่อนหมดครึ่งแรก และการเปิดให้ โรบิน โกเซนส์ โหม่งประตูที่ 4 ด้วย

 

ชัยชนะของเยอรมนีในเกมนี้ทำให้สถานะที่เคยง่อนแง่นในการเข้ารอบต่อไปดูดีขึ้นมาทันที เพราะนอกจากได้ 3 คะแนนแล้ว ในเกมหน้าพวกเขาจะได้เล่นกับฮังการีที่ไม่มีแฟนบอลกว่า 60,000 คอยหนุนหลัง เนื่องจากจะแข่งขันกันในมิวนิก และถ้าหากได้ 3 คะแนนเต็มมาครอง ก็คือการการันตีเข้าสู่รอบต่อไปทันที และพวกเขาสามารถลุ้นได้ถึงการเป็นแชมป์กลุ่ม ถ้าหากโปรตุเกสเกิดเอาชนะฝรั่งเศสในนัดสุดท้ายได้สำเร็จ

 

ขณะที่โปรตุเกสก็ยังคงแพ้ทางต่อเยอรมนีต่อไป ถึงแม้ คริสเตียโน โรนัลโด จะทำสถิติใหม่ในการยิงประตูรายการฟุตบอลยูโรและฟุตบอลโลกรวมกัน 19 ประตู และกลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูเยอะที่สุดในการแข่งขัน 2 รายการนี้รวมกัน เทียบเท่า มิโรสลาฟ โคลเซ และมีโอกาสทำลายสถิตินี้ได้ในเกมต่อๆ ไป แต่พวกเขาก็ไม่ชนะเยอรมนีได้มาตั้งแต่ปี 2000 แล้ว ซึ่งมีเพียงแค่ 2 ครั้งจาก 67 เกมในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับชาติ ที่โปรตุเกสเสียประตูมากถึง 4 ประตู และทั้ง 2 ครั้งเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของเยอรมนีนี่เอง (อีกครั้งในฟุตบอลโลก 2014)

 

ความพ่ายแพ่ในเกมนี้ ทำให้ทัพ ‘ฝอยทอง’ ตกอยู่ในที่นั่งลำบากกว่าที่ควร แม้จะยังควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเองได้โดยไม่ต้องยืมจมูกทีมอื่นหายใจ แต่การต้องรับมือกับฝรั่งเศสไม่ใช่งานง่ายที่พวกเขาจะการันตีชัยชนะได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากพวกเขาไม่แพ้และจบด้วยผลเสมอได้ ก็ยังน่าจะเพียงพอที่จะทำให้ทีมเข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะทีมอันดับ 2 หรืออันดับ 3 ที่ดีที่สุด 1 ใน 4 ทีมที่ได้โควตา ขึ้นอยู่กับว่าเกมคู่เยอรมนีพบฮังการีจบลงอย่างไร

 

ผลกระทบจากการไม่สามารถคว้าชัยในฮังการีที่ฝรั่งเศสต้องเผชิญ

 

หนึ่งในคู่ที่พลิกความคาดหมายที่สุดเมื่อคืนที่ผ่านมาก็คงหนีไม่พ้นเกมที่ปุสกัส อารีนา ในกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ที่ฝรั่งเศสทำได้แค่ตามไล่ตีเสมอฮังการี 1-1 ชนิดที่เกือบแย่ ซึ่งทำให้หลังเกมจบพวกเขามีเพียง 4 คะแนน จากที่ควรจะเป็น 6 คะแนนเต็ม และยังไม่เข้ารอบต่อไป แต่กลับกัน ทางฝั่งฮังการีก็มีลุ้นถึงการเข้ารอบน็อกเอาต์ขึ้นมาทันทีเช่นกัน แม้อาจจะต้องมีปัจจัยภายนอกเกื้อหนุนสักเล็กน้อยก็ตาม

 

เกมนี้ฝรั่งเศสที่ต้องรับมือกับเสียงเชียร์จากแฟนบอลกว่า 60,000 ชีวิต มีสถิติที่เหนือกว่าในทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นการครองบอลมากกว่า ที่ 61% ต่อ 39% ยิงมากกว่า ที่ 16 ต่อ 5 ครั้ง และมากกว่ากระทั่งลูกเซ็ตพีซอย่างการเตะมุมหรือฟรีคิก แต่พวกเขาสามารถเจาะประตู ‘แม็กยาร์’ ได้เพียงลูกเดียวเท่านั้นจากการยิงของ อองตวน กรีซมันน์ ซึ่งเป็นการทำประตูในรายการนี้ลูกที่ 7 ของเขา และไล่หลังตำนานรุ่นพี่ที่ยิงในยูโรไว้ 9 ประตู เพียงแค่ 2 ลูก แต่การได้แค่ 1 แต้มก็ถือว่าเสียหายมาก

 

จากที่ถูกมองว่าจะเข้ารอบแบบสบายๆ ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มหลังจากเอาชนะเยอรมนีได้ในเกมแรก ณ ตอนนี้ ‘ตราไก่’ มีโอกาสจบได้ตั้งแต่ที่ 1 ถึงที่ 3 ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันในเกมหน้ากับโปรตุเกส โดยหนึ่งในทางเลือกที่อาจจะเกิดขึ้นได้คือการที่พวกเขาพ่ายต่อโปรตุเกส พร้อมกับที่เยอรมนีชนะฮังการี นั่นจะทำให้ ‘เลส์ เบลอส์’ หล่นไปที่ 3 ทันที และถึงแม้การมี 4 คะแนนในตอนนี้อาจจะทำให้พวกเขาได้เข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะ 1 ใน 4 ของอันดับ 3 ที่ดีที่สุด แต่ปลายทางในรอบ 16 ทีมสุดท้ายคือการเจอของแข็งอย่างเนเธอร์แลนด์ ไม่ก็แชมป์กลุ่ม B ซึ่งมีโอกาสสูงว่าจะเป็นเบลเยียม!

 

ขณะที่ฝั่งฮังการี การได้ 1 คะแนนในเกมนี้ทำให้ทีมยังมีโอกาสที่จะเข้ารอบต่อไป หากเอาชนะเยอรมนีได้ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แต่งานนี้ออกจะยากสักหน่อย เมื่อพวกเขาต้องไปเล่นในมิวนิก ทำให้จะปราศจากเสียงเชียร์ที่คอยหนุนหลังทีมมาใน 2 เกมแรก อย่างไรก็ตาม เราได้เห็นการพลิกล็อกมาเยอะแล้วในการแข่งขันฟุตบอล การคว้าชัยของฮังการีเหนือเยอรมนีจึงหาใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้แต่อย่างใด

 

เส้นทางที่ต้องทำให้ได้ หรือไม่ก็เก็บกระเป๋ากลับบ้านของสเปน

 

เมื่อจบเกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม เยอรมนีคือทีมที่น่าผิดหวังที่สุด แต่เมื่อจบเกมที่ 2 แล้ว ตำแหน่งนั้นถูกส่งมอบมายังสเปนทันที หลังทำได้เพียงแค่เสมอกับโปแลนด์ในบ้านตัวเองที่เซบียา ส่งผลให้มีเพียง 2 คะแนน จาก 2 นัด และต้องหล่นไปรั้งอันดับที่ 3 ของกลุ่มในตอนนี้ ทั้งที่ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น ทีม ‘กระทิงดุ’ นอกจากจะถูกมองว่าเป็นตัวเต็งในการคว้าแชมป์กลุ่มแล้ว ‘ลา โรฆา’ ยังถูกมองว่าเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ด้วย

 

การมี 2 คะแนนของสเปนเสี่ยงต่อการตกรอบอย่างมาก เนื่องจากในเกมสุดท้ายที่พวกเขาต้องพบกับสโลวะเกีย ซึ่งผลเสมอนั้นไม่เพียงพอ เพราะหากพวกเขาทำได้แค่เก็บเพิ่ม 1 คะแนน แล้วทางโปแลนด์ดันไปชนะสวีเดน ก็จะทำให้ทีมอื่นๆ ทุกทีมมี 4 คะแนน และสเปนจะตกรอบในฐานะบ๊วยกลุ่มทันที และหากแม้สวีเดนไม่แพ้โปแลนด์ ซึ่งจะส่งผลให้สเปนได้อันดับที่ 3 แม้จะเสมอกับสโลวะเกียมา แต่ด้วยคะแนนเพียง 3 แต้ม ก็ต้องลุ้นเหนื่อยในการเป็น 1 ใน 4 ทีมที่ดีที่สุดอยู่ดีเช่นกัน ดังนั้นทางเลือกเดียวทีมคือชนะให้ได้เท่านั้น

 

ขณะที่โปแลนด์แม้จะรั้งบ๊วยกลุ่ม E ในตอนนี้ แต่สิ่งที่ต่างกันเลยคือการที่พวกเขาได้ลุ้นไปต่ออย่างเต็มดัว หากเพียงแค่เอาชนะสวีเดนได้ในนัดสุดท้าย พวกเขาจะมี 4 คะแนนเท่ากับทีม ‘ไวกิ้ง’ แต่จะมีอันดับที่เหนือกว่าจากผลงานการเจอกันที่ดีกว่าทันที นั่นหมายความว่า จะอย่างไรถ้าหากชนะได้ในเกมนี้ พวกเขาจะไม่ต้องเป็นบ๊วยกลุ่ม ซึ่งนั่นส่งผลที่แตกต่างจากการพ่ายต่อสเปนในเกมนี้แบบคนละเรื่อง

 

ซึ่งนั่นอาจจะหมายความว่า เกมในนัดสุดท้ายของกลุ่ม E จะกลายเป็นเกมที่มีความหมาย และมีการดิ้นรนเพื่อไปสู่รอบน็อกเอาต์ของแต่ละทีมกันมากที่สุดก็ว่าได้

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising