สำหรับเหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์แล้ว ร้านกาแฟต่อให้ไกลแค่ไหนคือใกล้ ครั้งนี้ขอพาไปย่านอุดมสุข หลังจากที่เห็นร้านโดนัทเปิดใหม่จากรูปเพื่อนๆ ในฟีดอินสตาแกรมมาได้สักระยะ ก็ถึงคราวแวะไปลองด้วยตัวเองบ้าง ที่ Drop by Dough (ดร็อป บาย โด) ร้านโดนัทสายคราฟต์ที่มีดีมากกว่าอินทีเรียร์และแสงสวยๆ เมื่อได้คุยถึงเบื้องหลังคราฟต์โดนัทแล้ว ก็ยิ่งทำให้ความอยากโดนัทของเราเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว
The Vibe
แม้จะดูเหมือนไกล แต่จากบีทีเอสอุดมสุขเดินย้อนกลับมาแค่ 2-3 นาที เจอปากซอย 101/2 ก็ถึงที่หมายความดีงามประจำวันนี้สักที Drop by Dough เป็นส่วนหนึ่งของตึกแถวออฟฟิศ และที่พักอาศัยที่เรียงรายตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย จากอาคารร้างที่ไม่มีใครเหลียวแล ตอนนี้กลายเป็นทั้ง Weekday Drop by Spot และ Weekend Destination ของหลายๆ คน
โอ๊ตสึ และ โอ๊ต เจ้าของเพจท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ OATS x Somewhere
โอ๊ตสึ และ โอ๊ต เจ้าของเพจท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ OATS x Somewhere (www.facebook.com/oatsxsomewhere) อีกมุมหนึ่งทั้งสองคือนักล่าโดนัทตัวยงที่มีเควสเป็นการชิมโดนัทในทุกๆ ที่ ทุกประเทศที่พวกเขาไป ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เอเชีย ไทย รวมทั้งในกรุงเทพฯ ด้วยความที่เดินทางเป็นประจำ ทำให้พวกเขาเห็นว่าแทบทุกที่ทุกเมืองที่ไปเยือนจะมีร้านขายโดนัท แต่ละร้านในแต่ละเมืองก็จะมีเท็กซ์เจอร์และรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
จากที่กินเล่นๆ กลายเป็นกินจริงจังจนไม่ใช่แค่กัดกร้วมแล้วจบ แต่ยังได้ลองฉีกเนื้อแป้ง ส่องดูโพรงค้นหาโครงสร้างโดนัท เป็นการกินเพื่อสัมผัสเท็กซ์เจอร์ กินเพื่อชิมไส้โดนัท และอีกสารพัดแพตเทิร์นการทดลองว่าด้วยโดนัท จนทำให้ทั้งสองเริ่มตกหลุมรักแป้งทอดกลมๆ มีรูตรงกลาง จนกระทั่งมีไอเดียจะทำร้านโดนัท กลายเป็นอีกโปรเจกต์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์โรงแรม ที่พวกเขาตั้งใจจะทำมาตั้งนานแล้ว
ก่อนที่จะไปถึงเรื่องโดนัท คงต้องชมบรรยากาศสไตล์นอร์ดิกที่ช่าง Photogenic เหลือเกิน โอ๊ตสึ และโอ๊ต เล่าว่าทริปสแกนดิเนเวียคือแรงบันดาลใจ และกลายเป็นไอเดียให้กับการแต่งร้าน ทั้งคู่อยากเก็บความรู้สึกดีๆ และของสวยๆ งามๆ ให้คนอื่นได้ชมได้สัมผัสกันบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์จาก HAY, Herman Miller ไหนจะโคมไฟ Poulsen โมบายชิคๆ ของ Volta โปสเตอร์และของสะสมที่ทั้งคู่ทยอยเก็บมาจากทุกทริป เมื่ออยู่ภายใต้โทนสีน้ำเงิน น้ำตาล และครีม สีโปรดที่พวกเขาชอบ ก็ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดไปนั่งอยู่ที่ไหนสักแห่งในสแกนดิเนเวียเลยแหละ
The Dishes
เราถามโอ๊ตสึและโอ๊ตถึงจุดเด่นของโดนัทที่นี่ ทั้งสองตอบพร้อมกันว่า โดนัทที่มีทั้งมีรูและมีไส้ ฟังแล้วก็อาจจะดูงงๆ เพราะโดนัทส่วนใหญ่ที่เจอ ถ้ามีรูตรงกลางก็จะไม่มีไส้ หรือถ้ามีไส้ก็จะไม่มีรู ส่วนโดนัทที่ Drop by Dough ผสมลักษณะภายนอกของโดนัททั้งสองแบบเข้าด้วยกัน ต้องเจาะรูกลางโดนัท แล้วฉีดไส้เข้าไปในโพรงด้านในเนื้อโดนัท เพื่อให้ทุกการกัดสัมผัสได้ถึงความชุ่มฉ่ำของไส้ที่เข้ากันได้ดีกับเท็กซ์เจอร์นุ่มๆ ของแป้งโด
โดนัทแต่ละรสของที่นี่มีมิติของรสชาติและเท็กซ์เจอร์ บางตัวยิ่งกินก็ยิ่งเข้ากัน ส่วนบางตัวกินแล้วตัดรสกันได้พอดี ไม่เลี่ยนเกิน ไม่ชืดไป จะกัดกี่ครั้งก็ต้องเจอไส้เสมอ ซึ่งเบื้องหลังความอร่อยและเอกลักษณ์ของโดนัท Drop by Dough คือการนำเทคนิคการทำขนมฝรั่งเศสมาอยู่ในโดนัท โดนัททุกชิ้นจึงเป็นงานคราฟต์ งานทำมือตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การผสมแป้ง ไข่ และยีสต์ การตีให้เข้ากัน พอได้ที่ก็เริ่มนวดแป้งเพื่อให้เกิดเส้นใยด้านใน
จากนั้นปั๊มให้เป็นทรงกลม แล้วนำไปเข้าตู้ปรู๊ฟเพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้นของแป้ง ให้ยีสต์โตจนทำให้แป้งขึ้นฟู และเมื่อทอดแป้งเรียบร้อยแล้วก็ต้องรีบใช้แม่พิมพ์ปั๊มให้เกิดรูกลางโดนัทขณะที่แป้งยังร้อนอยู่ ต่อไปคือการใส่ไส้ให้โดนัทด้วยวิธีฉีดไส้ให้ครบรอบวง หลังจากนี้คือ การแต่งหน้าโดนัท แล้วก็เตรียมส่งต่อความอร่อยให้กับทุกคน (ซึ่งแน่นอนว่าโดนัททำมือแบบนี้รูปทรงแต่ละชิ้นย่อมไม่เท่ากัน และรูปร่างหน้าตาไม่เป๊ะเหมือนโดนัทที่ทำครั้งละมากๆ)
ชิ้นแรก Classic Vanilla (95 บาท) รสคลาสสิกที่ไม่ทำให้ผิดหวัง ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นเม็ดสีดำเล็กที่มาจากฝักวานิลลาแท้ รสชาติเบาๆ แต่ยังมีความครีมมี่ให้ฟินได้ ชิ้นนี้ไม่แต่งหน้า โรยแค่ไอซิ่งกับสอดไส้ครีมวานิลลาแล้วจบเลย
ถ้าไม่ใช่สายหวาน Sugar Cinnamon (70 บาท) น่าจะตอบโจทย์ โดนัทชิ้นนี้ไม่ใส่ไส้ คลุกโดนัทกับน้ำตาล ซินนามอน และเกลืออีกนิดหน่อยให้มีรสเค็มอ่อนแทรกระหว่างเคี้ยว จับคู่กับอเมริกาโนร้อนเข้ากันสุด
Raspberry Rose (95 บาท) รสนี้โอ๊ตสึและโอ๊ตภูมิใจเสนอ เพราะมีความซับซ้อน เริ่มตั้งแต่การนำราสป์เบอร์รีสดไปกวนให้เป็นแยม ส่วนความกุหลาบนั้นได้มาจากการผสมกุหลาบให้เข้ากับวานิลลาคัสตาร์ด แล้วเกลซด้วยสตรอว์เบอร์รีอบแห้ง รสชาติไม่ต้องกลัวว่าจะหวาน เพราะมีความเปรี้ยวจากเบอร์รีมาตัดความหวานได้พอดิบพอดี เข้าคู่กับทั้งชาหรือกาแฟ
N&H (95 บาท) ย่อมาจาก Nutella & Hazelnut รสชาตินี้คือการทำให้นูเทลล่ามีรสชัดเจนขึ้น เพราะโรยถั่วเฮเซลนัทแล้วผสมโกโก้แท้ ตั้งต้นให้เป็นนูเทลล่าอีกรอบ แต่มีสัมผัสกรุบกรอบสนุกยิ่งขึ้น รสชาติเข้มข้น ออกหวาน และเป็นโดนัทสำหรับชีตเดย์ที่แท้จริง
คั่นความครีมมี่แบบช็อกโกแลตด้วย Young Coconut (95 บาท) ที่ได้ความเข้มข้นและครีมมี่จากเกลซกะทิเคลือบโดนัท ให้รสเค็มๆ มันๆ ปกคลุมด้วยมะพร้าวอบแห้ง ส่วนไส้ในเป็นแยมมะพร้าวอ่อนสดๆ ไส้นี้เป็นหนึ่งในไส้ขายดีเหมือนกัน
ล้ำไปอีกสเตป กับโดนัท Bacon & Cheddar Cheese (95 บาท) ซึ่งผสมผสานความ Savory ให้มาอยู่กับโดนัท ลองจินตนาการถึงโดนัทไส้ครีม แต่เปลี่ยนจากครีมเป็นคัสตาร์ดเชดดาร์ชีสดูสิ แล้วไอซิ่งโรยหน้า ถูกแทนที่ด้วยเบคอนกรอบ แม้จะดูไม่คุ้นหูคุ้นตา แต่เชื่อเราสิว่ารสนี้เด็ดจริง กินแล้วชวนหิวให้สั่งเบิ้ลแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับเครื่องดื่ม ทางร้านมีกาแฟเบลนด์พิเศษ Drop by Dough Blend ที่ได้ Roots เป็นผู้เบลนด์ให้เป็นการเฉพาะ ใช้เมล็ดกาแฟไทยจาก 4 แห่ง จะสั่งร้อนหรือเย็นก็เวิร์ก Hot Latte (100 บาท) ก็ดื่มง่าย เข้ากับโดนัททุกรสชาติ ถ้าไม่ดื่มกาแฟหรืออยากได้ดริงก์สดชื่น ต้องสั่ง Iced Homemade Lemonade (130 บาท) แค่จิบเดียวก็ทำให้เราหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
What You Should Know:
- Drop by Dough ชื่อนี้เกิดจากความคิดที่อยากให้คนได้แวะมา (Drop by) กินโดนัทแกล้มกาแฟ นั่งพักให้หายเหนื่อย ชาร์จพลังเสร็จแล้วกลับไปลุยต่อ หรือจะแค่แวะมาซื้อโดนัทสักกล่องระหว่างขาไปทำงาน หรือขากลับจากออฟฟิศ
- คลายข้อสงสัยว่าทำไมถึงมีผ้าม่านอยู่กลางร้าน: เพื่อทำให้โครงสร้างตึกดูไม่ขัดตา และแบ่งพาร์ทิชันระหว่างเคาน์เตอร์กับมุมลูกค้าให้ดูเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
- นอกจากโดนัทอร่อยๆ อย่าลืมติดตามเทรนด์ไลฟ์สไตล์ และเดสทิเนชันใหม่ๆ สำหรับวางแผนเที่ยวครั้งหน้า ที่เพจ OATS x Somewhere (www.facebook.com/oatsxsomewhere)
Drop by Dough
Open: ทุกวัน 10.00-18.00 น.
Address: ปากซอยสุขุมวิท 101/2
Budget: 200-300 บาท
Website: instagram.com/dropbydough
Map: