×

ผลวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกของโลกที่ทดลองในมนุษย์ออกมาแล้ว แต่มันคือความหวังหรือเรายังต้องรอต่อไป

โดย Mr.Vop
20.05.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพโมเดอร์นา เทอราพิวติกส์ เริ่มทดสอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในมนุษย์เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งจุดประกายความหวังให้กับมนุษยชาติ และทำให้ตลาดการเงินต่างขานรับ
  • วัคซีนดังกล่าวมีต้นกำเนิดมาจากการใช้สารพันธุกรรมของโรคโควิด-19 ที่เรียกว่า ‘เมสเซนเจอร์อาร์เอ็นเอ’ (mRNA) เป็นต้นแบบ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัคซีนด้วย
  • ดร.อาเมช อาดาลจา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อจากศูนย์จอห์น ฮอปกินส์ ให้ความเห็นถึงผลการทดลองของโมเดอร์นาว่ามีความสำคัญ แต่ต้องตระหนักว่านี่เป็นเพียงการทดลองทางคลินิกขั้นแรกที่ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างจำนวนน้อย และเป็นการทดลองเพื่อดูความปลอดภัยเท่านั้น ยังไม่ใช่การทดลองเพื่อดูประสิทธิภาพ

บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพโมเดอร์นา เทอราพิวติกส์ (Moderna Therapeutics) และสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) ได้เริ่มการทดสอบวัคซีนป้องกันโรคทางเดินหายใจโควิด-19 ในมนุษย์ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกที่ศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งในนครซีแอตเทิล เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2020 ในชื่อวัคซีนที่เรียกว่า mRNA-1733 

 

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาสหรัฐฯ ราคาหุ้นของทางบริษัทพุ่งทะยานขึ้นทันทีจนเป็นข่าวดังไปทั่ว จากการที่บริษัทออกมาประกาศผลการทดลองวัคซีนดังกล่าวในแง่บวก แต่ในช่วงใกล้ปิดตลาด ราคาหุ้นของทางบริษัทกลับปรับตัวลดลงอย่างฮวบฮาบ เมื่อมีข่าวนักวิชาการหลายรายออกมาจวกผลการทดลองในแง่ของความน่าเชื่อถือ

 

วัคซีนดังกล่าวมีต้นกำเนิดมาจากการใช้สารพันธุกรรมของโรคโควิด-19 ที่เรียกว่า ‘เมสเซนเจอร์อาร์เอ็นเอ’(mRNA) เป็นต้นแบบ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัคซีนด้วย 

 

ในการทดลองเฟสที่ 1 ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อหาความปลอดภัยของวัคซีน ทางบริษัทได้ฉีดวัคซีน mRNA-1733 ให้กับกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 45 คน ช่วงอายุจาก 18-55 ปี ในขนาด 25 ไมโครกรัม และ 100 ไมโครกรัม ผลปรากฏว่าในวันที่ 43 ของการทดลอง โมเดอร์นาตรวจพบระดับแอนติบอดี้ในร่างกายอาสาสมัครจำนวน 8 คน มีปริมาณที่เท่ากับหรือไม่ก็มากกว่ากว่าระดับแอนติบอดี้ของผู้ที่เพิ่งหายป่วยจากโรคโควิด-19 ใหม่ๆ ดังนั้นโมเดอร์นาจึงถือเป็นการตอบสนองต่อวัคซีนในเชิงบวก และได้ออกมาแถลงข่าวความสำเร็จนี้

 

แต่หลังข่าวแพร่ออกไปก็มีความเห็นจากนักวิชาการหลายรายที่ตั้งข้อสงสัยในแง่ของความน่าเชื่อถือของการทดลองนี้ 

 

ดร.อาเมช อาดาลจา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อจากศูนย์จอห์น ฮอปกินส์ ให้ความเห็นถึงผลการทดลองของโมเดอร์นาว่า “ผลการทดลองนี้มีความสำคัญ แต่ต้องตระหนักว่านี่เป็นเพียงการทดลองทางคลินิกขั้นแรกที่ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างจำนวนน้อย และเป็นการทดลองเพื่อดูความปลอดภัยเท่านั้น ยังไม่ใช่การทดลองเพื่อดูประสิทธิภาพ” 

 

นักวิทยาศาสตร์อีกรายคือ แอนนา เดอร์บิน ซึ่งเป็นนักวิจัยวัคซีนจากจอห์น ฮอปกินส์ เช่นเดียวกัน ตั้งข้อสังเกตว่าทางบริษัทตรวจพบแอนติบอดี้จากการเจาะเลือดอาสาสมัครหลังได้รับวัคซีนเข็มสุดท้าย 2 สัปดาห์ ซึ่งเวลาเพียงเท่านี้ไม่อาจสรุปได้ว่าแอนติบอดี้ที่เกิดขึ้นจะมีอายุใช้งานจริงยาวนานแค่ไหนในร่างกายมนุษย์

 

ด้านสื่ออย่าง statnews.com ก็ออกมาตั้งคำถามถึงผลของวัคซีนในร่างกายอาสาสมัครอีก 37 คนที่ทางโมเดอร์นาไม่ได้พูดถึง และยังไม่ได้ระบุอายุของอาสาสมัครทั้ง 8 คนให้ชัดเจนด้วย ทำให้เข้าใจไปได้อีกแบบว่าทั้ง 8 คนอาจเป็นกลุ่มอายุน้อยทำให้ผลการตอบสนองต่อวัคซีนเป็นไปในทางที่ดี

 

นอกจากนี้ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าผลการวิจัยไม่เป็นไปตามขั้นตอนปกติทั่วไปที่จะมีการส่งฉบับร่างไปรอตีพิมพ์ตามเว็บไซต์วิชาการเพื่อให้ผ่านการตรวจสอบจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญก่อนจะออกเผยแพร่สู่สาธารณชน การประกาศผลแบบข้ามขั้นตอนทำให้เกิดข้อสงสัยตามหลัง ส่งผลกับความน่าเชื่อถือของงานวิจัยนี้

 

ทางด้านเจ้าหน้าที่ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) ก็ไม่ได้ออกมาตอบคำถามใดๆ กับสื่อเพื่อคลายข้อสงสัยต่างๆ

 

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทโมเดอร์นาก็ยังคงเดินหน้าสู่การเตรียมการทดลองเฟส 2 ต่อไป ซึ่งเป็นการทดลองหาประสิทธิภาพของวัคซีนในเดือนกรกฎาคมกับอาสาสมัครจำนวน 600 คน โดยแจ้งว่าอาจมีการปรับขนาดของวัคซีนมาเป็น 50 ไมโครกรัม หลังพบว่าวัคซีนในขนาดที่มากกว่านี้ส่งผลให้เกิดแอนติบอดี้ในร่างกายอาสาสมัครมากเกินไป 

 

ระหว่างที่หุ้นของบริษัทโมเดอร์นามีความผันผวนนี้ เว็บไซต์บางแห่งก็ออกมาเตือนนักลงทุนให้ระวังหุ้นของบริษัท ไวร์ ไบโอเทคโนโลยี (Vir Biotechnology) ด้วย ที่ออกมาประกาศการค้นพบแอนติบอดี้ ซึ่งทีมผู้วิจัยเรียกว่า S309 จากร่างกายของผู้ป่วยรายหนึ่งที่เคยป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส (SARS) เมื่อ 17 ปีก่อน ซึ่งปรากฏว่าแอนติบอดี้ที่ว่านี้มีความสามารถในการลบล้างฤทธิ์ไวรัส (Neutralization) SARS-COV-2 ต้นเหตุของโรคโควิด-19 ได้ผลชะงัด ทำให้ทางไวร์ ไบโอเทคโนโลยี วางแผนจะใช้แอนติบอดี้นี้ผลิตเป็น ‘ค็อกเทลแอนติบอดี้’ (Antibody Cocktail) เพื่อเริ่มทำการทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ได้ใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้ต่อไป

 

เรียกว่าข่าวการค้นพบวิธีรับมือโรคโควิด-19 ที่มีผู้ป่วยทั่วโลกหลายล้านคนช่วงนี้จะเริ่มออกมาเป็นระยะ การเสพข่าวและการตัดสินใจลงทุนบนความน่าเชื่อถือของข่าวต้องหาข้อมูลให้รอบด้าน อย่าด่วนใจร้อน แต่ก็เข้าใจได้เพราะจำนวนผู้เสียชีวิตและความถดถอยทางเศรษฐกิจทำให้ผู้คนต่างรอคอยความหวัง แต่เราอาจยังคาดหวังกับยาและวัคซีนในระยะแรกๆ นี้ไม่ได้ คงต้องรอต่อไปอีกสักพักเพื่อให้การทดลองจากผู้ผลิตวัคซีนทั่วโลกนับร้อยรายลงตัวกว่านี้

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

 


 

ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising