×

ประธานศาลรัฐธรรมนูญยืนยัน ชี้ชะตาก้าวไกลไม่ทัน เม.ย. นี้ หลังพรรคขอขยายส่งคำแก้ข้อกล่าวหา 15 วัน

โดย THE STANDARD TEAM
10.04.2024
  • LOADING...
นครินทร์ ประธาน ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตา ก้าวไกล

วันนี้ (10 เมษายน) นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวภายหลังการประชุมวิชาการประจำปี เนื่องในโอกาส 26 ปีแห่งการสถาปนาศาลรัฐธรรมนูญ โดยยืนยันว่า ตลอด 26 ปีที่ผ่านมาปฏิบัติหน้าที่ได้บรรลุวัตถุประสงค์พอสมควรในระดับหนึ่ง ประเทศไทยเรามีรัฐธรรมนูญปี 2540, 2550, 2557, 2560 แม้จะเปลี่ยนแปลงไปบ้างเมื่อมีวิกฤตการณ์ของบ้านเมือง แต่กติกาและโครงสร้างทางการเมืองยังเหมือนเดิม ไม่แตกต่างไปจากเดิมมากนัก เช่นเดียวกับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระอื่นๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป อำนาจบางอย่างหายไปบ้าง เช่น อำนาจการยุบพรรคการเมืองของศาล กรณีที่ไม่ส่งบัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำปี และมีอำนาจให้ประชาชนเพิ่มขึ้น เช่น การร้องโดยตรงถึงศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นอำนาจใหม่ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 

 

ส่วนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่หลายครั้งถูกสังคมและนักวิชาการวิพากษ์วิจารณ์  นครินทร์ระบุว่า ความจริงการถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่วิจารณ์แล้วทำให้บ้านเมืองสงบและเป็นที่ยอมรับหรือเปล่า บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งปัญหาไม่ได้ขึ้นอยู่กับการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องจำเป็น และตนเองก็ยินดีที่ได้รับคำวิจารณ์จากนักวิชาการ องค์กรต่างๆ และพรรคการเมือง เขาก็วิจารณ์กันเต็มที่ แต่ข้อสำคัญคือ ขอให้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต อย่าใช้คำหยาบคาย อย่าดูถูกเหยียดหยามองค์กรตุลาการ เพราะว่ามีโทษตามกฎหมายอยู่

 

ส่วนหลังจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยคดีสำคัญทางการเมือง ซึ่งจะมีแรงกระแทกจากสังคมกลับมายังศาลรัฐธรรมนูญอีกนั้น นครินทร์ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ และอีกมุมหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่าศาลเป็นที่ยอมรับ เพราะข้อขัดแย้งทางการเมืองไม่ได้ลดลง แค่ปัญหาคือมีข้อขัดแย้งทางการเมืองแล้วจะแก้ปัญหากันอย่างไร ซึ่งหากพรรคการเมืองสามารถตกลงและเจรจากันได้ในสภา คดีก็จะไม่มาถึงศาล จบที่สภาดีกว่า แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้ ตัดสินใจยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา จึงแสดงให้เห็นว่าศาลเป็นที่พึ่ง และศาลก็พร้อมรับฟังข้อโต้แย้งของทั้งสองฝ่าย รวมถึงพิจารณาตามข้อกฎหมาย แล้วจึงตัดสินใจ 

 

ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า ศาลมีธงในการวินิจฉัย จะทำให้ประชาชนเข้าใจได้อย่างไร นครินทร์ระบุว่า เรื่องที่ขึ้นมาศาลจะออกได้สองหน้าเท่านั้น มันมีออกซ้ายกับขวา ไม่มีออกกลาง ตนอยู่มหาวิทยาลัยสอนหนังสือลูกศิษย์ตอบคำถามได้ 4-5 ทางก็ได้ ใครให้เหตุผลดีก็ให้คะแนนทั้งหมด แต่มาศาลมันไม่ใช่มันออกได้ด้านซ้ายด้านขวาเท่านั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ชอบเท่านั้น เมื่อออกได้สองทางเราอาจคิดว่าเป็นธง แต่เรียนว่าในศาลไม่มีธง เราโต้เถียงกันมากพอสมควร และต้องดีใจที่มีตุลาการใหม่เข้ามา คงทำให้ความเห็นหรือทิศทางบางอย่างเปลี่ยนไปได้

 

นครินทร์ยังเปิดเผยถึงขั้นตอนการพิจารณาคดีที่ผู้ถูกร้องยื่นขอขยายเวลาการส่งเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่า จะสามารถขยายได้กี่ครั้งขึ้นอยู่กับวินิจฉัยของศาลและจะพิจารณาตามความเหมาะสม โดยเฉพาะคดีการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้อนุมัติให้ขยายได้อีก 15 วัน โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนนี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดีพรรคก้าวไกลในสิ้นเดือนเมษายนนี้ และยังไม่ทราบว่าจะมีคำร้องขอเปิดการไต่สวนหรือไม่ ซึ่งจะสามารถทำให้รับฟังพยานเพิ่มเติมได้อีก และส่วนตัวก็อยากรับทราบว่าบุคคลต่างๆ ที่จะเข้าไต่สวนนั้นมีรายละเอียดอย่างไร

 

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลมีการเตรียมความพร้อมและคาดเดาคำวินิจฉัยที่จะออกมาได้แล้วนั้น นครินทร์ระบุว่า ก็เป็นที่คาดการณ์อย่างนั้น แต่เป็นข้อกฎหมายคนละมาตรากัน และหากมีการเปรียบเทียบคดีระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคไทยรักษาชาติ โดยเฉพาะโทษทางการเมืองนั้น ก็ยังมีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน และตัวแสดงทางการเมืองหรือตัวแสดงในคดีก็ไม่ใช่ตัวแสดงเดียวกัน 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising