×

กางจุดยืน 12 ข้อของจีนเพื่อคลี่คลายวิกฤตในยูเครน มีอะไรบ้าง

25.02.2023
  • LOADING...
จุดยืนจีน

รัฐบาลจีนได้ประกาศเน้นย้ำจุดยืนทางการเมืองของตนต่อวิกฤตในยูเครนผ่าน ‘แผนสันติภาพ 12 ข้อ’ ในโอกาสครบรอบ 1 ปี สงครามรัสเซีย-ยูเครน เมื่อวานนี้ (24 กุมภาพันธ์) หลังได้รับกระแสกดดันจากประชาคมโลก พร้อมทั้งถูกตั้งคำถามถึงความเป็นกลางและท่าทีที่จีนใกล้ชิดกับรัสเซียมากยิ่งขึ้น จนทำให้หลายชาติตะวันตกกังวลใจถึงความเป็นไปได้ที่จีนอาจส่งมอบอาวุธทางการทหารช่วยเหลือรัสเซีย เพื่อสู้รบในสมรภูมิยูเครน ซึ่งทางการจีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด

 

และนี่คือจุดยืนและแผนสู่สันติภาพของจีนที่เผยแพร่ในเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของจีน 

 

  1. เคารพอำนาจอธิปไตยของทุกประเทศ 

 

จีนมองว่าทุกฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงวัตถุประสงค์และหลักการในกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเคร่งครัด รวมถึงอำนาจอธิปไตย เอกราช และบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศจะต้องได้รับการยึดถืออย่างมีประสิทธิภาพ โดยทุกประเทศไม่ว่าจะเป็นประเทศขนาดใหญ่หรือเล็ก เข้มแข็งหรืออ่อนแอ มั่งคั่งหรือยากจน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิกที่เท่าเทียมกันในประชาคมโลก ทุกฝ่ายควรร่วมกันรักษาบรรทัดฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และปกป้องความยุติธรรมระหว่างประเทศ ผลักดันการใช้กฎหมายระหว่างประเทศที่เท่าเทียมกัน และปฏิเสธการเลือกปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน

 

  1. ละทิ้งความคิดแบบสงครามเย็น 

 

ความมั่นคงของประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ควรถูกไล่ตามด้วยความปรารถนาของผู้อื่น ความมั่นคงของภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งไม่ควรบรรลุเป้าประสงค์จากการเสริมความแข็งแกร่งหรือขยายกลุ่มทางการทหาร ผลประโยชน์และข้อกังวลด้านความมั่นคงของทุกประเทศจะต้องได้รับการดำเนินการอย่างจริงจังและได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม ไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาที่ง่ายสำหรับประเด็นที่ซับซ้อนเช่นนี้ 

 

โดยทุกฝ่ายควรที่จะปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ของการรักษาความมั่นคงร่วมกันที่ครอบคลุม ร่วมมือ และยั่งยืน พร้อมทั้งคำนึงถึงสันติภาพและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว โดยช่วยกันสร้างสถาปัตยกรรมด้านความมั่นคงในยุโรปที่สมดุลและมีประสิทธิภาพ รวมถึงต่อต้านแนวคิดที่แสวงหาผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของตนเองโดยแลกกับความมั่นคงปลอดภัยของผู้อื่น ป้องกันการเผชิญหน้ากัน และร่วมมือกันเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคยูเรเชีย

 

  1. ยุติการยิง / สู้รบ

 

ความขัดแย้งและสงครามไม่เป็นผลดีสำหรับใครเลย ทุกฝ่ายจะต้องมีเหตุผลและใช้ความยับยั้งชั่งใจ หลีกเลี่ยงการยั่วยุและการทำให้เกิดความตึงเครียด เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลายกลายเป็นวิกฤตความขัดแย้งที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยทุกฝ่ายควรสนับสนุนทั้งรัสเซียและยูเครนให้ร่วมหาทางออกในทิศทางเดียวกัน และกลับมาเปิดพื้นที่การเจรจาระหว่างกันโดยตรงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อค่อยๆ ลดระดับความตึงเครียดของสถานการณ์ลง และบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอย่างครอบคลุมในท้ายที่สุด

 

  1. กลับมาเดินหน้าเจรจาสันติภาพต่อ

 

การพูดคุยและเจรจาต่อรองกันเป็นเพียงทางออกเดียวที่พอจะเป็นไปได้ในวิกฤตยูเครนครั้งนี้ ความพยายามทั้งหมดที่เอื้อให้เกิดการเจรจาสันติภาพจะต้องได้รับการสนับสนุน ประชาคมระหว่างประเทศควรยึดมั่นในแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพูดคุยเพื่อสันติภาพ รวมถึงช่วยให้ฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้งนี้เปิดประตูสู่โต๊ะเจรจาโดยเร็วที่สุด รวมถึงสร้างเงื่อนไขและแพลตฟอร์มสำหรับการกลับมาเริ่มการเจรจาใหม่กันอีกครั้ง โดยจีนจะยังคงดำเนินบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในประเด็นนี้ต่อไป

 

  1. แก้ไขวิกฤตด้านมนุษยธรรม 

 

มาตรการทั้งหมดที่เอื้อต่อการบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรมจะต้องได้รับการสนับสนุน ขณะที่การดำเนินงานด้านมนุษยธรรมควรเป็นไปตามหลักความเป็นกลางและความยุติธรรม อีกทั้งประเด็นด้านมนุษยธรรมเหล่านี้ไม่ควรถูกทำให้เป็นการเมือง โดยความปลอดภัยของประชาชนพลเรือนจะต้องได้รับการปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพ และควรจัดตั้งพื้นที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เพื่อรองรับผู้ที่อพยพออกมาจากพื้นที่ความขัดแย้ง 

 

ทั้งยังจำเป็นต้องเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมปรับปรุงเงื่อนไขของการให้ความช่วยเหลือที่รวดเร็ว ปลอดภัย และไร้อุปสรรค เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมขยายตัวเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยสหประชาชาติควรได้รับการสนับสนุนและประสานความร่วมมือ เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังพื้นที่ความขัดแย้ง

 

  1. ปกป้องพลเรือนและเชลยศึกสงคราม (POWs) 

 

ทุกฝ่ายในความขัดแย้งควรปฏิบัติตามกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการโจมตีพลเรือนหรือโครงสร้างขั้นพื้นฐานของพลเรือน รวมถึงปกป้องผู้หญิง เด็ก เหยื่อของความขัดแย้ง และเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของเชลยศึกสงคราม โดยจีนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเชลยศึกระหว่างรัสเซียและยูเครน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสร้างเงื่อนไขที่เอื้อต่อการบรรลุเป้าประสงค์นี้ร่วมกัน 

 

  1. รักษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ปลอดภัยต่อไป

 

จีนต่อต้านการโจมตีใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือโครงสร้างขั้นพื้นฐานด้านนิวเคลียร์เพื่อสันติอื่นๆ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาว่าด้วยความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ (CNS) และหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุนิวเคลียร์ที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างเด็ดขาด โดยจีนสนับสนุนทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ในการแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยและความมั่นคงของโรงงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ

 

  1. ลดความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์ 

 

อาวุธนิวเคลียร์จะต้องไม่ถูกใช้ และสงครามนิวเคลียร์จะต้องไม่เกิดขึ้น ภัยคุกคามหรือการใช้อาวุธนิวเคลียร์ควรได้รับการต่อต้าน อีกทั้งการแพร่กระจายของนิวเคลียร์จะต้องได้รับการป้องกันและหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ โดยจีนต่อต้านการวิจัย การพัฒนา และการใช้อาวุธเคมีและชีวภาพของประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สถานการณ์ใดๆ ก็ตาม

 

  1. สนับสนุนการส่งออกธัญพืช

 

ทุกฝ่ายจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามโครงการ Black Sea Grain Initiative ที่ร่วมลงนามโดยรัสเซีย ตุรกี ยูเครน และสหประชาชาติอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพในลักษณะที่สมดุล รวมถึงสนับสนุนการแสดงบทบาทนำของสหประชาชาติในประเด็นนี้ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ความคิดริเริ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารโลกที่เสนอโดยรัฐบาลจีน เป็นทางออกที่เป็นไปได้สำหรับวิกฤตอาหารโลกในขณะนี้

 

  1. ยุติการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรแต่เพียงฝ่ายเดียว 

 

การคว่ำบาตรแต่เพียงฝ่ายเดียวและการกดดันขั้นสูงสุดไม่สามารถแก้ไขประเด็นปัญหานี้ได้ สิ่งเหล่านี้รังแต่จะสร้างปัญหาขึ้นใหม่เท่านั้น โดยจีนต่อต้านมาตรการคว่ำบาตรแต่เพียงฝ่ายเดียวที่ไม่ได้มติรับรองจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)

 

ทุกประเทศที่เกี่ยวข้องควรยุติการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรแต่เพียงฝ่ายเดียว และยุติการใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนในทางมิชอบกับประเทศอื่นๆ เพื่อช่วยลดระดับความตึงเครียดในวิกฤตยูเครน และสร้างเงื่อนไขสำหรับประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น

 

  1. รักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน

 

ทุกฝ่ายควรรักษาระบอบเศรษฐกิจโลกอย่างจริงจัง และต่อต้านการใช้เศรษฐกิจโลกเป็นเครื่องมือหรืออาวุธเพื่อจุดประสงค์ในทางการเมือง รวมถึงต้องร่วมมือกันบรรเทาการขยายตัวของวิกฤต และป้องกันไม่ให้กระทบต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านพลังงาน การเงิน การค้า อาหาร และการขนส่ง รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

 

  1. สนับสนุนการฟื้นฟูหลังวิกฤตความขัดแย้ง

 

ประชาคมระหว่างประเทศจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูหลังวิกฤตในโซนพื้นที่ความขัดแย้ง โดยจีนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ต่อความพยายามนี้

 

อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจีนจะย้ำชัดถึงจุดยืนของตนที่มีต่อวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนในแผนสันติภาพทั้ง 12 ข้อนี้ แต่บรรดาผู้นำโลกตะวันตก โดยเฉพาะ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา รวมถึง เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การ NATO กลับมองว่า จีนไม่ได้มีความน่าเชื่อถือมากขนาดนั้น เพราะที่ผ่านมาจีนปฏิเสธแม้กระทั่งการประณามกรณีรัสเซียรุกรานยูเครนว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย นอกจากนี้แนวทางทั้งหมดของจีนก็ถูกมองจากชาติตะวันตกว่าต้องการปกป้องผลประโยชน์ของรัสเซียมากกว่า

 

แฟ้มภาพ: Christophe Gateau / picture alliance via Getty Images

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising