×

กรุงศรี ออโต้ ยอมรับ ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่รถปี 2567 โตลดลงครั้งแรกรอบ 6 ปี หลังผู้บริโภคระวังใช้เงินก้อนใหญ่-ตลาด EV เริ่มโตชะลอ

21.03.2024
  • LOADING...

กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่รถในปี 2567 ที่ 2.19 แสนล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ที่มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 2.23 แสนล้านบาท ถือเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 แต่ยังตั้งยอดสินเชื่อคงค้างรวมปีนี้จะโตที่ 5% จากปี 2566 ด้วยมูลค่า 4.66 แสนล้านบาท 

 

คงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือกรุงศรี ออโต้ เปิดเผยว่า กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ยานยนต์ในปี 2567 อยู่ที่ 219,636 ล้านบาท โดยลดลงจากปี 2566 ที่มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 223,435 ล้านบาท ถือเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 เป็นไปตามภาพรวมของตลาด เนื่องจากหลังจากการร่วมพูดคุยกับดีลเลอร์และพาร์ตเนอร์ได้รับข้อมูลว่า ผู้บริโภคคำนึงระมัดระวังในการจ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการซื้อรถยนต์ที่เป็นเงินจำนวนก้อนใหญ่ แต่ยังตั้งยอดสินเชื่อคงค้างรวมปีนี้จะเติบโตที่ 5% จากปีก่อนหน้า ด้วยมูลค่า 466,577 ล้านบาท 

 

สำหรับการชะลอตัวของสินเชื่อปล่อยใหม่ดังกล่าว อีกส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบยอดขายรถ EV ในปี 2567 อาจจะเติบโตชะลอตัวลงจากปี 2566 หรือเติบโตไม่แรงเท่ากับปี 2566 เนื่องจากลูกค้ากลุ่มแรก (First Adoption) ที่มีความต้องการทดลองใช้ได้ซื้อรถ EV ไปแล้วเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ดึงดีมานด์ของรถ EV ออกไปจากตลาดค่อนข้างมากในปี 2566 

 

อีกทั้งมาตรการภาครัฐที่สนับสนุนด้านภาษีรถ EV 3.5 ที่ออกมา มีการสนับสนุนทางภาษีลดลงจากมาตรการ EV 3.0 ทำให้ราคารถ EV ปรับขึ้นมา ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อชะลอตัวลง ซึ่งกรุงศรี ออโต้ ประเมินว่า ยอดขายรถ EV ในปี 2567 จะอยู่ที่ 100,000 คัน จากปีก่อนที่ 76,000 คัน แต่กรุงศรี ออโต้ ยังคงสนับสนุนสินเชื่อรถ EV ให้กับลูกค้า โดยตั้งเป้าสัดส่วนพอร์ตของสินเชื่อรถ EV ในปี 2567 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 50% จากปี 2566 อยู่ที่ 49%

 

ภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดสินเชื่อยานยนต์ปี 2567

 

อย่างไรก็ดี แม้ภาพโดยรวมของเศรษฐกิจจะมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง ซึ่งเป็นผลกระทบจากกำลังซื้อและการตัดสินใจซื้อของคนที่จะซื้อรถ แต่ในเรื่องของอัตราการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ของกรุงศรี ออโต้ ในช่วงต้นปี 2567 ยังคงอยู่ที่ระดับ 80% และมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่ระดับ 20% ใกล้เคียงกับปี 2566 ยังคงเห็นว่ากลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมีศักยภาพของกำลังซื้อและความสามารถในการชำระหนี้ที่ดี เมื่อเทียบกับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถ Commercial Car ที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจมากกว่า

 

อีกทั้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกนโยบายหลักการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) 

 

“ด้านนโยบายด้าน Responsible Lending เป็นวิธีการทำงานที่กรุงศรี ออโต้ ทำมามากกว่า 10 ปีแล้ว ทำให้เราไม่ได้รับผลกระทบจาก Regulation ใหม่นี้ของแบงก์ชาติ จึงไม่มีผลกระทบทำให้สินเชื่อ Drop” คงสินกล่าว

 

คงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือกรุงศรี ออโต้

 

เข้มคัดกรองสินเชื่อ เน้นดูความสามารถผู้กู้-ประวัติเครดิตบูโร

 

สำหรับนโยบายในการคัดกรองลูกค้าในการปล่อยสินเชื่อของกรุงศรี ออโต้ มีมาตรการที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีนโยบายในการปรับเพิ่มความเข้มงวดจากเดิมอีก โดยจะพิจารณาใน 2 เรื่องหลัก คือ 

 

  1. ความสามารถในการจ่ายหนี้ของผู้กู้ ซึ่งจะดูในเรื่องสัดส่วนค่างวดในการผ่อนจ่ายเปรียบเทียบกับรายได้ของผู้กู้ว่าเป็นจำนวนกี่เท่าของรายได้เป็นหลัก 

 

  1. ประวัติและข้อมูลเครดิตบูโร ซึ่งได้มีการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระสำหรับสินเชื่อรถยนต์เป็นสูงสุด 84 เดือน และสินเชื่อรถจักรยานยนต์สูงสุด 72 เดือน เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถคำนวณอัตราการชำระหนี้ได้เหมาะสมกับรายได้ของแต่ละราย รวมทั้งรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อรถยนต์ต่อเนื่องด้วยมาร์เก็ตแชร์ที่ระดับประมาณ 33% หรือมีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของทั้งตลาดสินเชื่อยานยนต์

 

ส่วนภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปี 2566 ที่มีแนวโน้มหนี้เสีย (NPL) ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงมียอดยึดรถยนต์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคัน เนื่องจากภาพรวมคนไทยมีความมั่งคั่ง (Wealth) ลดลง ส่งผลให้ผ่อนค่างวดต่อไม่ไหว ในส่วนของกรุงศรี ออโต้ พร้อมให้การช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ที่มีปัญหา โดยสามารถติดต่อเข้ามายังเจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อประนอมหนี้ผ่านมาตรการต่างๆ โดยนับตั้งแต่ปี 2543 ถึงปัจจุบัน กรุงศรี ออโต้ ได้ให้ความช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าที่มีปัญหาไปแล้วมากกว่า 8 แสนราย แต่หลังจากปี 2566 เริ่มมีแนวโน้มที่ลูกค้ากรุงศรี ออโต้ มีความต้องการปรับโครงสร้างหนี้ลดลง อาจสะท้อนว่าลูกค้าไม่มีกำลังเพียงพอในการผ่อนค่างวดต่อ 

 

อย่างไรก็ดี ประเมินว่าแนวโน้ม NPL ของกรุงศรี ออโต้ ในปี 2567 จะลดลงอยู่ที่ระดับ 2% จากปี 2566 ที่อยู่ในระดับประมาณ 2.50% อีกทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยที่มีโอกาสลดลง และจะช่วยให้ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ดีขึ้นตามเศรษฐกิจที่มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จากภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดีขึ้น

 

“ดอกเบี้ยของแบงก์ชาติเราคงไม่ Speculate ว่าจะขึ้นหรือลง เรามองว่าเป็นไปตามกลไกตลาด ขึ้นกับผู้ว่าฯ แบงก์ชาติกับรัฐบาล แต่สิ่งที่เรามองคือถ้าดอกเบี้ยขึ้นหรือลงจะมีผลกระทบอะไรกับผู้ใช้รถ”

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising