×

ใครว่าโรบัสตาไม่อร่อย ตามไปจิบ ชิมขนมที่รับแรงบันดาลใจจากถิ่นใต้ไทยกันที่ ‘ขมิ้น Camin Cafe’

25.02.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 MINS. READ
  • ‘ขมิ้น Camin Cafe’ คาเฟ่ตามสมัยนิยม ทว่าอบอวลไปด้วยกลิ่นอายท้องถิ่นทางภาคใต้ของไทยได้อย่างร่วมสมัย สนุก และน่ารัก ภายในบ้านเก่าที่ได้รับการรีโนเวตให้เป็นเรือนกระจกกลางสวนสวย 
  • จิบกาแฟจากเมล็ดกาแฟโรบัสตา ‘หนุ่มใต้’ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยคิด เคยเชื่อกันว่าไม่อร่อย แต่บาริสต้าของทางร้านได้ใช้เทคนิคการคั่ว ลองผิดลองถูกให้ได้ Flavour Profile ที่ใช่และดีที่สุด จนขอบอกว่าดื่มลื่นมาก 
  • ชิมเบเกอรีที่ประยุกต์สร้างสรรค์โดยใส่ส่วนผสมของท้องถิ่นใต้ลงไปอย่าง ‘ทาร์ตลูกหยีอัลมอนด์ครีมน้ำผึ้ง’ ซึ่งใช้ลูกหยีเป็นส่วนผสม และอีกหลากหลายเมนูอร่อยที่มีกลิ่นอายของภาคใต้

คราวที่แล้ว THE STANDARD POP ได้แนะนำร้านอาหารใต้หรอยแรง ‘ขมิ้น Camin Cuisine’ กันไปแล้ว และอย่างที่บอกว่าเราค่อนข้างจะชื่นชมในความตั้งใจ และความใส่ใจในรายละเอียดของ เบียร์-จุฑาทิพย์ เพชรเรือนทอง ผู้เป็นเจ้าของร้านอยู่ไม่น้อย คราวนี้ขอพาข้ามมายังฝั่งคาเฟ่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เบียร์ผู้ภูมิใจในความเป็นคนใต้ของตน ยังคงนำแรงบันดาลใจจากท้องถิ่นใต้ของไทยมาใส่เป็นกิมมิกในการตกแต่งร้าน และสร้างสรรค์เมนูขนมกับเครื่องดื่มของ ขมิ้น Camin Cafe แห่งนี้ให้เป็นคาเฟ่ตามสมัยนิยม ทว่าอบอวลไปด้วยกลิ่นอายท้องถิ่นทางภาคใต้ของไทยได้อย่างร่วมสมัย สนุก และน่ารัก 

 

The Vibe

 

 

แม้จะรีโนเวตจากตัวบ้านเก่าที่ปรับปรุงให้เป็นเรือนกระจกเพดานสูงโปร่ง เช่นเดียวกับฝั่งร้านอาหาร แต่ขมิ้นคาเฟ่มีบุคลิกที่แตกต่างตรงที่มีอารมณ์และบรรยากาศของความเป็นผู้หญิงมากกว่าทางฝั่งร้านอาหาร ด้วยรายละเอียดต่างๆ อย่าง ดอกไม้และปลากัดในขวดโหลที่ช่วยเพิ่มชีวิตชีวา ของแต่งร้านที่เป็นไฮไลต์อย่างโคมไฟแชนเดอเลียร์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปลากัดตัวเมีย ซึ่งถ้าไม่บอกก็คงจะไม่รู้เลยว่าทำมาจากทองแดงที่นำไปหลอมแล้วนำมาถักทอให้มีรูปทรงที่พลิ้วไหวคล้ายผ้า ล้อเป็นคู่กับแชนเดอเลียร์รูปหางปลากัดตัวผู้ซึ่งทำจากสเตนเลสที่อยู่ทางฝั่งร้านอาหาร 

 

โคมไฟแชนเดอเลียร์รูปปลากัดตัวเมียทำจากทองแดง และครัวเปิดทำขนม 

 

ภายในคาเฟ่แห่งนี้มีครัวเปิดสำหรับทำขนม ซึ่งผนังเพนต์รูปปลากัดสีสวยงาม และในบางคราวเบียร์ก็ยังแพลนว่าจะใช้สำหรับจัดเวิร์กช็อปทำขนมสำหรับผู้ที่สนใจอีกด้วย นอกจากนี้ทางด้านนอกยังมีสวนร่มรื่นกว้างใหญ่ดีไซน์สวนป่า ที่มาพร้อมกับเสียงน้ำไหลเย็นใจของน้ำตกอีก 7 จุด

 

สวนร่มรื่นกว้างใหญ่ดีไซน์สวนป่า มาพร้อมกับน้ำตก 7 จุด

 

The Drinks

 

‘มะม่วงเบาโซดา’ และ ‘ลูกหยีโซดา’ สองเมนูน้ำซ่าที่สะท้อนความเป็นท้องถิ่นใต้ได้เป็นอย่างดี 

 

เริ่มต้นจิบกันในบรรยากาศดีๆ แบบนี้ด้วยเครื่องดื่มเย็นเบาๆ แสนสดชื่น และสะท้อนความเป็นใต้ได้ดีกับ มะม่วงเบาโซดา (120 บาท) รสชาติเปรี้ยวหวาน ซึ่งใครที่เป็นแฟนมะม่วงเบาของใต้อยู่แล้วรับรองว่าต้องชอบ ส่วนอีกแก้วหนึ่งนั้นเราค่อนข้างเซอร์ไพรส์ในความคิดสร้างสรรค์ของมิกโซโลจิสต์ เพราะเอาลูกหยี ผลไม้ที่ได้รับความนิยมและอุดมอยู่ในภาคใต้มาทำเป็น ลูกหยีโซดา (120 บาท) แก้วนี้ได้รสลูกหยีมาแบบเข้มๆ ทว่าสดชื่นลงตัวยิ่งนัก  

 

คนที่ชอบดื่มกาแฟจำนวนไม่น้อยมักจะมีความเชื่อฝังใจกันว่ากาแฟที่อร่อยจะต้องเป็นเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าเท่านั้น ทว่าขมิ้นคาเฟ่กลับเลือกที่จะไฮไลต์เมล็ดกาแฟโรบัสตา ซึ่งประเทศไทยมีแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญอยู่ที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดระนอง มาเป็นกาแฟหลักของร้าน (แต่ก็มีกาแฟอาราบิก้าให้เลือกดื่มด้วยเช่นกัน) ซึ่งบาริสต้าของทางร้านบอกว่า หลังจากที่ใช้ความพยายามในการลองผิดลองถูก ก็พบว่ากระบวนการ Wash Process และการใช้เทคนิคคั่วระดับกลางนั้นทำให้ได้ Flavour Profile ที่ใช่และดีที่สุด ซึ่งยังคงความหนักแน่นของกาแฟโรบัสตา แต่ก็ยังมีรสหวานเปรี้ยวอ่อนๆ คล้ายกับกาแฟอาราบิก้า ทั้งนี้เมล็ดกาแฟโรบัสตาตัวนี้ได้รับการตั้งชื่ออย่างน่ารักว่า ‘หนุ่มใต้’

 

‘Himmapan Amber’ กาแฟดำใส่น้ำผึ้งชันโรง

 

เราเริ่มจิบเครื่องดื่มกาแฟกันด้วย Himmapan Amber (140 บาท) กาแฟดำใส่น้ำผึ้งชันโรง น้ำผึ้งที่มีชื่อเสียงด้านสรรพคุณทางยาจากทางใต้ ซึ่งจะมีเอกลักษณ์อยู่ที่รสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนน้ำผึ้งทั่วๆ ไป แก้วนี้ไม่ได้ใส่น้ำผึ้งมากจนหวานกลบรสกาแฟ ทว่าได้ทั้งกลิ่นหอมและรสหวานจางๆ ของน้ำผึ้ง เป็นเมนูกาแฟดำเย็นที่จิบง่ายชื่นใจ นอกจากนี้ยังได้ลองจิบ Hot Cappucino (80 บาท) ฟองนมสวยละเมียดได้มาตรฐานจัดว่าดี และ Iced  Latte (100 บาท) ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาชงโดยใช้เมล็ดกาแฟโรบัสตา ‘หนุ่มใต้’ ซึ่งเราขอบอกเลยว่าไม่เคยจิบโรบัสตาที่ไหนแล้วอร่อยลื่นเท่านี้มาก่อนเลย 

 

Hot Cappucino และ Iced Latte

 

The Dishes

รายการขนมของขมิ้นคาเฟ่ มีทั้งขนมไทยและขนมฝรั่งที่ประยุกต์นำส่วนผสมเด่นๆ ของภาคใต้ไทยใส่ลงไปด้วย โดยจะมีเชฟของหวานที่เชี่ยวชาญคอยรับดูแลขนมไทย และเบเกอรีอย่างละคน เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพและแบ่งความรับผิดชอบกันได้อย่างชัดเจน

 

‘เซตแม่หญิงใหญ่’ เซตขนมไทย 15 ชนิด

 

สำหรับไฮไลต์ของฝั่งขนมไทย แนะนำให้สั่ง เซตแม่หญิงใหญ่ (299 บาท) ขนมไทยชุดใหญ่จัดเต็ม ประกอบด้วยขนมไทยถึง 15 ชนิด อาทิ ฝอยทอง ทองหยอด หันตรา สัมปันนี กลีบลำดวน ขนมผิง หม้อแกง อาลัวสด ตะโก้ทับทิมกรอบ ขนมกล้วย ขนมชั้น ขนมโค ขนมมันหน้ากระทิ ฯลฯ แต่ถ้ากลัวจะมากเกินไป ก็มีของหวานเซตเล็กที่ขนาดและราคาย่อมเยาว์ให้เลือกด้วยใน เซตแม่หญิงเล็ก (189 บาท) สำหรับขนมไทยที่ได้ชิมแล้วพบว่ารสชาติดีเป็นพิเศษคือ หม้อแกงอาลัวสด กับขนมโค และขนมมันหน้ากระทิ ซึ่งสองอย่างหลังเป็นขนมเด่นของทางภาคใต้ รสชาติถึงเครื่องถึงรส ที่น่าพูดถึงคือ ขนมโคนั้นเลือกใช้น้ำตาลแว่นของทางใต้ จึงได้รสละมุนไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป 

 

 ‘ทาร์ตลูกหยีอัลมอนด์ครีมน้ำผึ้ง’ ด้านบนเป็นวิปกานาชที่ใช้ลูกหยีเป็นส่วนผสม 

 

ด้านเบเกอรี ต้องยอมรับว่ามีเมนูออริจินัลซิกเนเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง ซึ่งเราไม่เคยเห็นที่ร้านไหนมาก่อนอย่าง ทาร์ตลูกหยีอัลมอนด์ครีมน้ำผึ้ง (120 บาท) ซึ่งข้างในจะเป็นเค้กที่มีอัลมอนด์ครีมและมีกลิ่นหอมของน้ำผึ้ง ด้านบนเป็นวิปกานาชที่ใช้ลูกหยีเป็นส่วนผสม หอมกลิ่นลูกหยี รสออกเปรี้ยวเล็กน้อยแต่ละมุน 

 

‘เค้กมะพร้าวอ่อน’ แต่ละชิ้นใช้เนื้อมะพร้าวไม่ต่ำกว่าหนึ่งลูก

 

เค้กมะพร้าวอ่อน (150 บาท) ซึ่งเชฟเบเกอรีของที่นี่การันตีว่าแต่ละชิ้นใช้มะพร้าวในการทำไม่ต่ำกว่าหนึ่งลูก โดยจะเลือกเนื้อส่วนที่ยังแข็งนำมาทำเป็นไส้ตรงกลาง ส่วนเนื้อมะพร้าวอ่อนก็จะวางโป๊ะไว้อยู่ด้านบน เวลารับประทานจึงให้รสสัมผัสที่หลากหลาย หวานกำลังดี ละมุนทั้งเนื้อเค้ก ครีม และเนื้อมะพร้าวอ่อน 

 

‘โอเปราชาไทย’ เนื้อเค้กเป็นชั้นๆ แทรกด้วยครีมชาซีลอน

 

ส่วนของหวานอย่างสุดท้ายที่เราได้ชิมคือ โอเปราชาไทย (150 บาท) ใช้ชาซีลอนซึ่งได้รับความนิยมในแถบภาคใต้เป็นส่วนผสมหลัก ทำเนื้อเค้กออกมาเป็นชั้นๆ แทรกด้วยครีมชาซีลอน ได้ทั้งรสและกลิ่นชาที่ชัดเจน

 

นอกจากนี้ขมิ้นคาเฟ่ยังมีเบเกอรีเมนูอื่นๆ ซึ่งครีเอตโดยใช้วัตถุดิบเด่นๆ จากทางภาตใต้ที่เราคิดว่าน่าสนใจ อย่าง เค้กอินทผาลัม และ ชีสเค้กส้มซ่า ไว้ให้ลองชิมกันอีก ซึ่งใครที่อยากจะชิมขนมอร่อยๆ ที่มีแรงบันดาลใจจากท้องถิ่นใต้แบบนี้ ทั้งยังจะได้มีส่วนช่วยในการกระจายรายได้ให้ถึงมือเกษตรกรผู้ผลิตวัตถุดิบจากภาคใต้ที่ทางร้านเลือกใช้ ก็คงต้องไปอุดหนุนกัน

 

What Else You Should Know: 

  • น้ำตาลแว่น เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปมาจากน้ำตาลโตนดของชาวอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น อำเภอสทิงพระเป็นพื้นที่ซึ่งมีต้นตาลโตนดปลูกมากที่สุดในประเทศไทย การทำน้ำตาลแว่นนั้นจะต้องอุทิศทั้งเวลาและความอดทน โดยจะต้องเคี่ยวน้ำตาลโตนด เติมน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อย เพื่อกันไม่ให้เกิดฟองยามเคี่ยว จากนั้นกวนจนหนืดเป็นสีน้ำตาลเข้ม นำมาตักหยอดลงในแว่นพิมพ์แล้ววางทิ้งไว้ให้เย็นลงจนแห้งเป็นแว่น ให้รสชาติที่หวานกลมกล่อมกว่าน้ำตาลทราย เหมาะสำหรับเป็นส่วนผสมในการทำขนม 
  • นอกจากเครื่องดื่มที่เราได้ชิมและลองแนะนำกันไปบ้างแล้ว ขมิ้นคาเฟ่ยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ ใน Camin’s Collection ที่บาริสต้าสร้างสรรค์มาได้อย่างน่าสนใจ อาทิ The Lost Recipe (1,000 บาท) ที่ใช้กาแฟถึง 6 ช็อต บ่มในถังไม้กับกระชายดำและขมิ้นขาวถึง 5 วัน ทั้งยังมีสรรพคุณในการชูกำลังอีกด้วย, Sea Spinel (140 บาท) ที่เป็นกาแฟชงผสมกับผสมลูกหยีและนำมาเชกให้เกิดฟอง ซึ่งนอกจากจะมีทั้งความเข้มของกาแฟแล้ว ยังได้รสเปรี้ยวของลูกหยีด้วย นอกจากนี้ในขมิ้นคอลเล็กชันนี้ยังมีเครื่องดื่มที่น่าลองอีกหลายแก้ว รวมถึงกาแฟ Slow Bar แบบดริปและไซฟอนอีกด้วย

 

Open: ทุกวัน 08.00-19.00 น.

Address: 151/3 ซอยประเสริฐมนูกิจ 2 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

Budget: เครื่องดื่มราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท, ขนมราคาเริ่มต้นที่ 120 บาท

Contact: โทร. 09 5615 6615

Page: www.facebook.com/camin.cuisineandcafe.th

Map:

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising