×

วิโรจน์เปิดข้อสังเกต 8 ประเด็น ปมผู้บริหาร กทม.ชุดเก่า ไม่ยอมจ่ายหนี้ BTS แม้มีเงินสะสมเพียงพอ

โดย THE STANDARD TEAM
02.09.2022
  • LOADING...
รถไฟฟ้า BTS

หลังจากที่มีการฟ้องร้องข้อพิพาทรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ BTSC ฟ้องกรุงเทพมหานครและกรุงเทพธนาคม (KT) ที่ศาลปกครอง ในกรณีที่ BTSC เรียกร้องให้ กทม. จ่ายเงินที่ค้างชำระค่าเดินรถและค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 เป็นเงิน 11,755 ล้านบาท ซึ่งค้างมาตั้งแต่ผู้บริหาร กทม. ชุดที่แล้ว

 

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ตนและทีมงานพรรคก้าวไกลได้เข้าไปสังเกตการณ์ในกรณีนี้ด้วย ซึ่งวิโรจน์ได้ตั้งข้อสังเกตต่อกรณีนี้ 8 ประเด็นที่น่าสนใจ คือ

 

  1. ผู้บริหาร กทม.ชุดก่อน ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร คสช. เคยร้องขอต่อสภา กทม. ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐประหาร คสช. ให้มีการอนุมัติเงินสะสมของ กทม. มาจ่ายหนี้ค่ารถไฟฟ้า แต่สภา กทม. ในขณะนั้นกลับไม่อนุมัติให้นำเอาเงินสะสมมาจ่ายหนี้ให้แก่ BTSC ทำให้หนี้ค่าจ้างเดินรถและค่าซ่อมบำรุงสะสมทบต้นทบดอกจนเป็นภาระหนี้สินที่หนักมากขึ้น ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมาก เพราะ กทม. มีเงินสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก เพียงพอต่อการใช้หนี้ ไม่จำเป็นต้องเบี้ยวหนี้จนดอกเบี้ยทบต้นทบดอก

 

  1. มีสัญญาระหว่างกรุงเทพธนาคมกับ BTSC อยู่ 2 ฉบับ ที่เป็นสาระสำคัญที่ กทม. ควรพิจารณาเปิดเผยต่อสาธารณะ ได้แก่ สัญญาจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 ที่ กทส.006/55 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 และสัญญาจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 2 ที่ กทส.024/59 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2559 ซึ่งตัวเลขหนี้สินต่างๆ ที่ กทม. และกรุงเทพธนาคม ค้างจ่ายให้กับ BTSC ล้วนคำนวณมาจากสัญญา 2 ฉบับนี้

 

  1. สัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นหลักที่มีอายุสัญญาสัมปทาน 30 ปี จะสิ้นสุดลง ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2572 แต่สัญญาจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงทั้งสองฉบับข้างต้นยังคงผูกพัน กทม. และกรุงเทพธนาคม ไปจนถึงปี 2585 นั่นหมายความว่าสัญญาทั้งสองฉบับนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการเปิดประมูลสัมปทานใหม่ ดังนั้นการอ่านสัญญาทั้งสองฉบับนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

 

  1. หนี้ที่ กทม. และกรุงเทพธนาคม ค้างจ่าย BTSC มีอยู่ทั้งสิ้น 11,755.08 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเดินรถและค่าซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348.66 ล้านบาท (เงินต้น 2,199.1 ล้านบาท และดอกเบี้ย 149.56 ล้านบาท), ค่าเดินรถและค่าซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406.42 ล้านบาท (เงินต้น 8,786.77 ล้านบาท และดอกเบี้ย 619.65 ล้านบาท)

 

  1. หลังจากที่ทราบว่าหนี้ที่ทาง กทม. และกรุงเทพธนาคม ค้างจ่ายให้กับ BTSC นั้นมีมูลค่าอยู่ที่ 11,755.08 ล้านบาท แม้ว่าจะเป็นหนี้ระดับหมื่นล้าน แต่ก็ไม่ได้เป็นภาระที่น่าหนักใจอะไร เพราะ กทม. มีเงินสะสมอยู่มากถึง 69,757 ล้านบาท (ณ วันที่ 30 กันยายน 2564) ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. สามารถขออนุมัติจากสภา กทม. ให้นำมาจ่ายหนี้ให้แก่ BTSC ได้ ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้หนี้ทบต้นทบดอกจนกลายเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว

 

  1. ผู้บริหารชุดใหม่ของกรุงเทพธนาคมมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า หากมีการคำนวณใหม่ ให้ตัวเลขต่างๆ มีความถูกต้องตามหลักวิศวกรรมและหลักการทางการเงิน มูลหนี้ทั้งหมดน่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่ง กทม. และกรุงเทพธนาคม สามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ได้หากพบว่ามูลหนี้ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น

 

  1. มูลหนี้เพียงแค่ 11,755.08 ล้านบาท ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้ กทม. จำเป็นต้องต่ออายุสัมปทาน เมื่อทราบว่ามูลหนี้ที่ถูกฟ้องอยู่ในระดับที่ กทม. จ่ายไหว ยิ่งทำให้มั่นใจว่าทางออกของรถไฟฟ้าสายสีเขียวคือ การเปิดประมูลใหม่เมื่ออายุสัมปทานหมดลงในปี 2572 โดยในมาตราที่ 49 ของ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในปีนี้ หรืออย่างช้าในปี 2567 กทม. สามารถจัดทำแผนในการเปิดประมูลใหม่ เพื่อเสนอต่อรัฐบาลได้แล้ว

 

  1. ศาลปกครองจะมีคำพิพากษาในวันพุธที่ 7 กันยายน 2565 ซึ่งในวันดังกล่าวประชาชนจะได้รับทราบข้อเท็จจริงต่างๆ ถึงกรณีพิพาทนี้อย่างชัดเจนขึ้น
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising