×

ส.ส.ประชาธิปัตย์ ขอคนกรุงเทพฯ ใช้ ‘สติ-หัวใจ’ เข้าคูหาเลือกผู้ว่าฯ อย่าตกเป็นเหยื่อยุทธศาสตร์ ‘ไม่เลือกเราเขามาแน่ ภาค 2’

โดย THE STANDARD TEAM
20.05.2022
  • LOADING...
พรรคประชาธิปัตย์

วันนี้ (20 พฤษภาคม) พนิต วิกิตเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เขียนข้อความผ่านเพจส่วนตัว ‘Panich Vikitsreth – พนิต วิกิตเศรษฐ์’ ตั้งค่าการเข้าถึงแบบสาธารณะ ในหัวข้อ ‘9 ปีมานี้ กรุงเทพฯ ได้อะไร’ โดยมีรายละเอียดระบุว่า ในฐานะคนกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเคยมีประสบการณ์ทำงานในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯ กทม.)รวมถึงทำหน้าที่ ส.ส.กทม. ตนอยากบอกว่าวันที่ 22 พฤษภาคมนี้มีความสำคัญอย่างมาก เป็นวันที่ชี้ชะตาว่าอนาคตของ กทม. จะเดินไปทางไหน 

 

พนิตระบุว่า อยากให้เรามองย้อนกลับไปว่าตลอด 9 ปีที่ผ่านมาสภาพ กทม. เป็นอย่างไร โดยสิ่งที่ได้รับฟังส่วนมากคือเสียงร่ำร้องของคนกรุงฯ ต่อปัญหาต่างๆ ยังดังระงม โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดที่ต้องพึ่งพาตัวเองให้มีชีวิตรอด เพราะพวกเขามองว่าการบริหารจัดการที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงใช่หรือไม่

 

นอกจากคนกรุงฯ ต้องรักษาชีวิตจากโรคระบาดแล้ว ยังต้องปากกัดตีนถีบเพื่อหารายได้ประทังชีวิตให้อยู่รอดได้ในภาวะที่เศรษฐกิจย่ำแย่สุดกู่ โดยไม่สามารถพึ่งหวังการช่วยเหลืออะไรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เลย

 

ไม่เพียงเท่านั้นยังถูกซ้ำเติมจากความไม่ชอบธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขูดรีด เก็บส่วย ตลอดจนการรับเงินใต้โต๊ะ 

 

แม้แต่เรื่องน้ำท่วม น้ำรอการระบาย ปัญหานี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มันเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า 9 ปีผ่านมาทุกอย่างเหมือนนิ่งอยู่กับที่ ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด    

 

ขณะที่ กทม. ในห้วง 9 ปีมานี้ไม่ต่างอะไรกับดินแดนสนธยา ที่ผู้คนต่างพากันค่อนแคะว่ากระบวนการตรวจสอบผุพัง ผู้บริหาร และ ส.ก. ที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไร้การถ่วงดุล ไร้การตรวจสอบ แต่ละเรื่องถูกตั้งข้อสังเกตว่า มุ่งแต่สนองงานให้กับผู้มีอำนาจมากกว่าที่จะตอบโจทย์ให้กับประชาชน 

 

เสียงสะท้อนบอกว่าเป็น 9 ปีที่ กทม. เหมือนหยุดอยู่กับที่ หรือบางคนมองว่ามันก้าวถอยหลังไปเสียด้วยซ้ำ และน่าหวั่นใจยิ่งกว่าที่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งครั้งนี้มีความพยายามจะใช้วิธีการหาเสียงด้วยวิธีการแบบเดิมๆ ด้วยการทำให้สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เป็นการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ หรือ Strategic Vote โดยพยายามจับประชาชนแยกเป็นสองฝั่ง ชักจูงให้เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้ได้มากที่สุด 

 

มีการสร้างความหวาดกลัว โดยการปลุกผีคนนั้นคนนี้ขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า หากเลือกผู้ว่าฯ กทม. จะได้นักการเมืองอีกคน รวมถึงการสาดโคลน สร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนเพื่อดิสเครดิตคู่แข่ง 

 

ตนเห็นว่าวิธีการนี้นอกจากจะไม่สร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม เพราะมันเท่ากับการปิดโอกาสคนกรุงฯ ให้ได้ผู้ว่าฯ กทม. ที่มีความรู้ความสามารถ และตั้งใจแน่วแน่ในการเข้ามาแก้ปัญหา

 

ยุทธศาสตร์หาเสียงแบบ ‘ไม่เลือกเราเขามาแน่’ เราเห็นผลลัพธ์กันมาแล้วว่า 9 ปีว่าเป็นอย่างไร ฉุดรั้งหรือพัฒนาเมืองหลวงของประเทศแค่ไหน เรามีบทเรียนกันมาแล้ว  และคิดว่าจะยอมให้มีการจับชาวกรุงเทพฯ เป็นตัวประกันในภาค 2 อีกหรือไม่

 

พนิตกล่าวต่อว่า อยากวิงวอนคน กทม. การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญกับ กทม. เป็นอย่างมาก ไม่ว่าก่อนหน้านี้ใครจะประกาศเชียร์ใคร 22 พฤษภาคมนี้โปรดเดินเข้าคูหาเลือกคนที่ ‘สติ’ เราวิเคราะห์แล้วว่าเหมาะสม เลือกคนที่ ‘หัวใจ’ เราเชื่อว่าไว้วางใจได้ใน 4 ปีข้างหน้าแก่คนทุกกลุ่ม พร้อมใจกว้างเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และหลากหลายเข้ามามีส่วนร่วมวางรากฐานรองรับอนาคตของชาติ  

 

รวมทั้งพ่อเมืองคนใหม่จะต้องทำงานได้กับทุกฝ่ายด้วยความอิสระ เพื่อพาคน กทม. ออกจากความขัดแย้ง มุ่งสู่การพัฒนา กทม. ด้วยการทำงานและนโยบายที่สร้างสรรค์ 

 

“ดังนั้นต้องเลือกคนที่เราไว้วางใจ อย่าให้ใครชี้นำ เพราะคนที่ชี้นำทุกคนต่างมีแผน เลศนัย รวมถึงอาเจนด้า ขออย่าตกเป็นเหยื่อในอาเจนด้าของใคร แต่ให้เลือกคนที่ดีที่สุด และได้โปรดอย่าใช้อารมณ์ ตัดสินด้วยคำผีบอก เพราะผมคิดว่าการกระทำลักษณะนี้เป็นการดูถูกความคิดคน กทม. อย่างมาก ตลกร้ายกว่าคือผู้พูดบางคนยังเป็นคนต่างจังหวัดที่พยายามมาแทรกแซง กทม. ในวันที่ 22 พฤษภาคมไม่เพียงแต่เป็นวันชี้ชะตาคน กทม. ยังเป็นวันกำหนดว่าจะให้พวกเราจมอยู่ที่เดิม และปล่อยให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ตามยุทธศาสตร์ที่มีการวางเอาไว้อีกหลายๆ ปี ฉะนั้นสิทธิและเสียงของเราจะเป็นคำตอบหลังเข้าคูหาเลือกตั้งว่าจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง รวมทั้งพาพวกเราออกจากความขัดแย้งได้หรือไม่” พนิตกล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising