×

เปิดใจ ‘บัณฑูร ล่ำซำ’ ลาตำแหน่งประธานฯ กสิกรไทย มอบโจทย์ผู้บริหารฝ่าวิกฤตโควิด-19

08.04.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • บัณฑูร ล่ำซำ นายใหญ่ของธนาคารกสิกรไทย ลงจากตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการของธนาคารอย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะอยู่ระหว่างวิกฤตโควิด-19 แต่ยังเชื่อมั่นในทีมบริหารว่าจะผ่านพายุลูกใหญ่นี้ได้
  • บทบาทใหม่ของบัณฑูรกับฉายาประธานกิตติคุณ ธนาคารกสิกรไทย ลุยโครงการด้านป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติ ย้ำไม่ลงเล่นการเมือง แต่ต้องทำงานร่วมกัน

หลายปีมานี้ธนาคารกสิกรไทยปรับโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสลับผู้บริหารสายงานต่างๆ ไปจนถึงการเพิ่มกรรมการผู้จัดการให้มีถึง 4 คน ล่าสุด บัณฑูร ล่ำซำ ผู้นำหัวเรือใหญ่ ประกาศออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการ​ธนาคารกสิกรไทย 

 

การเลือกออกจากตำแหน่งสำคัญในช่วงวิกฤตโควิด-19 บัณฑูรมีมุมมองอย่างไร  

 

‘บัณฑูร’ กับการทำงาน 40 ปีที่ธนาคารกสิกรไทย

บัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าการทำงานธนาคารกว่า 40 ปีเป็นงานที่ทำให้มองโจทย์การแก้ไขปัญหาการค้าได้ดี ยิ่งการบริหารองค์กรใหญ่ที่มีปัญหาหลากหลายทำให้มีประสบการณ์ที่มองโจทย์ได้กว้างไกล รู้จักตั้งคำถามและการหาคนมาช่วยแก้ปัญหา

 

ตอนนี้ปัญหาหรือพายุลูกใหม่มาในรูปแบบโรคระบาด วิกฤตโควิด-19 สร้างความเสียหายไปทั่วโลกทั้งด้านทรัพยากรและความไม่สงบทางสังคม จึงต้องเตรียมรับมือให้พร้อมกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ในส่วนธุรกิจธนาคารเคยเจอวิกฤตมาแล้วในปี 2540 (วิกฤตต้มยำกุ้ง) และฟื้นตัวมาได้ ทำให้โครงสร้างทางการตุนเสบียง ​(เตรียมตัวไว้) พอสมควร ต่อให้เกิดความถดถอยทางเศรษฐกิจ ระบบธนาคารพาณิย์ยังคงรับมือได้  

 

“วิกฤตโควิด-19 สร้างความเสี่ยงหลายด้าน ก็หวังว่ามาตรการรัฐและมาตรการต่างๆ ที่ใส่ไว้จะไม่ทำให้เราไปถึงจุดนั้น (อย่างปี 2540) ที่พายุมาแล้วล่มเลย ส่วนตอนนี้ใส่ (มาตรการ) ไว้ครบไหมก็ยังไม่แน่ใจ เพราะพายุยังไม่เกิด” บัณฑูรกล่าว

 

ในช่วงวิกฤต เห็นภาครัฐออกมาตรการต่างๆ มาช่วยเหลือดูแลผู้ประสบความเดือดร้อน แต่ต้องรอดูว่าโรคจะเกิดขึ้นนานเท่าไร โดยหวังว่ามาตรการที่ภาครัฐและฝ่ายแพทย์ทำอยู่จะสกัดการแพร่ระบาดได้​ หากจบปัญหาเรื่องโรคไป หลายคนต้องกลับมาทำมาหากิน ต้องคิดกันให้มากขึ้น แม้ว่าการลงทุนจะหาสินเชื่อได้ แต่ต้องหาทางสร้างองค์ความรู้ใหม่อย่างไร 

 

“พายุที่ก่อตัวอีกแบบหนึ่งคือพายุของการที่ไม่สามารถจะแข่งขันกับเขาได้ในโลกใบนี้ ความรู้ใหม่ต้องสร้างขึ้นมา ความรู้แบบเดิมใช้ไม่ได้แล้ว” บัณฑูรกล่าว

 

 

 

การเปลี่ยนผู้นำในภาวะวิกฤต-ชีวิตหลังลงจากตำแหน่ง

บัณฑูรกล่าวต่อไปว่าปัจจุบันทำงานธนาคารมา 40 ปี คิดว่าถึงแก่เวลาแล้ว จึงส่งมอบงานให้ทีมอย่างมั่นใจทั้งในคณะกรรมการและผู้บริหารทุกระดับ แต่ยังอยู่ที่ธนาคาร เนื่องจากยังต้องใช้ทรัพยากรต่างๆ ของธนาคารเพื่อช่วยงานอื่นต่อไป

 

“การลงจากตำแหน่งในช่วงที่วุ่นวายแบบนี้คือการทดสอบทีมใหม่ที่ดีที่สุด ถ้ารับมือตอนนี้ได้ก็สามารถรับมือสถานการณ์ตอนไหนก็ได้ ถือเป็นจังหวะที่ดีที่สุด” บัณฑูรกล่าว

 

ขณะเดียวกันมี 4 คำเตือนให้ทีมบริหาร ‘อย่ามั่ว อย่าไม่คำนวณ อย่าชุ่ย อย่าเหยียบตีนกัน’

 

  • อย่ามั่ว เพราะถ้ามั่วคือความไม่ชัดเจน ตกลงกันอย่างหนึ่งแล้วทำอีกอย่างหนึ่ง มันแก้ปัญหาไม่ได้ 
  • อย่าไม่คำนวณ ทุกอย่างมีตัวเลขกำกับ พูดลอยๆ เป็นนามธรรม พูดได้ทั้งนั้น ตัวเลขไม่ถึงก็ไม่ได้ผล 
  • อย่าชุ่ย ทุกอย่างต้องมีความระมัดระวัง 
  • อย่าเหยียบตีนกัน การรักษาสัมพันธภาพของคนที่อยู่ในทีมงานเป็นเรื่องใหญ่ การทะเลาะกันตลอดเวลาไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา

 

นับจากนี้ ด้วยความสนใจส่วนตัวเรื่องการเกษตรซึ่งเกี่ยวโยงไปถึงการรักษาทรัพยากรป่า จะมีกสิกรไทยเข้ามามีส่วนร่วมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่น ป่าต้นน้ำของไทย โดยเฉพาะจังหวัดน่าน ถือเป็นโจทย์ท้าทายที่ร่วมกับหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันแก้ปัญหา

 

ส่วนหนึ่งที่ปรับใช้ประสบการณ์จากการทำงานธนาคารคือการมองให้กว้างขึ้น และหาเทคนิคในการสร้างอาชีพระดับท้องถิ่นที่โยงไปกับป่า


ส่วนคำถามที่ว่าหลังจากนี้จะเข้าสู่การเมืองไหม บัณฑูรตอบว่าไม่เล่นการเมือง แต่ยังต้องทำงานร่วมกันกับภาคการเมือง เพราะเป็นฝ่ายที่ได้รับอำนาจจากประชาชน ดังนั้นทั้งภาครัฐ สายการเมือง ข้าราชการ ต้องทำงานด้วยกัน

 

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising