ย้อนกลับไป Apple สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการด้วยการเปิดตัว Apple Watch Ultra ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชอบกิจกรรมแบบสมบุกสมบัน ไม่ว่าจะขึ้นเขาหรือดำน้ำ ที่ต่างมีฟีเจอร์รองรับทั้งสิ้น
และเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งมีการเปิดตัว Apple Watch Ultra 2 ไป นอกจากฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจแล้ว คำถามที่ตามมาคือ ถ้าเราไม่ได้มีกิจกรรมแบบสมบุกสมบัน จะคุ้มไหมกับการจ่ายเงิน 31,900 บาท เพื่อซื้อ Apple Watch Ultra 2
ในการเปิดตัว Apple บอกว่า Apple Watch Ultra 2 เป็นนาฬิกาที่สมบุกสมบันและมากความสามารถที่สุดของ Apple ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิมด้วยการอัปเดตประสิทธิภาพต่างๆ
นาฬิกาขับเคลื่อนโดย Apple Silicon รุ่น S9 ซึ่ง Apple เคลมว่า เป็นชิปนาฬิกาที่ทรงพลังที่สุดของ Apple มาพร้อมกับ Neural Engine แบบ 4-Core ใหม่ที่สามารถประมวลผลงานด้านการเรียนรู้ของระบบได้เร็วกว่า Apple Watch Ultra แบบดั้งเดิมสูงสุดถึงสองเท่า
สิ่งที่น่าสนใจคือ คำสั่งนิ้ว ‘แตะสองครั้ง’ โดยใช้เพียงแค่มือเดียว ไม่ต้องแตะจอภาพ ผู้ใช้สามารถใช้มือที่สวมนาฬิกาแตะนิ้วชี้กับนิ้วโป้งสองครั้งเพื่อทำสิ่งที่ทำบ่อยๆ อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบายบน Apple Watch Ultra 2
จากการใช้งานเราพบว่า ชอบฟังก์ชันนี้มาก เพราะทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้มืออีกข้างมาปิดการแจ้งเตือนที่เข้ามา แต่ยังไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น เพราะบางครั้งเราใช้มือแตะสองครั้งก็ไม่สำเร็จ และอาจต้องขยับมือแรงหน่อยเพื่อให้นาฬิการับรู้
ต่อมาคือจอภาพมีความสว่างได้สูงสุดถึง 3,000 นิต ซึ่งสว่างกว่า Apple Watch Ultra รุ่นแรกถึง 50% และเป็นจอภาพที่สว่างที่สุดที่ Apple เคยออกแบบมา
ซึ่งนี่เป็นตัวที่เราชอบมาก เพราะการที่จอสว่างมากๆ และขนาดจอ 49 มิลลิเมตร ทำให้เราไม่จำเป็นต้องแพ่งสายตานานๆ เวลาที่เราต้องการดูเวลาหรือการแจ้งเตือนต่างๆ
ยังมี Modular Ultra หน้าปัดใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับ Apple Watch Ultra ใช้ประโยชน์จากหน้าจอขนาดใหญ่ โดยใช้ขอบด้านนอกเพื่อนำเสนอข้อมูลแบบเรียลไทม์ รวมถึงวินาที ระดับความสูง หรือความลึก
สำหรับเราที่ไม่ใช่สายสมบุกสมบัน หน้าปัดนี้อาจไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อเรามากนัก แต่กลับกันเราชอบมาก เพราะให้ความรู้สึกที่ดูไฮเทคดี หรืออย่างมีการบอกว่า พระอาทิตย์จะตกเวลาใด เราก็ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้อยู่ไม่น้อยในการทำกิจกรรมอื่นๆ เวลาอยู่นอกบ้าน
ในแง่ของแบตเตอรี่ ตัว Apple Watch Ultra 2 จะใช้งานได้ 36 ชั่วโมงในโหมดปกติ และ 72 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งสำหรับเราที่ทำกิจกรรมทั่วไปแล้ว พบว่าแทบไม่ต้องใช้โหมดประหยัดพลังงานเลยก็อยู่ได้ 2 วันกว่าๆ ด้วยซ้ำ สำหรับการทำกิจกรรมทั่วๆ ไป
และสำหรับสายรักษ์โลก Apple บอกว่า Apple Watch Ultra 2 ที่จับคู่กับสายแบบ Alpine Loop หรือ Trail Loop มาพร้อมกับไทเทเนียมรีไซเคิล 95% เมื่อเทียบกับการไม่ใช้ไทเทเนียมรีไซเคิลใน Apple Watch Ultra รุ่นแรก
ในมุมมองส่วนตัวแบบคนที่ไม่ได้ใช้ในกิจกรรมแบบสมบุกสมบัน เราคิดว่าเราคุ้มสำหรับการจ่ายเงิน 31,900 บาท เพื่อซื้อ Apple Watch Ultra 2 เพราะนอกเหนือจากฟังก์ชันแล้ว สิ่งที่เราชอบมากกว่านั้นคือดีไซน์ที่ออกแบบได้ถูกใจเราเป็นอย่างมาก เพราะให้ความรู้สึกถึงความไฮเทค
ยิ่งไปกว่านั้นการที่เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ทำให้เราพกหัวชาร์จแค่อันเดียว ก็ใช้กับอุปกรณ์ของ Apple ที่เรามีอยู่แล้ว
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น สำหรับอื่นๆ สามารถไปประเมินความคุ้มค่าในด้านต่างๆ ก่อนได้เลย แต่ถ้าชอบ ก็จัดได้เลยอย่าได้เสียเวลา!
ภาพ: Justin Sullivan / Getty Images