×

มติ ป.ป.ช. ฟันรองเลขาฯ ซุกทรัพย์สินกว่า 227 ล้านบาท เจ้าตัวโวยถูกกลั่นแกล้ง ฟ้องกลับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

โดย THE STANDARD TEAM
16.08.2019
  • LOADING...

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ แถลงว่า ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการกรรมการ ป.ป.ช. จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินจำนวน 6 รายการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินในชื่อของธนิภา พวงจำปา คู่สมรส โดยเป็นทรัพย์สินในประเทศ 2 รายการ รวม 2,010,000 บาท และทรัพย์สินในต่างประเทศ 4 รายการ รวม 225,383,103 บาท มูลค่ารวม 227,393,103 บาท

 

เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกระทำของประหยัดนั้น ความผิด พ.ร.บ.ป.ป.ช. 2561 มาตรา 167 โดยมีมติให้ส่งอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ศาลประทับรับฟ้อง ให้เพิกถอนสิทธิการรับสมัครเลือกตั้ง พร้อมขอให้ลงโทษทางอาญาตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 158 มาตรา 43 มาตรา 81 มาตรา 167 และมาตรา 188 ต่อไป พร้อมกันนี้ทางสำนักงาน ป.ป.ช. จะตั้งคณะกรรมการสอบต่อไป ส่วนการจะตั้งคณะกรรมการไต่สวนกรณีร่ำรวยผิดปกตินั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

 

ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. ที่โรงแรมริชมอนด์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ประหยัดพร้อมทนายความแถลงข่าวกรณีที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลว่า ตนได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2560 ต่อมาได้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาลอนดอน ที่ภรรยาทำธุรกิจกับชาวต่างประเทศ และขอกู้เงินเพื่อซื้อห้องชุดที่แจ้งว่าได้โอนกรรมสิทธิ์และปิดบัญชีไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถปิดได้ จึงได้ยื่นแสดงรายการบัญชีธนาคาร 3 บัญชีเพิ่มเติม ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 เรียบร้อยแล้ว จึงไม่เจตนาปกปิดแต่อย่างใด และชี้แจงว่าเป็นการที่ภรรยาถือครองกรรมสิทธิ์แทนบุคคลอื่นที่ทำธุรกิจร่วมกัน และได้ยื่นเพิ่มเติมปรากฏต่อคณะกรรมการเรียบร้อยแล้ว

 

“การดำเนินการคดีดังกล่าว เป็นการกลั่นแกล้งและดำเนินการไม่ชอบหลายประการไม่ให้ความเป็นธรรม ที่ผ่านมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่เคยให้โอกาสเข้าพบ หรืออธิบายชี้แจงแต่อย่างใด และไม่เคยแจ้งผลการพิจารณาตามหนังสือขอความเป็นธรรม ทั้งที่ได้ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้งเป็นการพิจารณาไต่สวนเพียงฝ่ายเดียว”

 

ประหยัดกล่าวต่อว่า กระบวนการไต่สวนที่เร่งรัดดำเนินการผิดปกติและไม่เป็นมาตรฐานตามข้อกฎหมาย มีเจตนากลั่นแกล้งตนในฐานะรองเลขาฯ ป.ป.ช. อาวุโสลำดับหนึ่ง รับราชการมาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์และยืนหยัดกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งเลขาฯ ป.ป.ช. พร้อมกับวรวิทย์ แต่เมื่อวรวิทย์เป็นเลขาฯ ตนก็ถูกลดบทบาทมาตลอด จึงต้องพิสูจน์ความถูกต้อง และขอความเป็นธรรมต่อศาลยุติธรรม จึงได้ฟ้องเลขาธิการ ป.ป.ช. ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาคหนึ่ง ในข้อหาหรือฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.40/2562 และจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอีกหลายคน ที่ทำเป็นกระบวนการต่างกรรมต่างวาระหลายครั้งต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ต่อไป

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising