×

ABar จิบจินชมวิวบนดาดฟ้า แล้วมาต่อสปิริตสีรสเข้มที่บาร์ขรึม

18.01.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins read
  • สองบาร์ใหม่ล่าสุดใจกลางกรุง หนึ่งในนั้นคือจินบาร์บนชั้นดาดฟ้าที่มีจินให้เลือกดื่มถึงเกือบ 60 ชนิด กับโทนิกอีกกว่า 10 ตัว นับเป็นสวรรค์ของคนรักการดื่มจินโดยแท้
  • ด้านบาร์สปิริตสีที่ตั้งอยู่ห่างกันเพียงลัดชั้น นอกจากจะมีบรรยากาศเคร่งขรึมสไตล์สุภาพบุรุษยุควิกตอเรียนแล้ว ยังมีคลาสสิกทวิสต์ค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคทองแห่งค็อกเทล และเหล้าสีคุณภาพที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี แม้ตอนนี้จะมีอยู่ประมาณ 40 กว่าฉลาก แต่ในอนาคตอันใกล้ตั้งเป้าว่าจะเก็บสปิริตมาประดับไว้ในคลังให้ถึง 200 ฉลาก

สองบาร์ใหม่ที่เพิ่งให้บริการหมาดๆ แต่เนื่องจากอยู่ถัดจากกันเพียงแค่ระดับความสูงลัด 1 ชั้น เราจึงขออนุญาตรวบตึงเขียนแนะนำกันทีเดียว ข้อดีของการไป ABar และ ABar Rooftop ณ โรงแรม แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค คือไปครั้งเดียวแล้วได้สัมผัสประสบการณ์ดื่มสองแนวและสองบรรยากาศในคราวเดียว

 

A Bar

 

The Vibe

ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกนั่งตรงไหนก่อน เราขอแนะนำให้ขึ้นไปที่ ABar Rooftop บนชั้นดาดฟ้า ซึ่งเวลาเย็นย่ำแบบนี้ก็จะได้เห็นซิตี้วิวของกรุงเทพฯ ในยามพระอาทิตย์เปลี่ยนสี บรรยากาศเปิดโล่ง พอตกดึกก็จะเห็นแสงไฟสวยงามของตึกที่แต่งแต้มยามค่ำคืน แล้วค่อยๆ จิบค็อกเทลเบาๆ ที่มีส่วนผสมของจิน ส่วนยามดึกขึ้นมาหน่อยก็ค่อยเคลื่อนตัวลงไปข้างล่างที่ ABar บนชั้น 37 เปลี่ยนเข้าสู่โหมดบรรยากาศเคร่งขรึมของบาร์เหล้าสี ซึ่งมีบุคลิกสไตล์สุภาพบุรุษยุควิกตอเรียน ​มีที่นั่งให้เลือกทั้งข้างใน และซิการ์บาร์เทอร์เรซสำหรับผู้ที่หลงใหลในกลิ่นยาสูบ

 

A Bar Rooftop

 

The Drinks

บาร์ทั้งสองมีคอนเซปต์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และมีเมนูดริงก์ลิสต์เป็นของตัวเอง แต่ไม่ว่าจะถูกใจดริงก์ของฝั่งไหนก็ตาม คุณก็สามารถที่จะสั่งข้ามมานั่งจิบยังอีกฝั่งหนึ่งได้ ในส่วนของ ABar Rooftop นั้นเป็นบาร์จินเต็มรูปแบบ ซึ่งมีจินที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี และมีอยู่ในปัจจุบันถึง 57 ฉลาก ทั้งทางบาร์ยังมีโครงการว่าจะหาจินตัวใหม่ๆ มาประดับเพิ่มขึ้นในลิสต์อีกเรื่อยๆ ในอนาคต

 

สำหรับคนที่ชอบดื่มจินโทนิก ที่นี่มีโทนิกชั้นดีให้เลือกถึงกว่า 10 ตัว เรียกได้ว่าถ้าเป็นคนรักจินแล้ว มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่ ซึ่งบาร์เทนเดอร์ของที่นี่มีความรู้เป็นอย่างดีว่าจินฉลากไหนจะจับคู่กับโทนิกยี่ห้อไหนแล้วออกมาดี และเขาพร้อมจะให้คำแนะนำกับนักดื่มอยู่แล้ว แต่หากคุณอยากจะทดลองเลือกแมตช์จินกับโทนิกที่สนใจด้วยตนเองก็สามารถทำได้

 

Signature Gin Tonic No.3

 

ด้านการแบ่งหมวดก็น่าสนใจ เพราะมีการแบ่งที่ชัดเจน เช่น London Dry, Light & Crips, Floral & Aromatic, Floral & Fruity, Gin Liqueur ฯลฯ ทั้งตามที่มาและตามคาแรกเตอร์ของจิน ด้านเมนูก็มีทั้งที่เป็นคลาสสิกและซิกเนเจอร์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเอง โดยแก้วแนะนำสำหรับเราในวันนี้ ได้แก่ Signature Gin Tonic No.3 (425 บาท) ใช้จินของ Martin Miller ผสม Fever Tree Mediterranean Tonic ประดับดอกเข็มกินได้ออร์แกนิกของโครงการหลวง และอีกแก้วชื่อ Bitter Sweet Time (385 บาท) ดริงก์แนวสปริตเซอร์สดชื่น มีส่วนผสม ได้แก่ Beefeater 24 Gin, โรสแมรี, เหล้า Aperol ซิตรัส ไทม์ ท็อปอัพด้วย Fever Tree Tonic

 

Bitter Sweet Time

 

ส่วนด้านล่างชั้น 37 ของ ABar นั้นจะเน้นเมนูเครื่องดื่มเหล้าสีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิสกี้, ดาร์กรัม, คอนยัก ฯลฯ ปัจจุบันในช่วงซอฟต์โอเพนนิ่งอยู่นี้  A Bar มีสปิริตสีแล้วกว่า 40 ฉลาก ซึ่งถือเป็นเพียงแค่ประมาณ 30% ของที่ตั้งเป้าเอาไว้เท่านั้น ในอนาคตทางบาร์หมายใจว่าจะหาสปิริตสีมาประดับในลิสต์ให้ได้ถึง 200 ฉลาก หากเป็นไปได้

 

Study In Stone

 

ดริงก์ตัวแรกของของฝั่งบาร์สปิริตสีที่เราได้จิบก็คือ Study In Stone (415 บาท) มีส่วนผสมของ Nusa Cana Rum ซึ่งเป็นไวท์รัมจากอินโดนีเซีย , Dry Sherry และ Oleo Saccharum กับน้ำเลมอน แก้วนี้รสหวานละเมียดสดชื่น แถมยังกรุ่นกลิ่นเข้มๆ ของดาร์กรัม ส่วนตัวสุดท้ายคือแก้วสำหรับสายแข็งที่ชอบกลิ่นและรสเหล้าเข้มๆ อย่าง Bobby Burns (395 บาท) มีส่วนผสมของ Glenlivet Founder’s Reserve เป็นเบส หอมกลิ่นช็อกโกแลตหน่อยๆ จาก Crème de Cacao กับ Benedictine D.O.M เหล้าหวานที่กลั่นจากสมุนไพรและเครื่องเทศ และ Carpano Classico ซึ่งเป็นเหล้าเวอร์มุทชนิดหนึ่ง

 

Bobby Burns

 

Open: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-01.00 น.

Address: ชั้น 37 และดาดฟ้าโรงแรม แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค 199 ซอยสุขุมวิท 22 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ​

Budget: ซอฟต์ดริงก์ราคาเริ่มต้นที่ 125 บาท เครื่องดื่มสปิริตเริ่มต้นที่ 315 บาท   

Contact: 0 2059 5999

Website: www.bangkokmarriottmarquisqueenspark.com

Map: 

 

 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่

FYI
  • Oleo Saccharum หรือ Oil Sugar เป็นการแยกความหวานออกมาในรูปลักษณ์ของน้ำมัน ซึ่งจะใช้ผลไม้รสเปรี้ยว หรือพวกผลไม้ตระกูลซิตรัสในการทำ ให้รสชาติหวานที่มีความล้ำลึกกว่าการใช้ไซรัปธรรมดา
  • ช่วงยุคทองอันรุ่งเรืองแห่งค็อกเทลอยู่ระหว่างปี 1806-1910 เป็นยุคที่มีการคิดค้นและสร้างสรรค์เครื่องดื่มค็อกเทลสูตรคลาสสิกออกมามากมาย และมีการออกตำรา Bartender’s Guide ขึ้นเป็นครั้งแรกโดย เจอร์รี โทมัส บาร์เทนเดอร์ชาวอเมริกัน ในปี 1862
  • A Bar Rooftop ดูแลโดย สายไหม นันทรัตน์ มิกโซโลจิสต์รุ่นใหม่ที่เคยผ่านการทำงานร่วมกับบาร์ชั้นนำอย่าง Highball Bangkok, Bunker Sathorn,  Hyde & Seek Peek-a-Boo ส่วน A Bar นั้นมีหัวหน้ามิกโซโลจิสต์ประจำบาร์คือ โรจนัสถ์ เจริญศรี ผู้เป็นเจ้าของร้านอาหาร Fillets อันโด่งดัง ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์การทำบาร์ในสหรัฐอเมริกามาแล้ว
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising