รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศถอนตัวจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยให้เหตุผลว่าองค์การชำนัญพิเศษดังกล่าวมีอคติทางการเมืองต่ออิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ อีกทั้งล้มเหลวในการตรวจสอบและลงโทษประเทศสมาชิกที่มีปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ถูกมองว่ามีจุดประสงค์เพื่อตอบโต้ยูเอ็น หลังจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐฯ ว่าไร้ศีลธรรม สืบเนื่องจากกรณีที่ตำรวจตระเวนชายแดนของสหรัฐฯ พรากเด็กๆ ให้แยกจากพ่อแม่ผู้อพยพในบริเวณชายแดนติดกับเม็กซิโกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
นิกกี ฮาเลย์ ทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นระบุว่า ที่ผ่านมาคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปองค์การ เนื่องจากปัจจุบันได้กลายเป็นกลไกที่ปากว่าตาขยิบ และมีอคติต่ออิสราเอลอย่างรุนแรง
“ผู้กระทำผิดด้านสิทธิมนุษยชนยังคงทำหน้าที่ต่อ และได้รับเลือกเข้ามาทำงานในคณะมนตรีแห่งนี้” ฮาเลย์กล่าว “ระบอบที่ไร้มนุษยธรรมมากที่สุดในโลกยังคงรอดพ้นจากการถูกตรวจสอบ แต่คณะมนตรีกลับพยายามหาแพะกับประเทศที่มีประวัติด้านสิทธิมนุษยชนเป็นบวก ด้วยเจตนาแอบแฝงที่จะหันเหความสนใจจากประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนตัวจริง ซึ่งเป็นสมาชิกภายในองค์การแห่งนี้”
“เป็นเวลานานมาแล้วที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนได้กลายเป็นผู้ปกป้องประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนเสียเอง”
ปัจจุบันคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมีสมาชิกทั้งหมด 47 ประเทศและเป็นเวทีสำคัญที่สหรัฐฯ ใช้ในการอภิปรายประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก แต่ที่ผ่านมาองค์การแห่งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เนื่องจากมีการเปิดรับประเทศที่มีปัญหาสิทธิมนุษยชนเข้ามาเป็นสมาชิก ขณะที่หลายคนมองว่าบางประเทศได้อาศัยความเป็นสมาชิกเพื่อทำให้ตัวเองรอดพ้นจากการถูกตรวจสอบและลงโทษ
อย่างไรก็ดีการประกาศถอนตัวของสหรัฐฯ ได้สร้างความวิตกให้กับบรรดานักกิจกรรมหรือนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีปากมีเสียง และคอยติดตามสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลกอย่างใกล้ชิดมาตลอด
ด้านอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ได้ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐฯ ไตร่ตรองอีกครั้ง และเป็นสมาชิกในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนต่อไป
ขณะที่เซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้แสดงความผิดหวังที่สหรัฐฯ ตัดสินใจถอนตัวครั้งนี้ แต่ระบุว่าไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ
อ้างอิง: