×

BYD และ Geely ผงาดทำกำไรพุ่งครึ่งปีแรก ต่างจากค่ายรถรัฐที่ร่อแร่ ท่ามกลางวิกฤตตลาดรถยนต์จีน

09.09.2024
  • LOADING...
BYD

ตลาดรถยนต์จีนในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างค่ายรถยนต์เอกชนและรัฐวิสาหกิจ โดย BYD และ Geely Automobile Holdings โดดเด่นด้วยการเติบโตของกำไรอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ SAIC Motor และค่ายรถอื่นๆ ของรัฐ ต้องดิ้นรนในตลาดที่การแข่งขันสูงขึ้น

 

BYD ทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 24% เป็น 13,600 ล้านหยวน (1,900 ล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบครึ่งแรกของปี และสูงที่สุดในบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จีน 10 อันดับแรกที่รายงานผลประกอบการ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม ยอดขายรถยนต์ของ BYD เพิ่มขึ้น 28% เป็น 1,610,000 คัน โดยส่วนใหญ่มาจากยอดขายในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็น 105,000 คัน

 

BYDประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่มีประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังลดราคาขายรถยนต์มากกว่า 10 รุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายได้อย่างมาก

 

แม้ว่าการลดราคาจะทำให้รายได้ต่อคันของ BYDลดลง 15% เหลือ 156,000 หยวน แต่กำไรสุทธิต่อคันก็ยังสูงถึง 7,800 หยวน ตามข้อมูลจาก Soochow Securities ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ BYDผลิตแบตเตอรี่และชิ้นส่วนสำคัญเอง ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดี

 

ในขณะเดียวกัน Geely ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Zhejiang Geely Holding Group ที่จดทะเบียนในฮ่องกง รายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 7 เท่า เป็น 10,5000 ล้านหยวน ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 41% เป็น 950,000 คัน โดยได้รับแรงหนุนจากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าหรู ZEEKR รายได้ต่อคันของ ZEEKR และ Geely รวมกันเพิ่มขึ้น 5% เป็น 129,000 หยวน ซึ่งช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท

 

Great Wall Motor ก็มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5 เท่า เป็น 7,000 ล้านหยวน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่ดีของแบรนด์รถยนต์ออฟโรดระดับไฮเอนด์ TANK ซึ่งมีรายได้ต่อคันเพิ่มขึ้น 21%

 

ในทางตรงกันข้าม กำไรของผู้ผลิตรถยนต์รัฐวิสาหกิจกลับซบเซา เนื่องจากยอดขายของบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติลดลง SAIC Motor รายงานกำไรสุทธิลดลง 6% เป็น 6,600 ล้านหยวน ยอดขายรถยนต์ลดลง 12% เป็น 1,820,000 คัน และรายได้ต่อคันลดลง 1%

 

Guangzhou Automobile Group มีกำไรสุทธิลดลง 49% เป็น 1,500 ล้านหยวน ยอดขายรถยนต์ลดลง 26% เป็น 860,000 คัน และ Dongfeng Motor มีกำไรจากบริษัทร่วมทุนลดลง 46% ทำให้กำไรสุทธิลดลง 48% เป็น 684 ล้านหยวน

 

แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความแตกต่างระหว่างผู้ชนะและผู้แพ้ในตลาดรถยนต์จีน โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 รถยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด คิดเป็น 35% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในจีน

 

BYDซึ่งหยุดขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในปี 2022 และมุ่งเน้นไปที่รถยนต์พลังงานใหม่ ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้และมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รถยนต์พลังงานใหม่คิดเป็นเพียง 25% ของยอดขายของ SAIC Motor และผู้ผลิตรถยนต์รัฐวิสาหกิจรายใหญ่อื่นๆ ก็ยังตามหลังอยู่เช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม ยังคาดว่าตลาดรถยนต์จีนจะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในด้านคุณสมบัติต่างๆ เช่น การขับขี่อัตโนมัติ และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล ผู้ผลิตรถยนต์ที่แพ้สงครามราคาก็จะยิ่งขาดเงินทุนในการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้

 

ภาพ: Toya Sarno Jordan / Reuters

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising