ค่าเงินบาทช่วงเช้าวานนี้ (26 สิงหาคม) เปิดที่ระดับ 33.98 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าสูงสุดรอบกว่า 1 ปี ส่วนเช้าวันนี้ (27 สิงหาคม) ค่าเงินบาทอ่อนขึ้นมาเล็กน้อย อยู่ที่ 34.05 บาทต่อดอลลาร์
พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น อาจมีผลกระทบต่อการส่งออกไทยในด้านของราคาสินค้าส่งออก แต่กระทรวงการคลังยังไม่มีการสั่งการให้ดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการติดตามดูแลอยู่แล้ว
โดยมองว่าเงินบาทที่แข็งค่าเป็นเรื่องธรรมชาติของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเคลื่อนไหวเป็นไปในทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของโลกที่ธนาคารกลางต่างๆ ในต่างประเทศสื่อสารออกมา ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเมื่อสถานการณ์ผ่านไปสักระยะค่าเงินบาทก็จะปรับตัวเข้าสู่จุดสมดุล ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า ไทยก็ได้อานิสงส์จากการส่งออกไปแล้ว
พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันมีภาพออกมาที่รุนแรงในพื้นที่ภาคเหนือ แต่เชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่รุนแรงเท่ากับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2554 โดยกระทรวงการคลังหารือกับธนาคารรัฐที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น และรายงานข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง
โดยให้นโยบายธนาคารของรัฐไปศึกษาถึงมาตรการช่วยเหลือดูแลเพื่อยืดหยุ่นกับลูกค้าที่ได้ผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจออกเป็นมาตรการช่วยเหลือ เช่น เป็นกรอบระยะเวลา 3 เดือน หรือ 6 เดือน ซึ่งถือเป็นมาตรการที่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับลูกหนี้ที่ประสบภัยน้ำท่วม และช่วยให้ประชาชนไม่เดือดร้อนจากการได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมมาก โดยออกมาตรการช่วยเหลือให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ถูกผลกระทบจากน้ำท่วม
สำหรับกรณีที่นักลงทุนมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจนั้น เชื่อว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ที่อาสาเข้ามาบริหารประเทศ ไม่ว่าจะเป็นใครต่างมีหน้าที่ปฏิบัติและดำเนินนโยบายเพื่อให้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ
โดยประเทศไทยถือว่ามีจุดแข็งหลายด้าน ทั้งทำเลที่ตั้งของประเทศ รวมถึงพื้นฐานของเศรษฐกิจเดิมที่ดี ซึ่งหากมีการร่วมกันผลักดันเชื่อว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต