วันนี้ (21 สิงหาคม) มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีเนื้อหาประมาณ 3 นาที โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง และตั้งค่าการเข้าถึงแบบสาธารณะที่บุคคลทั่วไปรับชมได้
สำหรับเนื้อหาในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ซึ่ง อุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เข้าร่วมการสัมมนาทางวิชาการในหัวข้อ ‘ศาลรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560’ ภายใต้โครงการเสริมสร้างความรู้สู่ประชาชนภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
สำหรับหัวข้อนี้ยังมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ ศ.พิเศษ ดร.จิรนิติ หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, ประเสริฐ บุญประสพ นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี, กนกวรรณ จารุจารีต ประธานเขตพัฒนาชุมชนที่ 1, จตุรงค์ นิลอนันต์ ประธานเขตพัฒนาชุมชนที่ 2, ชาญณรงค์ พรหมใจดี ประธานเขตพัฒนาชุมชนที่ 3 และ วัชรินทร์ ทับทิมทอง ประธานเขตพัฒนาชุมชนที่ 4 ดำเนินรายการโดย รศ. ดร.อัคคกร ไชยพงษ์ ประธานหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพัฒนากระบวนการยุติธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
ช่วงหนึ่งของการสัมมนา อุดมกล่าวว่า พรรคประชาชนต้องขอบคุณตนเองที่ทำให้พรรคได้เงินบริจาคเพิ่ม โดยกล่าวว่า “เหมือนอย่างวันนี้ เขายังมีปัญหาอยู่ พรรคคุณไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ คุณไปรับเงิน คุณออกในนามพรรคประชาชน ซึ่งคุณยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อโดยถูกต้อง ทำได้หรือไม่ในกรณีนี้ เขาบอก ผมใช้บัญชีเดิม เขาก็ต้องตรวจสอบ คุณใช้บัญชีเดิมของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลจริงหรือเปล่า หรือคุณเปิดบัญชีใหม่
“จริงๆ ต้องขอบคุณผมนะ มีการยุบพรรคเขา เห็นไหมครับ เขาได้เงินตั้งกี่ล้านภายในสองวัน ถ้าไม่ยุบ เขาร้องไห้ฟรีเลยนะ ก่อนหน้านั้นเงินไม่มีนะ ต้องขอบคุณผมนะ ทำให้เขามีเงินเข้าไปตั้ง 20-30 ล้าน ใช่ไหม สมาชิกเก่าเข้าไปจดทะเบียน เป็นสมาชิกตามไปด้วย เห็นไหม ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนตรงไหนเลย”
อุดมกล่าวด้วยว่า “ทุกวันนี้แล้วแต่มุมมอง คนเชียร์ก็เชียร์สุดใจขาดดิ้นโดยไม่ฟังคนอื่น ฟังสั้นๆ พอแล้ว รู้ว่าไม่ควรยุบ แต่ยุบเพราะอะไรไม่รู้ ไม่สนใจ ยุบปั๊บ อ้าว ไปเปิดพรรคใหม่ได้ ไม่ข้องใจแล้วหรือ
“เมื่อวานร้องไห้อยู่ พรรคเราจะไปแล้ว อย่างนู้นอย่างนี้ โอ้ สองวันเลิก จากน้ำตาเป็นเสียงหัวเราะ ‘ยักไหล่แล้วไปต่อ’ เงิน 20 ล้าน” อุดมกล่าวติดตลกก่อนจะหัวเราะ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ วินิจฉัยให้ยุบพรรคก้าวไกล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และวรรคสอง และมีมติโดยเสียงข้างมาก (8 ต่อ 1) วินิจฉัยให้ยุบพรรคผู้ถูกร้อง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (2) และวรรคสอง โดยอุดมเป็นหนึ่งในตุลาการเสียงข้างมาก
ศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติเป็นเอกฉันท์ วินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2564 – 31 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องตามมาตรา 92 วรรคสอง มีกำหนดเวลาสิบปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง
อ้างอิง: