รู้กันอยู่แล้วว่าแสงแดดทำร้ายทำลายผิวเราแค่ไหน แถมบ้านเราอยู่แถบเขตร้อนชื้นที่หลบเลี่ยงแสงแดดไม่ได้ เพราะถึงหลบเลี่ยงอย่างไร แสงแดดก็ยังคงตามติดได้เสมอ แต่ก็มีบางคนชื่นชอบการอาบแดดให้ผิวกลายเป็นสีน้ำตาลแทน หรือเพลิดเพลินกับกิจกรรมริมหาดจนเผลอทำให้ผิวไหม้ แสบแดง และลอก กลายเป็นผิวเบิร์นแดงเหมือนกุ้งเผา
เมื่อพลาดไปแล้ว ผิวเบิร์นเป็นกุ้งต้ม
เมื่อเกิดผิวไหม้ แสบร้อน ให้หาผ้าเย็นหรือแผ่นประคบเย็นลดความร้อนที่ผิวเพื่อบรรเทาอาการแสบร้อน ประคบไว้ประมาณ 10-15 นาทีจนกว่าผ้าหรือแผ่นประคบหายเย็น ให้ประคบเป็นระยะๆ อีกวิธี ได้แก่ อาบน้ำ หรือแช่น้ำเย็น เพื่อช่วยลดความร้อนผิวจากการแสบไหม้โดยไม่ต้องใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งกันไปใหญ่
หรืออาศัยเทคนิคของคุณหมอด้านผิวหนัง เฟรเดอริก ฮาเบอร์แมน ที่แนะนำให้ใช้เบกกิ้งโซดาประมาณ 2 ถ้วยผสมลงในน้ำที่จะแช่ตัว หรือลดความร้อนบวมของผิวที่เบิร์นลงด้วยเมล็ดถั่วลันเตาแช่แข็ง “นำถุงใส่ถั่วลันเตาแช่เย็นมาพันด้วยผ้าอีกครั้งเพื่อไม่ให้ความเย็นเฉียบทำร้ายผิวของคุณ” ส่วนคุณหมอผิวหนังอีกท่าน คาร์ล คารอน แนะให้ใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือไวต์เวเนการ์ 1 ถ้วยผสมลงในน้ำเย็น ถือเป็นการสร้างสมดุลและปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี และหลังอาบน้ำเรียบร้อยแล้วอย่าลืมทาผิวด้วยครีมบำรุงที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ในขณะที่ คุณหมอโธมัส กอสเซล ศาสตราจารย์ด้านเภสัชวิทยาและพิษวิทยา แนะว่าให้ดื่มน้ำแตงโมคั้นสดประมาณ 250 มล. หรือน้ำแคนตาลูปประมาณ 140 มล. เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นในผิว
หาตัวช่วยบรรเทาผิวไหม้แสบร้อนจากก้นครัว
นอกจากวิธีที่คุณหมอและผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำไปแล้ว เรายังสามารถคว้าของใกล้ตัวจากห้องครัวมาบำบัดผิวที่แสบร้อนได้อีกด้วย
แตงกวา นอกจากช่วยเรื่องใต้ตาดำแล้วยังช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนผิวได้ด้วย เพราะมีสารแอนติออกซิแดนต์และสารที่ช่วยปลอบประโลม ลดความเจ็บปวด เริ่มจากสับแตงกวาที่แช่จนเย็นให้ละเอียดแล้วนำไปโปะลงบนผิวที่แสบร้อน ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก หรือทำเป็นสเปรย์แตงกวาด้วยการปั่นแตงกวาให้ละเอียด คั้นน้ำใส่ขวดสเปรย์ แล้วหมั่นฉีดลงบนผิว
ว่านหางจระเข้ นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก เลือกใช้แต่เนื้อในใสๆ นำไปแช่เย็น 30 นาที ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น ทำวันละครั้งเป็นอย่างต่ำ
โอ๊ตมีล มีสารแอนติออกซิแดนต์และสารช่วยลดอาการอักเสบผิว ช่วยบรรเทาโรคเกี่ยวกับผิวหนังต่างๆ นำโอ๊ตมีลและนมสดอย่างละ ½ ถ้วยผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะใส่ลงในเครื่องปั่น จากนั้นปั่นให้ละเอียดแล้วนำไปพอกผิวที่เบิร์น ทิ้งให้แห้งประมาณ 20 นาที เช็ดออกให้สะอาดด้วยผ้าชุบน้ำเย็น
ใบชา มีสารแทนนิน หรือแทนนินแอซิด ช่วยสร้างสมดุลของ pH บนผิว แนะนำให้เลือกชาดำเพราะมีแทนนินอยู่มาก รอจนน้ำชาเย็นลง ใช้ผ้ามาชุบน้ำชาค่อยๆ เช็ดลงบนผิว
โยเกิร์ต เมื่อแลกติกแอซิดจากนมช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนเวลาจากแสงแดดแผดเผา ทำให้สีผิวสม่ำเสมอหลังอาบแดด วิธีการคือนำโยเกิร์ตรสธรรมชาติไปแช่ให้เย็นแล้วนำมาทาลงบริเวณที่ผิวเบิร์น ทิ้งไว้ 20 นาที หรือรอจนเนื้อโยเกิร์ตแห้ง
มันฝรั่ง ช่วยดูดซับความร้อนจากผิวที่แสบไหม้ เลือกใช้แค่เปลือก นำไปถูเบาๆ ลงบนผิวประมาณ 10 นาที หรือนำมันฝรั่งแช่เย็นไปบดให้ละเอียดแล้วทาลงบนผิวที่มีอาการให้ทั่ว ทำวันละครั้งเป็นอย่างต่ำ
น้ำผึ้ง มีสารแอนติออกซิแดนต์และสารลดการอักเสบ ทาน้ำผึ้ง ¼ ถ้วยลงบนผิวแล้วทิ้งไว้ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น
อ้างอิง:
- www.prevention.com/beauty/a20513758/natural-sunburn-cures/
- www.stylecraze.com/articles/treat-sunburns/#gref
- thethirty.byrdie.com/home-remedies-for-a-sunburn–5aa03c2381483
- www.medicinenet.com/natural_home_remedies_for_sunburn_treatment/article.htm#how_to_get_rid_of_a_sunburn_fast_picture
- แม้จะชื่นชอบการอาบแดดหรือจำเป็นต้องออกแดดนานๆ ก็ควรเตรียมปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์กันแดดที่มี SPF30 ขึ้นไป หมั่นทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง และดื่มน้ำชดเชยเหงื่อที่ไหลออก
- ผิวที่เบิร์นอาจเกิดตุ่มน้ำใสๆ ได้ ให้เจาะและค่อยๆ กดน้ำออก จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ อย่าวุ่นวายกับผิวบริเวณนั้น หลังผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ผิวที่เบิร์นจะค่อยๆ แห้งและหลุดลอกออกมาเอง ขอเตือนว่าไม่ควรแกะหรือลอกผิว เพราะอาจจะทำให้ผิวเกิดแผลได้