NVIDIA ทะยานขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้า Microsoft และ Apple ด้วยมูลค่าตลาด 12.5 ล้านล้านบาท (3.34 ล้านล้านดอลลาร์)
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 มิถุนายน) หุ้นของ NVIDIAพุ่งขึ้น 3.6% ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทแซงหน้า Microsoft ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่า 12.2 ล้านล้านบาท (3.32 ล้านล้านดอลลาร์) และ Apple ที่ 12.07 ล้านล้านบาท (3.29 ล้านล้านดอลลาร์)
NVIDIAกลายเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในกลุ่ม Magnificent Seven ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นอย่างมาก โดยหุ้นของ NVIDIAเพิ่มขึ้นกว่า 170% ในปีนี้ และเป็นหุ้นที่มีผลงานดีที่สุดในดัชนี S&P 500 ในปี 2023 นอกจากนี้ NVIDIAยังเป็นบริษัทแรกที่สามารถทำมูลค่าตลาดทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ความสำเร็จของ NVIDIAส่วนใหญ่มาจากความต้องการชิปที่ใช้ในการเทรนและรันโมเดล AI ที่ทรงพลัง เช่น ChatGPT ของ OpenAI ซึ่งทำให้ NVIDIAกลายเป็นศูนย์กลางของ ‘การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่’ ที่กำลังเปลี่ยนแปลงทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจโลกด้วยการประมวลผลอัจฉริยะ
บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น Google, Microsoft และ Amazon ต่างซื้อหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) รุ่น ‘Hopper’ ของ NVIDIAสำหรับบริการคลาวด์ของตน ซึ่งทำให้ NVIDIAมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 80% และธุรกิจนี้เติบโตขึ้นอย่างมาก
อีกทั้งระบบนิเวศซอฟต์แวร์ CUDA ของ NVIDIAซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาที่ใช้ชิปของบริษัท ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ NVIDIAครองความเป็นผู้นำในตลาด นอกจากนี้ NVIDIAยังเปิดตัวชิป ‘Blackwell’ รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIAให้คำมั่นสัญญาว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกปี
แม้ว่าคู่แข่งอย่าง AMD และ Intel จะเปิดตัวชิป AI ของตนเอง แต่ก็ยังไม่สามารถสั่นคลอนส่วนแบ่งการตลาดของ NVIDIAได้อย่างมีนัยสำคัญ Stacy Rasgon นักวิเคราะห์ชิปของ Bernstein กล่าวว่า “ต้องมีใครสักคนเป็นที่หนึ่ง และมันไม่ใช่ว่าหุ้นของ NVIDIAจะวิ่งขึ้นมาด้วยตัวมันเอง แต่ผลประกอบการทางการเงินของบริษัทก็เพิ่มขึ้นมากกว่านั้นอีก นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก”
การแข่งขันเพื่อคว้าโอกาสจาก AI กำลังรุนแรงขึ้นมากในอุตสาหกรรมภาคเทคโนโลยี ในงานประชุมนักพัฒนารายปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Apple ได้ประกาศว่าจะฝังชุดโมเดล AI ของตนเองลงในระบบปฏิบัติการใหม่ และได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือครั้งสำคัญกับ OpenAI
NVIDIA ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 เดิมทีเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักเล่นเกมในฐานะผู้ผลิตชิปสำหรับการ์ดจอ แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หุ้นของ NVIDIAได้พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากวอลล์สตรีทตระหนักถึงเทคโนโลยีของบริษัทในฐานะเครื่องยนต์ที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตอย่างรวดเร็วของ AI
การเติบโตอย่างรวดเร็วของ NVIDIAทำให้ Jensen Huang ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.17 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้เขาเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 11 ของโลก
Microsoft ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ซื้อ GPU รายใหญ่ที่สุดของ NVIDIAสำหรับบริการคลาวด์ Azure ก็ได้รับประโยชน์จากความเฟื่องฟูของ AI เช่นกัน โดยหุ้นของ Microsoft เพิ่มขึ้นประมาณ 20% ในปีนี้ บริษัทเพิ่งเปิดตัวแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรันโมเดล AI ของบริษัทที่เรียกว่า Copilot+
การขึ้นสู่อันดับหนึ่งของ NVIDIAเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Apple และ Microsoft ต่างผลัดกันครองตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในสหรัฐอเมริกา การเติบโตอย่างรวดเร็วของ NVIDIAทำให้บริษัทยังไม่ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี Dow Jones Industrial Average ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของหุ้น 30 บริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม NVIDIAได้ประกาศแตกหุ้นแบบ 10 ต่อ 1 เมื่อเดือนที่แล้ว มีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 มิถุนายน ซึ่งอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี Dow Jones Industrial Average ในอนาคต
ภาพ: Muhammad Alimaki / Shutterstock
อ้างอิง:
