David Kostin นักกลยุทธ์ของ Goldman Sachs ปรับเป้าดัชนี S&P 500 ของปี 2024 ขึ้นไปที่ 5,600 จุด จากเดิมที่ 5,200 จุด นับเป็นรอบที่ 3 ของปี หลังประเมินแนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนและเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสไปในทิศทางเชิงบวกมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าที่สูงสุดของนักวิเคราะห์จาก UBS และ BMO Capital Market
โดยเป้าของดัชนี S&P 500 ที่ 5,600 จุด ห่างกับระดับของ S&P 500 ณ วันศุกร์ที่ผ่านมา (14 มิถุนายน) ที่ 5,431 จุด ประมาณ 3%
ซึ่ง Kostin ชี้ว่าการปรับประมาณการขึ้นในครั้งนี้ มาจากการปรับค่าอัตราส่วน P/E (ราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น) ที่เหมาะสมขึ้นจากเดิมที่ 19.5 เท่า ไปเป็น 20.4 เท่า โดยที่ยังคงประมาณการกำไรต่อหุ้นของดัชนี S&P 500 ในปี 2024 และ 2025 ไว้เท่าเดิม
ทั้งนี้ Kostin คาดการณ์เป้าหมายของ S&P 500 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อนควรอยู่ที่ระดับ 4,700 จุด ก่อนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจะปรับเพิ่มเป็น 5,200 จุด พร้อมมุมมองว่าโอกาสปรับขึ้นอาจไม่มีแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นเอง Kostin ยังมองหาความเป็นไปได้อื่นว่า S&P 500 จะสามารถปรับตัวขึ้นไปมากกว่านี้ได้อีกหรือไม่ ซึ่งเขาก็มองว่าหากกำไรของบริษัทจดทะเบียนขยายตัวมากกว่าที่ประเมินไว้ แล้วทำให้ดัชนี S&P 500 Equal Weight (แบบกระจายสัดส่วนอย่างเท่ากัน) ปรับเพิ่มขึ้น ก็อาจทำให้ดัชนีปรับขึ้นอีก 9% แตะ 5,900 จุดภายในก่อนสิ้นปี 2024 ได้
และหากมองโลกในเชิงบวกอย่างมากที่บริษัทขนาดใหญ่ (Megacap) ทำผลงานได้ดีไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับรักษามุมมองเชิงบวกต่อไปได้ ดัชนีก็อาจแตะได้ถึง 6,300 จุดภายในสิ้นปี 2024 เลยทีเดียว
แต่ในทางกลับกันหากผลกำไรของดัชนี S&P 500 กลับไม่เป็นไปตามความคาดหวังของนักลงทุนที่ระดับ P/E ดังกล่าว หรือความกังวลต่อการถดถอยของเศรษฐกิจกลับมา ดัชนีก็อาจปรับลงไปได้ถึง 13% ที่ระดับ 4,700 จุด
อ้างอิง: