หลังจากที่สร้างแลนด์มาร์กเป็นรูฟท็อปบาร์เกาหลีที่แรกในไทยไปในปีที่แล้ว ปีนี้ ANJU Korean Rooftop Bar ยกระดับรสชาติอาหารใหม่ยกเซ็ตด้วยการเปิดตัว เชฟยองแดชิม (YoungDae Shim) หัวหน้าเชฟคนใหม่ที่มาพลิกโฉมอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิมให้โมเดิร์นยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือมีเมนูให้เลือกเยอะมาก!
ด้านประวัติของเชฟยองแดชิมก็เรียกว่าไม่ธรรมดา เชฟได้ฝากฝีมือของตัวเองไว้ในห้องอาหารชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ สิงคโปร์ เวียดนาม สหรัฐอเมริกา ไทย รวมถึงห้องอาหารชื่อดังระดับมิชลินในสหราชอาณาจักร จนคว้ารางวัลต่างๆ มาอย่างท่วมท้น ดังนั้นแล้วเชื่อได้ว่าก้าวใหม่ของเขาในฐานะเชฟของ ANJU จะทำให้ชาว K-Food Lover มีประสบการณ์กับอาหารเกาหลีที่ถูกตีความใหม่ได้น่าจดจำยิ่งขึ้น
The Vibe
การเดินทางขึ้นมายังตัวบาร์ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่สิ่งที่เพิ่มเติมมาคือลูกเล่นภายในตัวลิฟต์ที่ทางบาร์ตั้งใจให้เป็น Photo Spot สำหรับสายคอนเทนต์โดยเฉพาะ
บรรยากาศบนรูฟท็อปของโรงแรม Sindhorn Midtown Hotel Bangkok, Vignette Collection เคยชิลอย่างไรในวันวาน วันนี้ก็ยังชิลเหมือนเดิม ลมโกรกเย็นสบาย แสงสี LED ที่ชวนให้นึกถึงกรุงโซล เพลง K-Pop ยอดฮิตแต่ละยุคสมัย รวมไปถึงของเล่นเพิ่มความบันเทิงในวงดื่ม
The Taste
ถ้าพูดถึงเมนูไฮไลต์ที่เชฟยองแดชิมนำเสนอทั้งหมดอาจต้องเคลียร์ท้องรอสามวัน เพราะเชฟดูภูมิใจไปซะทุกเมนู ด้วยสเปซกระเพาะที่มีจำกัดเลยจัดมาแต่เมนูที่เรียกว่าเป็น A Must สำหรับผู้มาเยือนครั้งแรก สวิตช์ปุ่มกระเพาะเรียกน้ำย่อยด้วย Sweet Potato Chili Fries (220 บาท) มันหวานทอดท็อปด้วยกิมจิพริกและชีสฉ่ำๆ แค่เมนูแรกก็ต้องยกดาวให้แล้วสำหรับจานนี้ รสชาติของมันมีความหวานในตัวอยู่แล้ว พอกินกับกิมจิรสเผ็ดคลุกเคล้าความมันนัวของชีสด้วยแล้วบอกเลยว่าหยุดไม่ได้
Pickled Salmon & Prawn (590 บาท) เชื่อว่านี่น่าจะเป็นจานที่ถูกปากใครหลายคนอยู่แล้ว แซลมอนและกุ้งดองซีอิ๊วเกาหลี เสิร์ฟมากับสาหร่ายทอดให้กินสนุกขึ้น ใครอยากได้รสแซ่บๆ ก็ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดให้ฉ่ำไปด้วยได้ ใช่แล้ว เวอร์ชันของที่นี่จะมีการเสิร์ฟน้ำจิ้มซีฟู้ดมาเอาใจคนไทยอีกด้วย
ใช่ว่าที่นี่จะมาแต่อาหารที่ชวนให้นึกถึงโซลอย่างเดียว เชฟได้หยิบยกอาหารขึ้นชื่อของปูซานอย่างออมุกหรือโอเด้งเกาหลีมาเนรมิตเมนูใหม่
Busan Style Fishcake and Tendon Soup (490 บาท) หม้อนี้คือรวมมิตรออมุกแบบจุกๆ และยังมีเอ็นเนื้อนุ่ม แป้งต๊อก ไข่ สารพัดผักเสิร์ฟมาอีกด้วย น้ำซุปมีความกลมกล่อม ไม่จัดจ้าน ถือเป็นเมนูที่ช่วยล้างปากได้ดี
มาบาร์เกาหลีจะขาดไก่ทอดสไตล์เกาหลีไปก็คงไม่ได้ Padak (260 บาท) ไก่ทอดไร้กระดูกซอสสไปซีมัสตาร์ด ทีเด็ดของจานนี้ก็คือตัวซอสที่หอมมัสตาร์ด หวานเค็มลงตัวกับไก่ที่ทอดมาอย่างกรอบนอกนุ่มใน
พอมีไก่ทอดแล้วคอก็แห้งทันที เป็นสัญญาณว่าคงจะขาดคอมบิเนชัน Chimaek (Chicken+Maekju) ไปไม่ได้ Soju Bomb (Soju+Beer) (เริ่มต้น 250 บาท) ในส่วนของค็อกเทลสไตล์เกาหลีก็น่าสนใจหลายตัว อย่าง White Korean (350 บาท) แก้วนี้ที่ได้แรงบันดาลใจจาก White Russian เบสเป็นวิสกี้ เพิ่มความหอมด้วยลิเคียวกาแฟ นมกล้วยเกาหลี ท็อปด้วยโฟมเฮเซลนัทซอยมิลก์ เป็นคอมบิเนชันที่ไม่คิดว่าจะมาเจอกันได้ และให้มิติรสชาติที่อร่อยแปลกไปอีกแบบ
มาถึงจานสุดเด็ดที่ไม่รู้ว่าคว้าดาวหมดฟ้าในค่ำคืนนั้นมาให้จะพอไหม Bone-in Beef Short Rib (1,290 บาท) เนื้อซี่โครง Australian Black Angus ไม้อบรมควันแบบ Slow Cooked เนื้อมีมันแทรกเล็กน้อย ทำให้เท็กซ์เจอร์มีความนุ่ม ไม่แห้งเลยแม้แต่น้อย
เดิมทีกินแบบไม่จิ้มก็อร่อยด้วยรสชาติหวานเค็มของซอสที่หมักมาอยู่แล้ว แต่พอจิ้มกินกับซอสปิ้งย่างที่เสิร์ฟมาด้วยก็ได้รสจัดจ้านไปอีกแบบ เอาเป็นว่าใครที่เป็นสายเนื้อต้องสั่งให้ได้จริงๆ
Egg Lava with Caviar Trio (350 บาท) ไข่ตุ๋นลาวาสไตล์เกาหลีพร้อมคาเวียร์ที่หอมเตะจมูก แนะนำให้ตักชิมพร้อมบรรดาไข่ปลาที่เห็น จะได้รสชาติที่เข้มข้นอร่อยฟินสุดๆ แต่ระวังลวกปาก เพราะไข่เสิร์ฟมาแบบร้อนสมชื่อจริงๆ
อันที่จริงสเปซในกระเพาะก็ไม่เหลือแล้ว แต่เห็นว่าเชฟเองมีความภาคภูมิใจกับต๊อกบกกีที่นี่มาก เพราะทางร้านปั้นแป้งเอง เราเลยคว้าตะเกียบฮึดสู้กับ Tteokbokki (320 บาท) หม้อนี้ ที่เห็นชิ้นต๊อกสั้นๆ แบบนี้คือผ่านการตัดแล้วเรียบร้อย เดิมทีทางร้านเสิร์ฟเป็นแป้งเส้นยาวแล้วให้เราตัดตามใจชอบ
มาในส่วนของรสชาติ ต๊อกบกกีที่เราเคยชิมส่วนใหญ่จะออกหวานนำ ไม่ค่อยมีรสเผ็ด แต่ที่นี่คือเผ็ดเด่น และซอสเองก็มีความเข้มข้นสุดๆ ส่วนตัวแป้งนั้นอร่อยหนึบเคี้ยวเพลิน ต้องยกให้เป็นหนึ่งในต๊อกบกกีที่ดีที่สุดในประเทศไทยสำหรับเรา ณ ตอนนี้
สวิตช์ปุ่มสลับไปใช้กระเพาะที่สองเพื่อต้อนรับ Fruit Bibimbap Bingsoo (390 บาท) บิงซูบิบิมบับผลไม้รวม เห็นแวบแรกก็ตกใจว่าเชฟจะฟิวชันถึงขั้นเอาไข่ดาวมาโปะบนของหวานเลยหรือ แต่พอมาเห็นใกล้ๆ ก็พบว่าที่จริงมันคือพานาคอตต้าที่ทำเป็นรูปไข่ดาว ส่วนไข่แดงด้านบนทำมาจากเยลลี่ส้ม ใต้กองภูเขาผลไม้สดคือเกล็ดน้ำแข็งรสนมหวาน ถือเป็นเมนูที่เหมาะจะเพิ่มความสดชื่นปิดท้ายมื้ออาหารมากจริงๆ
Good for
แน่นอนว่าที่นี่ตอบโจทย์ใครที่เป็นสาย K-Pop อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณอยากลองอาหารเกาหลีที่ถูกนำมาตีความใหม่พลางจิบดริงก์ เอ็นจอยกับวิวรูฟท็อปด้วยแล้ว ต้องชวนเพื่อนแล้วยกหูจองโต๊ะแล้วล่ะ
ANJU Korean Rooftop Bar
Open: ทุกวัน 17.00-02.00 น.
Address: ชั้น 34 โรงแรม Sindhorn Midtown Hotel Bangkok, Vignette Collection
Facebook: www.facebook.com/anjukoreanrooftopbar
Instagram: www.instagram.com/anju.bangkok/
Tel.: 0 2796 8888
Budget: เริ่มต้นที่ 220 บาท
Map: