วานนี้ (4 เมษายน) เพจเฟซบุ๊ก ‘สุรเชษฐ์ หักพาล’ โพสต์ข้อความกรณีมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 โดยมีการพาดพิงถึง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า
“กราบเรียนประชาชนที่เคารพรักครับ
“วันนี้ผมได้ฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ สส. ท่านหนึ่ง ซึ่งอภิปรายในการประชุมสภา ญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152
“การอภิปรายของ สส. ท่านนี้กระทบต่อการทำหน้าที่เพื่อประชาชนของผม โดยกล่าวอ้างว่าผมอวดเบ่งอำนาจ เรียกผู้กำกับมาประชุมที่สโมสรตำรวจ จนผู้กำกับตาย
“ผมขอชี้แจงว่า ท่านเป็น สส. ท่านจะพูดอะไรในสภา ท่านต้องดูข้อมูลให้รอบด้าน ไม่ใช่พูดเอามัน แน่นอนว่าตอนนี้ตำรวจมีภาพลบมาก ผมไม่เถียง แต่ตำรวจที่ทำงานเพื่อประชาชนก็มีมาก
“ผมขอบอกให้ท่านทราบว่า สโมสรตำรวจคือสถานที่ที่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้วไม่มีที่ไหนแก้ไขให้เขาได้ เขาก็เลยเข้ามาหาผม โดยที่ผมไม่ได้บังคับ และเมื่อเขาได้มาร้องทุกข์กับผม เขาก็กลับไปจากผมด้วยความสบายใจ เพราะผมได้ติดตามและแก้ปัญหาให้ จนพวกเขาได้รับความยุติธรรม ซึ่งวิธีการของผมเป็นการแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
“ทุกคนที่มาสโมสรตำรวจล้วนกลับบ้านด้วยหัวใจที่อบอุ่น เต็มไปด้วยความหวังที่ได้รับความเป็นธรรม และยังกลับไปบอกญาติพี่น้องทั้งหมู่บ้านว่ามีปัญหาให้ไปหารองโจ๊กสิ คดีจบแน่ ได้ความเป็นธรรมแน่ คราวนี้ก็เลยยกกันมาทั้งหมู่บ้าน เต็มสโมสรตำรวจทุกวัน ผมก็รับเองทุกวัน
“ถามว่าผมดูเองหมดทุกคดีร่วมกับผู้กำกับโรงพัก เหนื่อยไหม เหนื่อยครับ แต่มันหายเหนื่อยตอนที่ชาวบ้านเขาได้รับความเป็นธรรม
“ผมขอบอกก่อนนะครับว่า ในวันที่เราเดือดร้อน มีปัญหา ชาวบ้านเหล่านี้เขาช่วยอะไรเราไม่ได้นะครับ เพราะชาวบ้านเหล่านี้เขายังไม่มีเงินพอที่จะซื้อซิม ซื้อเน็ตโพสต์เชียร์เราเลย แต่ถามว่าที่ผมทำให้ ที่ผมช่วย เพราะชาวบ้านเหล่านี้เขาเอื้อมไม่ถึงความยุติธรรม เพราะเขาไม่มีเงิน ผมจึงต้องช่วย
“ก่อนอื่นท่านต้องเข้าใจการทำงาน การสอบสวนคดี การอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนเสียก่อนนะครับ ท่านต้องมีความรู้ที่แท้จริงนะครับว่าเรื่องราวความเดือดร้อนของประชาชนอยู่ที่โรงพักทั้งหมด ทั้งประเทศเรามีโรงพักทั้งหมด 1,484 โรง
“ปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนคือ ประชาชนไปพบร้อยเวร ร้อยเวรไม่รับแจ้งความ ไม่รับคดี ไม่ทำคดีให้เสร็จเร็ว ‘กันจอมพลัง’ เอาผู้เสียหายถูกข่มขืนมาพบ เอาเหยื่อมาพบ แม่ผู้เสียหายลูกถูกฆ่าไม่ได้รับความเป็นธรรมมาพบ ‘สายไหมต้องรอด’ พาผู้เสียหายทุกรูปแบบมาพบ ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งประเทศมาพบผม ผมรับทุกเรื่องด้วยตัวเอง เรียกว่าเป็นรอง ผบ.ตร. แต่ทำตัวเหมือนร้อยเวรสอบสวน
“ร้อยเวร 1 คนรับคดีแค่ 1 โรงพัก แต่ผมคนเดียวยืนรับคดีชาวบ้านที่มาพบด้วยความเดือดร้อนจากทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นอำนาจการสอบสวนคดีอยู่ที่โรงพักทั้งหมด ผมก็ต้องเรียกผู้กำกับโรงพักนั้นโรงพักนี้มาพบ เพื่อตรวจสำนวนดูว่าทำไมทำคดีล่าช้า ติดตรงไหน
“บางครั้งไปติดเรื่องผลตรวจพิสูจน์ของกลาง ไปติดปัญหาเรื่องการประสานงานอัยการ-ศาลบ้าง ผมก็ต้องลงไปช่วยลูกน้อง แก้ไขปัญหาเพื่อช่วยร้อยเวรให้สามารถสรุปสำนวนการสอบสวนได้รวดเร็ว บางครั้งลูกน้องยศเล็กเขาก็ประสานขอสอบสวนพยานต่างกระทรวงไม่ได้ ผมก็ต้องยกหูหาอธิบดีกรมนั้นกรมนี้ให้ เพราะเป็นเพื่อนกัน มันก็ทำให้การทำงานเร็วขึ้น
“ผมบอกร้อยเวรเลยว่า น้อง พรุ่งนี้ 10 โมงเช้า น้องไปสอบพยานเลย พี่ประสานอธิบดีไว้ให้แล้ว อีกทั้งผมก็ยังมีคณะพนักงานสอบสวนอยู่อีก 1 ชุดที่สโมสรตำรวจ ผมเอาอดีตผู้บังคับการสอบสวนที่เกษียณ พร้อมคณะพนักงานสอบสวน มาช่วยงาน นั่งกรองสำนวน ช่วยกลั่นกรองสำนวนของผู้กำกับโรงพักต่างๆ ที่ชาวบ้านเขามาร้องเรียนให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อเอาผู้ต้องหาไปให้ศาลลงโทษให้ได้ ไม่ใช่ว่าจับแล้วแถลงข่าวโชว์ แต่พอไปศาล ศาลยกฟ้องหมด ผู้ต้องหาหลุด สุดท้ายผู้ต้องหาเหล่านี้ก็กลับมาเล่นงานผู้เสียหายอีก อันนี้แหละเขาเรียกว่าการทำงานที่รอง ผบ.ตร. ลงไปช่วยลูกน้องขับเคลื่อนงานสืบสวนสอบสวนโดยแท้จริงอย่างเป็นธรรม
“แน่นอนครับ ลูกน้องผม ผู้กำกับคนไหนขี้เกียจ โดนผมจี้งานก็จะไปบ่น แต่ผู้กำกับคนไหนขยันก็บอกว่าชอบ ดี นายโจ๊กลงมาเองเลย มีแบ็ก ไปชนกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่แล้ว กล้าสั่งคดีแล้ว พอตอนสุดท้ายคดีส่งฟ้องได้หมด ผู้ต้องหาถูกลงโทษหมด ใครได้ประโยชน์ครับ ก็ประชาชนนั่นไงครับ แล้วสุดท้ายผู้กำกับที่บ่นผมก็ดีใจ เพราะชาวบ้านมาขอบคุณผู้กำกับที่สั่งคดี เอาผู้ต้องหาไปลงโทษได้ และผู้กำกับก็เลิกบ่น เพราะนายโจ๊กเร่งจนสำนวนไม่ค้างเลย
“ผมขอบอกท่านนะว่า ถ้าท่านจะอภิปรายอะไร ท่านต้องลงพื้นที่ไปถามชาวบ้านดูว่าเขาพูดถึงผมอย่างไร ไม่ใช่ไปเอาข้อมูลที่ใส่ร้ายป้ายสีกันในวงการตำรวจ แล้วมาพูดในสภาอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
“ท่านทราบไหมว่าประชาชนที่เขาดูหน้าจอเขาจะงงว่า อ้าว ก็เขาไปสโมสรตำรวจ คดีของเขารวดเร็ว ได้ความเป็นธรรมชัดเจน รองโจ๊กคือที่พึ่งของเขา รองโจ๊กคือตัวแทนของความยุติธรรมที่จับต้องได้ ท่านต้องลองไปถามชาวบ้านบ้างว่ามีชาวบ้านคนไหนเขาก่นด่าผม และข้อสำคัญ ผมไม่ได้ทำเพื่อคะแนนเสียง ผมทำเพื่อความเดือดร้อนของประชาชนที่เขาเอื้อมไม่ถึงความยุติธรรม
“ดังนั้นก่อนที่ท่านจะพูดถึงเรื่องตำรวจ ความเป็นธรรม ท่านต้องสัมผัสแบบผมให้ได้ก่อนว่า เวลาชาวบ้านเขาเจอความยุติธรรม เขาดีใจจนน้ำตาไหลอย่างไร ผมแค่เป็นห่วงว่าจะเจอแนวร่วมมุมกลับนะครับ
“ว่างๆ นั่งคุยกับผู้การแมว อาจารย์ผมบ้าง ท่านจะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าคนทำงานที่ติดดินแบบผมอยู่กับชาวบ้านอย่างไร ไม่ใช่มโนครับ อย่าให้ต้องระดมชาวบ้านมาลงคะแนนแข่งกันนะครับ ขอบคุณมากครับ”
อ้างอิง:
- เพจเฟซบุ๊ก ‘สุรเชษฐ์ หักพาล’