บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ เจ้าของแบรนด์ ‘โอ้กะจู๋’ ซึ่งมี OR ร่วมถือหุ้น 20% ยื่นไฟลิ่งเตรียมขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 159 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนใน SET
ชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ หรือ OKJ เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยการมีพันธมิตร คือ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ร่วมถือหุ้น 20% ช่วยให้บริษัทสามารถสร้างโอกาสการเติบโต และมีความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 ธุรกิจ ได้แก่
- ธุรกิจบริการและจำหน่ายอาหาร ภายใต้แบรนด์ ‘โอ้กะจู๋’ จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทต่างๆ เช่น สลัด, สเต๊ก, สปาเกตตี, อาหารจานเดียว, ขนมหวาน, น้ำผักผลไม้, เบเกอรี รวมถึงนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋ เช่น ผัก, ผลไม้สด, แซนด์วิชแร็พ เป็นต้น วางจำหน่ายในช่องทางต่างๆ
- ธุรกิจร้านอาหารประเภทจานด่วน (Quick Service Restaurant: QSR) ภายใต้แบรนด์ ‘Ohkajhu Wrap & Roll’ จำหน่ายสลัด แร๊พสลัด แซนด์วิช เบอร์เกอร์ และเมนูสุขภาพพร้อมหยิบ (Grab & Go) ซึ่งเป็นการต่อยอดเมนูของร้านโอ้กะจู๋ เพื่อให้ตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบ
- ธุรกิจร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ ‘Oh Juice’ ได้แก่ น้ำผักออร์แกนิกและผลไม้ที่จำหน่ายในร้านโอ้กะจู๋ มาพัฒนาสูตรเป็นเมนูสุขภาพและเสริมคุณค่าโภชนาการเหมาะกับคนทุกวัย ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเปิดร้าน Ohkajhu Wrap & Roll และร้าน Oh Juice สาขาแรกในไตรมาส 2 ปีนี้
ด้าน จิรายุทธ ภูวพูนผล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานเกษตรอัจฉริยะ บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ กล่าวว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญในกระบวนการทำเกษตรอินทรีย์เชิงลึกแบบบูรณาการทุกกระบวนการ สามารถรักษาปริมาณและคุณภาพของผักผลไม้ โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน International Federation of Organic Agriculture Movements (IFOAM) จากสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ, มาตรฐาน USDA Organic ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองอาหารและผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ของสหรัฐอเมริกา และมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สหภาพยุโรป (EU Organic Certification)
ปัจจุบัน บริษัทปลูกผักสลัด ผลไม้ และดอกไม้รับประทานได้ ด้วยกระบวนการเกษตรอินทรีย์จากสวน 5 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่รวมประมาณ 380 ไร่ นอกจากนี้ บริษัทยังมีการรับซื้อผักและผลไม้ออร์แกนิกจากเกษตรกรในเครือข่าย เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบและจำหน่ายในร้านโอ้กะจู๋ภายใต้แบรนด์ ‘โอ้กาด’
ขณะที่ วรเดช สุชัยบุญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ซัพพลายเชน บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ กล่าวว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการบริหารห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หรือ From Farm to Table เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพในแต่ละกระบวนการ เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการวางแผนเพาะปลูก ผลิตและจัดหาวัตถุดิบ ขนส่งและจัดเก็บวัตถุดิบที่สดใหม่ ตลอดจนการบริหารจัดการครัวกลาง บริหารจัดการสาขา และการกระจายสินค้า โดยเฉพาะผักที่เป็นวัตถุดิบสำคัญ ซึ่งบริษัทสามารถจัดส่งผลผลิตที่สดใหม่จากสวนถึงหน้าร้านได้ภายใน 28 ชั่วโมง
ส่วน พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อออกและเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 159 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินสัดส่วน 26.1% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO โดยจะนำเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ขยายสาขา เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน