วานนี้ (13 มีนาคม) การประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2/2567 โดยมี พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ได้มีการสรุปสาระสำคัญคือการพิจารณากำหนดวันเวลาในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระที่ 2-3 ตั้งแต่วันที่ 20-22 มีนาคม 2567 โดยมีการกำหนดกรอบการพิจารณาดังนี้ วันที่ 20 มีนาคม 2567 เริ่มประชุมเวลา 09.00-10.00 น. ส่วนวันที่ 21 มีนาคม 2567 เริ่มประชุมเวลา 09.00-00.00 น. และวันที่ 22 มีนาคม 2567 เริ่มประชุมเวลา 09.00-18.00 น.
ภายหลังจากที่คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาวันเวลาในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระที่ 2-3 แล้ว พิเชษฐ์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียน วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อทราบกำหนดวันเวลาดังกล่าว
แต่ปรากฏว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรมีดำริว่า ควรกำหนดวันพิจารณาเป็นวันที่ 20-21 มีนาคม 2567 และวันที่ 25 มีนาคม 2567 เริ่มประชุมเวลา 09.00-18.00 น. เนื่องจากในวันที่ 21 มีนาคม 2567 ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 มีกำหนดการไปปฏิบัติราชการ ณ ต่างประเทศ หากนัดประชุมในวันที่ 22 มีนาคม ตามเดิมแล้ว จะมีพิเชษฐ์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ประธานของที่ประชุมสภาเพียงท่านเดียว ซึ่งวันมูหะมัดนอร์จึงมีดำริว่า ควรจะนัดประชุมเป็นวันที่ 25 มีนาคม 2567 แทน จะมีความเหมาะสมกว่า
ทั้งนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้พิจารณากำหนดวันเวลาในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
นอกจากนี้คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณากำหนดวันเวลาในการอภิปรายเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในระหว่างวันที่ 3-4 เมษายน 2567 โดยกำหนดกรอบเวลาการพิจารณาดังนี้ วันที่ 3 เมษายน 2567 เริ่มประชุมเวลา 09.00 น. แล้วพักการประชุมหลังเวลา 01.00 น. ก่อนเริ่มประชุมในวันถัดไป และวันที่ 4 เมษายน 2567 เริ่มประชุมเวลา 09.00-23.00 น. โดยการจัดสรรเวลาประธานของที่ประชุม จำนวน 2 ชั่วโมง คณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 6 ชั่วโมง พรรคร่วมฝ่ายค้าน จำนวน 22 ชั่วโมง ส่วนกรณีผู้ประท้วงให้หักเวลาจากฝ่ายของผู้ประท้วง