ซอยนานาเปรียบเสมือนอาณาจักรของพวกเขา และบาร์ค็อกเทล G.O.D หรือ Genius On Drugs ก็คือวิหารแห่งใหม่ที่เปรียบเสมือนห้องทดลอง คลังแสง หรือวิหารร้างที่จะกลายเป็นลานปล่อยของแห่งสุดท้ายของเครือ Yolo Group ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังบาร์ดีซอยนานาอย่าง Teens of Thailand, Asia Today, TAX และ Independence (แล้วยังมีบาร์แห่งเดียวในเมืองหลวงอย่าง Untitled ด้วย)
The Vibe
G.O.D เปิดอยู่ด้านหลังตึกสหพานิช ตรงหัวมุมตรอกเล็กๆ ที่ใช้เดินเชื่อมไปยังซอยนานา ทุกคนจะสะดุดตาด้วยกำแพงโมเสกหลากสี ก่อนเปิดเข้าไปด้านในแล้วจะรู้สึกราวกับเดินเหยียบสู่โลกใบใหม่ที่เสมือนวิหารของเทพพระเจ้า ทว่าทุกสิ่งปรักหักพัง เพราะสิ่งที่พวกเขาจะทำในบาร์แห่งนี้มันก้าวหน้าและ ‘เป็นที่สุด’ ยิ่งกว่านั้น
โดยบาร์รับได้ประมาณ 10-15 ที่นั่ง ตรงโซนเคาน์เตอร์บาร์เป็นพื้นที่ที่จะทำให้ทุกคนใกล้ชิดกับผู้ส่งสารด้วยค็อกเทลได้มากที่สุด เพราะเชื่อเถอะว่าคุณจะไม่อยากพลาดสักดีเทลในแก้วตรงหน้า ยิ่งมีเสียงดนตรีค่อยๆ ส่งบรรยากาศให้เราดำดิ่งสู่รสชาติใหม่ได้ลึกขึ้นอีก
The Taste
เมนูชุดแรกของ G.O.D BKK มีชื่อว่า Excessive is Necessary พวกเขาตั้งใจทำทุกอย่างให้สุดโต่ง จะไม่มีคำว่าทางสายกลางในบาร์แห่งนี้ โดยเมนูแบ่งเป็น 3 พาร์ต ทุกเมนูเสิร์ฟค็อกเทลคู่กับ Bites เพื่อให้เราลองดื่ม ก่อนสลับมากินอาหารเพื่อสร้างรสชาติใหม่ในช่องปาก ทำให้เมื่อกลับไปดื่มอีกครั้ง ทุกคนจะพบมิติใหม่ที่พวกเขาตั้งใจสร้างมันขึ้นมา
อย่างพาร์ตแรกที่มีทั้งหมด 6 เมนู เรียงลำดับตามความซับซ้อนจากน้อยไปหามาก เช่นเดียวกับความหนักเบาของรสชาติ แก้วที่เราได้ลองคือ rAMEN (460 บาท) ค็อกเทลที่ตั้งชื่อล้อไปกับคอนเซปต์ร้าน เราว่าแก้วนี้เหมาะเป็นแก้วแรก เพราะมีความสดชื่นคล้ายไฮบอล แต่ก็มีความอูมามิสูงมาก เนื่องจากได้แรงบันดาลใจมาจากราเมน ค็อกเทลจึงมีส่วนผสมของปลาแห้ง เสิร์ฟคู่กับสเฟียร์ราเมนและพอนสึ
TRINITY: THE FATHER, THE SON & LARB KWAII (560 บาท) เป็นแก้วที่ซับซ้อนที่สุดบนเมนู แต่เราอยากให้ลองแม้จะเป็นมือใหม่ เพราะค็อกเทลทำจากวอดก้าลาบผสมเลือดหมู เสิร์ฟคู่กับแคบควาย ทรัฟเฟิลมาโย
พาร์ตที่ 2 บนเมนูคือ G.O.D’s Uni-Martini Experience เสิร์ฟอูนิคู่กับค็อกเทล เพื่อล้อเล่นกับรสชาติมันๆ ครีมมี่ๆ ของอูนิ ก่อนตัดทุกอย่างให้ลงตัวด้วยมาร์ตินีที่เย็นเฉียบและมะกอกรมควัน โดยบาร์มีมาร์ตินีให้เลือก 3 แบบ เราได้ลอง ROKU GIN (500 บาท) จิบแล้วค่อยกินอูนิที่เสิร์ฟบนหลังมือ หลังจากนั้นจิบอีกทีก่อนกินมะกอกเป็นการปิดท้ายรสชาติ
พาร์ตสุดท้ายคือ JUST A DAMN XXX นำคลาสสิกค็อกเทลมาทวิสต์ใหม่ ตอนนี้มี 2 เมนู คือ มาร์ตินีและเนโกรนี แก้วที่อยากให้ลองคือ OYSTER MARTINI (500 บาท) มาร์ตินีที่ใช้น้ำหอยนางรมสดๆ มาผสม ก่อนให้เราสลับกินหอยนางรมสดๆ และปิดท้ายด้วยคอปปาแฮม
ส่วนใครที่อยากลองหลายเมนู G.O.D ก็มี Tasting Menu ให้สั่งด้วย ในราคา 6 แก้ว 2,800 บาท แต่จะมีเฉพาะวันธรรมดาเท่านั้นนะ ถ้าใครอยากค้นพบโลกใบใหม่ให้เร็วที่สุด ก็ลองสั่งดู
Good for
G.O.D BKK เป็นบาร์ที่เต็มไปด้วยมิติ ความซับซ้อน และการค้นพบ ถ้าหากใครเป็นสาวกของพวกเขาเหล่านี้อยู่แล้ว เราเชื่อว่าจะรู้สึกสนุกแน่นอน ส่วนมือใหม่อาจต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจนิดหนึ่ง เพราะแต่ละแก้วหากมองเป็นสีสันจะค่อนข้างฉูดฉาดเหมือนกำแพงโมเสก เช่นเดียวกับความลึกของรสชาติที่อาจเท่าเพดานร้านที่สูง 3 ชั้น
ณิกษ์ อนุมานราชธน เจ้าของบาร์เครือนี้ บอกกับเราว่า “G.O.D เป็นบาร์สุดท้ายของพวกเราแล้ว ถ้าเรามีอะไรอยากทำอีก เราจะปล่อยของกันที่นี่ เพราะที่นี่คือที่สุดแล้วจริงๆ พวกเราเรียกค็อกเทลบาร์นี้ว่า Progressive Experimental มันเป็นเชิงทดลองเยอะ เพราะพวกเราอยากดันวงการค็อกเทลไปข้างหน้า อยากทำให้ทุกคนเห็นมิติใหม่ๆ ของเครื่องดื่ม”
ส่วน บึ้ก-อรรถพร เดอซิลวา ผู้อยู่เบื้องหลังดริงก์ต่างๆ ในเครือ ก็บอกเช่นเดียวกันว่า “พวกเราเคยคุยกันเล่นๆ ว่า ถ้าหากจะทำบาร์แห่งต่อไปจริงๆ อาจต้องใช้เวลานานเป็นปีในการคิดแน่นอน”
เพราะฉะนั้นทุกคนคาดหวังที่จะพบโลกใบใหม่จากบาร์แห่งนี้ได้เลย
G.O.D BKK
Address: ซอยนานา
Open: วันพฤหัสบดี-อาทิตย์ เวลา 19.00-01.00 น.
Contact: @god_bkk
Budget: 1,000-2,000 บาท
Map: