ผลประกอบการรอบปีของ NVIDIA สิ้นสุดเมื่อเดือนมกราคม 2024 บริษัทมีกำไรสุทธิ 29,760 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 581% และมีรายได้ 60,922 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.18 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 126% จากปีก่อนหน้า
NVIDIA เติบโตอย่างก้าวกระโดดในฐานะผู้ที่ได้รับอานิสงส์มากที่สุดจากการที่โลกเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคของ AI อย่างเต็มตัว
Jensen Huang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ NVIDIA กล่าวว่า “การประมวลผลอย่างรวดเร็ว และ Generative AI เดินมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ ความต้องการกำลังพุ่งขึ้นทั่วโลก ทั้งจากระดับบริษัท อุตสาหกรรม หรือระดับประเทศ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- วิเคราะห์ผลประกอบการ NVIDIA และหุ้นสหรัฐฯ | THE STANDARD WEALTH
- ลุย ‘หุ้น 7 นางฟ้า’ ช้าไปหรือไม่ | WEALTH IN DEPTH #116
- เรื่องราวของ NVIDIA ผู้ผลิตชิปที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ซึ่งเกิดขึ้นจากผ้าปูโต๊ะ…
กระแสและความต้องการเกี่ยวกับ AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลบวกโดยตรงต่อ NVIDIA ในฐานะผู้ผลิตหน่วยประมวลผลขั้นสูงที่ใช้ในอุตสาหกรรม AI และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่แนวโน้มของธุรกิจในรอบปี 2025 ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน 2024 บริษัทคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ราว 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ประมาณ 76.3-77%
การเติบโตอย่างร้อนแรงของ NVIDIA ทำให้มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของ NVIDIA เพิ่มขึ้นกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ จนทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1.7 ล้านล้านดอลลาร์
จากการแถลงผลประกอบการล่าสุด Huang เชื่อว่า แม้การแข่งขันในอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น มีอุปทานใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น แต่อุปสงค์หรือความต้องการก็ไม่ได้มีสัญญาณจะชะลอตัวลง ปัจจุบันลูกค้ารายใหญ่ของ NVIDIA คือบริษัทอย่าง Amazon.com, Meta Platforms, Microsoft Corp. และ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google
นอกจากนี้ Huang มองว่า “Generative AI ทำให้วัฏจักรการลงทุนใหม่เริ่มต้นขึ้น และเป็นโอกาสในตลาดที่มีมูลค่านับแสนล้านดอลลาร์ต่อปี” ในส่วนนี้ซีอีโอของ NVIDIA กล่าวถึงการลงทุนสร้าง Data Center ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในช่วง 5 ปีข้างหน้า
ล่าสุดหน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Data Center ของ NVIDIA เป็นส่วนที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทมากที่สุด โดยปีที่ผ่านมามีรายได้ 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 217% จากปีก่อนหน้า
ส่วนธุรกิจอื่นๆ อีก 3 กลุ่มที่สำคัญคือ
- Gaming มีรายได้ 1.04 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15%
- Professional Visualization มีรายได้ 1.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1%
- Automotive มีรายได้ 1.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21%
แน่นอนว่าปัจจุบัน NVIDIA คือผู้เล่นเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือการรุกคืบของคู่แข่ง อย่าง AMD พยายามออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาสู้ เช่น MI300 รวมทั้งความเสี่ยงจากเรื่องสงครามชิประหว่างสหรัฐฯ กับจีน ส่งผลให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ เช่น การลดประสิทธิภาพของชิปที่จะส่งไปยังจีน
อีกมุมหนึ่งที่ต้องติดตามคือ ผลประกอบการที่เติบโตก้าวกระโดดเมื่อปีก่อนจะยังร้อนแรงต่อเนื่องในปีนี้ และทำได้อย่างที่บริษัทตั้งเป้าไว้หรือไม่ เพราะในมุมของนักลงทุนแล้ว ดูเหมือนว่าจะตั้งความหวังไว้กับ NVIDIA ค่อนข้างสูง
ภาพ: SOPA Images / Getty Images
อ้างอิง: