วันนี้ (29 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลัง หวังอี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า
ในการยกเว้นการขอวีซ่า (วีซ่าฟรี) ไปมาระหว่างสองประเทศ ซึ่งถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ เป็นความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ซึ่งจะครบ 50 ปีในปีหน้า และเป็นมิติที่ดีในการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างสองประเทศ แน่นอนว่าทุกคนทราบว่าเรื่องของการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญกับเศรษฐกิจของไทย ซึ่งทางหวังอี้กล่าวว่า ประเทศจีนมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย และอยากให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไป
กระชับความสัมพันธ์ ตั้งเป้าเพิ่มไฟลต์บินให้ถึง 2,000 ไฟลต์
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงจำนวนเที่ยวบินซึ่งยังไม่กลับมาเป็นปกติตั้งแต่สถานการณ์โควิด ที่เดิมมีเที่ยวบินกว่า 2,000 ไฟลต์ ปัจจุบันเหลือเพียง 1,200 ไฟลต์ จากนี้ก็จะมีการยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้การไปมาหาสู่สะดวกยิ่งขึ้น และมั่นใจว่าในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสูงขึ้น ประเทศไทยก็จะได้ไปท่องเที่ยวจีน ถือเป็นผลดีของทั้งสองประเทศ
เศรษฐากล่าวว่า ประเทศไทยยืนยันเจตนารมณ์ให้การสนับสนุนการเป็นประเทศกลาง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีนคุยกันอย่างหลากหลายมิติ ซึ่งต่อไปก็ยินดีให้การสนับสนุนในการเจรจาลักษณะนี้เกิดขึ้น ซึ่งทางหวังอี้มีดำริว่า หากมีการพูดคุยกันก็ระบุว่าต้องเป็นประเทศไทย ซึ่งบ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันดี อีกทั้งถือเป็นการประชุมประวัติศาสตร์ครั้งแรกๆ เลยก็ว่าได้
แพนด้าคัมแบ็กไทย กระชับสัมพันธ์ไทย-จีน
เศรษฐากล่าวว่า เรื่องของการค้าระหว่างประเทศก็ได้มีการพูดคุยในหลายมิติ ทั้งเรื่องการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ รถไฟความเร็วสูงที่จะใช้เส้นทางผ่านจังหวัดหนองคายมุ่งหน้าไปยังประเทศจีน และการค้าขายด้านเกษตรกรรม รวมถึงในที่ประชุมยังมีการคุยกันเรื่องแพนด้า หลังประเทศไทยเคยมี แต่ปัจจุบันไม่มี
“ผมได้ไปดูใน Twitter (X) ว่าประเทศที่มีแพนด้านั้นเขามีกันกี่ตัว ไล่ลงมาหลายประเทศ แต่ประเทศไทยนั้นมีศูนย์ตัว ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนที่ดีถึงความสัมพันธ์ด้านการทูตอย่างดีกับประเทศจีนตลอด 50 ปี ก็ได้เรียนขอกับหวังอี้ไป ท่านก็ยินดี และเราจะมีแพนด้ากลับมาอีกครั้งที่สวนสัตว์เชียงใหม่” เศรษฐากล่าว
เชิญ ‘สีจิ้นผิง’ เยือนไทย ครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี
เศรษฐายังกล่าวถึงโครงการแลนด์บริดจ์ว่า ทางหวังอี้เอ่ยขึ้นมาเองว่าประเทศจีนมีความสนใจ แต่ว่าต้องขอข้อมูลเพิ่ม รวมถึงภาคเอกชนก็มีความสนใจในการมีส่วนร่วม เพราะเขาทราบดีถึงเหตุผลหลักที่เราควรจะมีโครงการนี้ เพราะหลายปีที่ผ่านมาบริษัทใหญ่ในจีนเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากในไทย และจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางในการส่งออก ดังนั้นเราต้องมีท่าเรือน้ำลึก จะต้องมีโครงการเมกะโปรเจกต์ที่จะมาซัพพอร์ตส่วนนี้ด้วย และทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็จะเดินทางไปทำโรดโชว์ที่ประเทศจีนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นไปตามที่กล่าวข้างต้น มูลค่าทางการค้าจะเพิ่มขึ้นเท่าไร เศรษฐากล่าวว่า ตนคาดเดาไม่ได้ แต่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะนี่คือจุดเริ่มต้น เรามีความสัมพันธ์อันดีกันอย่างยาวนาน ขณะที่ปีหน้าก็ครบ 50 ปีด้วย ตนก็ได้เรียนเชิญประธานาธิบดีสีจิ้นผิงให้มาเยือนประเทศไทยด้วย
