ช่วงนี้เห็นหลายบาร์หันมาหยิบค็อกเทลคลาสสิกทวิสต์เป็นค็อกเทลซิกเนเจอร์กันเยอะ แต่ที่ 4th Wall บาร์ใหม่ในซอยหลังสวนโดยทีม Vesper ขอฉีกแนวมาทำบาร์คลาสสิกค็อกเทลโดยเฉพาะไปเลยดีกว่า เพราะฉะนั้นหากก้าวเข้ามาที่นี่ ทุกคนคาดหวังจะได้เจอเมนูคลาสสิกดริงก์ที่ไม่เคยเจอจากที่อื่นได้เลย เนื่องจากบาร์เปลี่ยนเมนูทุกวัน หรือใครมีเมนูโปรดในใจที่ยังหาดื่มแบบที่ถูกใจไม่ได้สักที บาร์นี้รอต้อนรับอยู่
The Vibe
4th Wall เปิดอยู่บนชั้น 2 ในโรงแรม Luxx เดินขึ้นไปแล้วจะเจอบานประตูสีเขียวจอดเทียบอยู่ เมื่อผลักเข้าไปและเดินผ่านทางเดินที่คล้ายตู้ขบวนรถไฟ ทุกคนจะได้เจอกับบาร์สไตล์เรโทรที่ออกแบบได้เรียบหรู แต่ก็ดูเท่มีสีสัน เราชอบบรรยากาศแบบนี้ เพราะทำให้รู้สึกว่าคลาสสิกค็อกเทลไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียว คนชอบความสนุกทันสมัยก็มานั่งได้
ส่วนที่นั่งก็ไม่ต้องห่วง เพราะนับแล้วมีมากกว่า Vesper อย่างแน่นอน ทุกคนสามารถนั่งหน้าบาร์ได้รอบเคาน์เตอร์ หรือถ้ามาเป็นกลุ่มก็มีโต๊ะและเบาะตัวยาวให้นั่งด้วยกันได้
The Taste
4th Wall นำทีมโดยบาร์เทนเดอร์ระดับแชมป์ แมค-สหรัฐ แก้วคง ใครไปดื่มที่ Vesper บ่อยๆ น่าจะต้องคุ้นหน้า แต่ตอนนี้แมคย้ายมาประจำที่ 4th Wall พร้อมตำแหน่งบาร์เมเนเจอร์ และพาบาร์เทนเดอร์อีก 2-3 คนจากบาร์เดิมมาประจำที่นี่ด้วย ส่วน ทอม เฮิร์น (Tom Hearn) ผู้รับหน้าที่ดูแลบาร์ทั้งหมดในเครือ ก็ช่วยดูแลบาร์แห่งนี้เช่นกัน แต่เขาประจำอยู่ที่ Vesper มากกว่า
“ตอนนี้เรามีค็อกเทลประมาณ 500 สูตร เป็นคลาสสิกค็อกเทลทั้งหมด ความยากคือเราเปลี่ยนเมนูทุกวัน ก็ต้องจำสูตรใหม่ทุกวัน และต้องจัดเมนูให้มีความหลากหลายด้วย” แมคบอก
แต่ทุกคนไม่ต้องกลัวว่าแก้วโปรดจะหายไป เพราะทุกวันสามารถสั่งนอกเมนูได้ ใครอยากดื่มอะไรก็สั่งเลย เพียงแต่ค็อกเทลที่เลือกมาในแต่ละคืนเป็นเมนูแนะนำ เผื่อว่าใครอยากลองอะไรใหม่ๆ โดยค็อกเทลจะแบ่งให้เป็น 3 หมวด คือ 1st, 2nd และ 3rd เรียงลำดับตามความแรง ดื่มง่ายไปดื่มยาก แก้วเปิดไปแก้วปิด ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 380-480 บาท
อย่างคืนที่เราไปก็ได้ลอง Peach Bellini (380 บาท) ค็อกเทลจากหมวด 1st เป็นสไตล์หวานดื่มง่าย ขยับมาหน่อยที่ 2nd เป็น Missionary’s Downfall (420 บาท) แก้วนี้ดื่มสบายๆ เน้นความสดชื่น หรือใครจะลอง Frozen Watermelon Margarita (420 บาท) ก็แนะนำ เป็นเมนูที่มีทุกวันและดื่มสบายๆ เช่นกัน
ถ้าใครอยากดื่มหนักหน่อย แนะนำให้ลอง Irish Coffee (400 บาท) ค็อกเทลอุ่นๆ ที่เข้ากับบรรยากาศช่วงนี้ มีครีมนุ่มๆ ด้านบนช่วยตัดรสวิสกี้และกาแฟให้ดื่มแล้วละมุน เป็นอีกเมนูประจำที่มีทุกวันเช่นกัน
“คลาสสิกค็อกเทลเก่าๆ จะดื่มยาก ถ้าลองทำตามสูตรเดิมเลยส่วนใหญ่จะหวาน เพราะสมัยก่อนไม่มีวิธีผสมให้ดีเหมือนตอนนี้ เราก็มีปรับสูตรให้เข้ากับสมัยบ้าง แต่ยังใช้ส่วนผสมตามดั้งเดิม”
และด้วยความสงสัยว่าพวกเขาขุดค้นเมนูค็อกเทลเก่าๆ มาได้อย่างไร แมคกับทอมบอกว่าต้องหาจากหนังสือ ทำแล้วลองชิม หรือหากเจอเครื่องดื่มใหม่ๆ ก็จดบันทึกไว้ (ทอมเปิดสูตรที่จดไว้ในมือถือกว่า 500 สูตรให้ดูด้วย)
เพราะฉะนั้น ถ้าใครอยากรู้ว่าจะมีแก้วโปรดของตัวเองหรือเปล่า ต้องลองไปสั่งดูแล้ว
Good for
4th Wall เป็นบาร์สำหรับคนชอบดริงก์ที่เรียบง่าย คลาสสิก แต่รสชาติถูกต้อง เราว่าเสน่ห์ของที่นี่คือการมีเครื่องดื่มใหม่ให้ลองทุกคืน อีกทั้งมาในบรรยากาศน่าสนุก ดูโมเดิร์น ชวนให้อยากพาเพื่อนมานั่งดื่ม เราจึงเชื่อว่าบาร์นี้จะกลายเป็นบาร์ในดวงใจของนักดื่มหลายคนแน่ๆ
4th Wall
Address: ชั้น 2 Luxx Langsuan Hotel ซอยหลังสวน
Open: ทุกวัน เวลา 17.30-01.00 น.
Contact: 4thwallbkk
Budget: 1,000-2,000 บาท
Map: