‘บ้านนอกเข้ากรุง’ ร้านอาหารโคราชที่จะทำให้ทุกคนหายคิดถึงบ้าน

แค่เดินมาถึงหน้าร้านเราก็เริ่มได้กลิ่นอายสไตล์ ‘บ้านนอกเข้ากรุง’ แล้ว ยิ่งก้าวเท้าเข้าไปด้านในก็ยิ่งเจอข้าวของที่คุ้นเคยต่างๆ ซึ่งเห็นได้ตามต่างจังหวัด แต่ที่นี่อาจเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ทันสมัยหน่อย เพราะที่มาที่ไปก่อนจะกลายมาเป็นบ้านนอกเข้ากรุงและสูตรอาหารในร้านนี้ จอม-ภูมิพันธ์ เอี่ยมปรเมศวร์ เจ้าของร้านและลูกชายเจ้าของสูตรอาหาร บอกว่าต้องเล่าย้อนกลับไปถึงสมัยรุ่นพ่อแม่ที่เป็นชาวโคราชแท้แต่กำเนิด

The vibe

บ้านนอกเข้ากรุงเป็นร้านอาหารที่จอมทำร่วมกับเครือนารา เขาบอกว่าอยากเปิดร้านอาหารรสมือแม่ที่ทำเอาทั้งคนกรุงและแขกบ้านแขกเมืองติดใจมานักต่อนัก เริ่มตั้งแต่สมัยพ่อแม่ยังหนุ่มสาว เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันที่นานๆ จะได้โชว์ฝีมือตามโอกาสพิเศษอยู่บ้าง

พอมาเปิดร้านอาหารของตัวเองจริงจัง จอมจึงหยิบเรื่องราวต่างๆ ในครอบครัว ตั้งแต่สมัยพ่อแม่เจอกันที่สถานีรถไฟ ไปจนถึงกระเบื้องลายเดียวกับบ้านที่โคราชมาใส่ในร้านนี้ และด้วยความเป็นบ้านนอกเข้ากรุง เขาก็ตั้งใจทำบรรยากาศร้านให้ดูพิเศษแต่เรียบง่าย เป็นกันเองแต่ก็ทันสมัย สมกับเป็นเด็กบ้านนอกที่เติบโตมาในครอบครัวหัวสมัยใหม่

The taste

สูตรอาหารของบ้านนอกเข้ากรุง จอมบอกว่าเป็นสูตรที่แม่รับต่อมาจากยายทั้งหมด นี่คือรสมือที่ครอบครัวของเขากินมาแต่เด็ก และยกรสชาติเดียวกันมาเสิร์ฟในร้านนี้

“อาหารโคราชไม่ใช่อาหารอีสาน เพราะโคราชไม่ใช่อีสาน โคราชเป็นจังหวัดแรกสู่อีสาน ถึงแม้จะอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คนโคราชไม่ได้กินอาหารแบบคนอีสาน เรามีอาหารโคราช เราไม่พูดภาษาอีสานด้วย คนโคราชมีภาษาของตัวเอง เพราะฉะนั้นโคราชจะมีความยูนีกของเขา”

ทุกเมนูที่เราได้ชิมวันนี้เป็นอาหารโคราชจานซิกเนเจอร์ ถ้าใครอยากรู้ว่ารสมือคนโคราชเป็นอย่างไรให้ลองสั่งตาม เริ่มจานแรกด้วย ออเดิร์ฟบ้านนอก (320 บาท) มีปีกไก่ทอด ปอเปี๊ยะโคราช ไส้กรอกโคราชบ้านเอง และปลาร้าบอง เป็นจานของกินเล่นที่เราอยากให้ลอง เพราะแต่ละอย่างรสชาติดี โดยเฉพาะไส้กรอกโคราชและปลาร้าบอง

“ปีกไก่เราเอาไปทอดกะปิ ปลาร้าบองสูตรบ้านใครบ้านมัน ซึ่งรสชาตินี้เป็นรสมือของแม่ ส่วนไส้กรอกโคราชเราทำแบบบ้านนอก คือใส่ทุกอย่างลงไปทั้งมันทั้งเนื้อ”

ส่วนปอเปี๊ยะของร้านนี้จะไม่เหมือนร้านไหน เพราะจอมบอกว่าข้างในทำเหมือนผัดหมี่โคราช รสชาติจะเข้มข้นกว่า ยิ่งจิ้มกับปลาร้าบองยิ่งแซ่บ

หมี่โคราชกุ้งแม่น้ำ (680 บาท) เป็นเมนูทำ(ให้อร่อย)ยาก เพราะต้องผัดเครื่องแกงกับน้ำตาลปี๊บจนกว่าจะสีเหลืองทอง แล้วค่อยใส่เต้าเจี้ยวกับเส้น กว่าจะได้กระทะหนึ่งใช้เวลา 30 นาที ซึ่งเราว่าหมี่โคราชสูตรบ้านนี้รสชาติเข้มข้น หอม และใส่เนื้อสัตว์เพิ่มจากสูตรออริจินัลด้วย เพราะฉะนั้นหากใครไปตามหาหมี่โคราชที่ไหนแต่ไม่เจอหมูหรือกุ้งแม่น้ำก็ไม่ต้องแปลกใจไป

เมี่ยงคำปลาช่อน (580 บาท) ก็เช่นกัน เพราะสูตรบ้านนอกเข้ากรุงจะใช้ปลาช่อนเนื้อแน่น แกะเนื้อมาให้เป็นชิ้นลูกเต๋าพอดีคำ เวลากินกับใบเมี่ยง เครื่องเคียง และน้ำจิ้มแล้วครบรส

น้ำพริกขี้กาผักต้ม (280 บาท) สูตรบ้านนี้จะใช้พริกบ้านนำไปย่างหรือคั่ว หลังจากนั้นนำมาโขลกกับเนื้อปลาทู เราว่ารสชาติออกนัวๆ สไตล์อีสาน แต่จะไม่เผ็ดโดด เค็มโดด มีความกลมกล่อมสไตล์ผู้ดี เช่นเดียวกับ ตำหลวงพระบางสูตรแอร์โฮสเตส (180 บาท) เป็นสูตรที่พี่สาวของจอมซึ่งเคยทำอาชีพบนเครื่องบินเป็นคนชิมรสจากประเทศต้นตำรับและกลับมาบอกให้แม่ตำให้กินที่บ้าน รสชาติจะกลมกล่อม หอมปลาร้าเบาๆ และจอมบอกว่าหากถามใครต่อใคร ถ้าต้องให้คะแนนจานเด็ดฝีมือแม่ 3 อันดับแรกจะต้องมีเมนูนี้เสมอ

แล้วปิดด้วยของหวานล้างปากอย่าง กล้วยน้ำว้าเชื่อมน้ำตาลคาราเมล (120 บาท) ที่มาพร้อมกะทิเอสพูม่านุ่มๆ หรือ ไอศกรีมทำสด รสเกลือคาราเมล (120 บาท) ไอศกรีมทำเองรสชาติหอมหวานมัน มีป๊อปคอร์นกรุบกรอบให้เคี้ยว

Good for…

วันไหนใครคิดถึงกับข้าวบ้านก็ลองแวะมาที่นี่ เพราะเราว่าร้านทำรสชาติแต่ละเมนูได้ดี เป็นอาหารโคราชที่เชื่อว่าหากใครได้ลองกินก็ถูกปาก พาคนในครอบครัวหรือเพื่อนมากินได้ รสจะไม่เผ็ดเค็มแบบอีสาน แต่ก็ไม่หวานโดดเหมือนภาคกลาง

เอาเป็นว่านี่คือรสมือคนโคราชที่เราเชื่อว่าหลายคนจะต้องติดใจและอยากกลับมาอีกครั้งแน่นอน