Huawei Technologies เริ่มใช้ส่วนประกอบจากจีนมากขึ้นในสมาร์ทโฟนของตน โดยเฉพาะในรุ่น Mate 60 Pro ซึ่งมีส่วนประกอบจากจีนมากขึ้น 18% จากรุ่น Mate 40 Pro การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการปรับเปลี่ยนตามข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ
Mate 60 Pro ที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมสำหรับตลาดจีน ถูกแยกส่วนโดย Nikkei และ Fomalhaut Techno Solutions เพื่อวิเคราะห์ส่วนประกอบ ผลการวิเคราะห์พบว่า 47% ของส่วนประกอบของโทรศัพท์มีชิ้นส่วนที่ผลิตจากจีนเพิ่มขึ้น 18% จากรุ่น Mate 40 Pro ที่เปิดตัวในปี 2020
การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน รวมถึงการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ด้วยเทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร
ส่วนประกอบที่มีราคาสูงที่สุดคือจอแสดงผล OLED ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับจาก LG Display ของเกาหลีใต้ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้จาก BOE Technology Group ของจีน การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญเนื่องจาก LG และ Samsung Electronics ครองตลาดจอแสดงผลสมาร์ทโฟน
มูลค่ารวมของส่วนประกอบ Mate 60 Pro ถูกประเมินอยู่ที่ 422 ดอลลาร์ นอกจากนี้ การศึกษายังเปิดเผยว่า Mate 60 Pro ใช้ชิป 7 นาโนเมตรที่ออกแบบโดย HiSilicon ของ Huawei และผลิตโดย Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ของจีน ซึ่งเป็นการพัฒนาที่น่าสนใจ เนื่องจากชิปที่ล้ำหน้าเหล่านี้เดิมผลิตโดยบริษัทในไต้หวัน เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ
SMIC มีความสามารถในการผลิตชิปเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ พวกเขาใช้เครื่องจักรเก่าในการสร้างวงจรที่เทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ 7 นาโนเมตร ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์จีนเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด เนื่องจากเชื่อว่าจีนยังตามหลังอยู่หลายปีในด้านนี้
บทความยังบันทึกถึงการลดลงของส่วนประกอบจากญี่ปุ่นใน Mate 60 Pro เหลือ 1% จาก 19% ใน Mate 40 Pro โดย Huawei เปลี่ยนซัพพลายเออร์เซ็นเซอร์ภาพของกล้องจาก Sony Group เป็น Samsung ทำให้ส่วนแบ่งชิ้นส่วนเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 5% เป็น 36%
โดยสรุป Huawei Mate 60 Pro สะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อการใช้ส่วนประกอบจากจีน ซึ่งบ่งบอกถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของจีนในเทคโนโลยีและการปรับตัวต่อสภาพการค้าโลก
ภาพ: Costfoto / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
