เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศสเปิดให้เที่ยวชมอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ต้องสั่งอพยพคนด่วนและปิดชั่วคราวด้วยเหตุผลเพื่อความปลอดภัย หลังมีคนขู่วางระเบิดซ้ำรอบที่ 2 ในเวลาห่างกันเพียงแค่ไม่กี่วัน ขณะที่ทางการฝรั่งเศสคุมเข้มกำลังตำรวจเพื่อเตรียมรับมือกับเหตุก่อการร้ายซึ่งอาจเกิดได้ทุกเมื่อ
โดยฝรั่งเศสยังอยู่ในขั้นเตือนภัยขั้นสูงสุด หลังเกิดเหตุแทงครูเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม
ในวันที่ปิดพระราชวังแวร์ซายส์นั้น หนังสือพิมพ์ The Guardian รายงานว่า ผู้ที่มาเที่ยวชมพระราชวังแวร์ซายส์หลายร้อยคนต้องเร่งเดินทางออกจากสถานที่ดังกล่าว ขณะที่หน่วยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดได้รีบรุดเข้ามายังจุดเกิดเหตุ แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น โดยภายหลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมงพระราชวังแวร์ซายส์ก็กลับมาให้บริการตามปกติ
เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการขู่วางระเบิดครั้งที่ 2 ในรอบ 4 วัน หลังเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 ตุลาคม) พระราชวังแวร์ซายส์ต้องเคลียร์คนออกและปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากได้รับแจ้งเหตุว่ามีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเกิดขึ้น โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก็ต้องเร่งอพยพคนออกเช่นกัน เพราะเจอกับข้อความข่มขู่โจมตี แต่สุดท้ายก็ไม่พบระเบิดตามคำขู่
ปัจจุบันฝรั่งเศสได้เตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด หลังจากเกิดเหตุผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตีโรงละครบาตากล็อง (The Bataclan) และจุดอื่นๆ ในกรุงปารีสเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2015 ขณะเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ฝรั่งเศสเพิ่งเผชิญกับเหตุสะเทือนขวัญหลังคนร้ายจ้วงแทง โดมินิค เบอร์นาร์ด ครูสอนภาษาฝรั่งเศสจนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน โดยเกิดเหตุขึ้นที่เมืองอารัส ทางตอนเหนือของประเทศ
อนึ่ง นับตั้งแต่ที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลรอบใหม่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นั้น หลายประเทศในยุโรปพยายามจับตาดูสถานการณ์ความปลอดภัยในดินแดนของตัวเองอย่างใกล้ชิด ขณะที่ ริมา อับดุล มาลัค รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศส กล่าวว่า “ฝรั่งเศสมีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด เราจะไม่ยอมแพ้ต่อการเคลื่อนไหวที่ก่อให้เกิดความรุนแรง”
ภาพ: Sergii Figurnyi Via Shutterstock
อ้างอิง: