วันนี้ (5 ตุลาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงกรณี พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และคนอื่นๆ รวม 10 คน กรณีแต่งตั้ง พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยมิชอบ เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงหลักอาวุโสตามที่กฎหมายกำหนด
ชัยกล่าวว่า การแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปตามมาตรา 77 และ 78 พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 โดยสาระสำคัญระบุว่า ผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร. จะต้องเป็นรอง ผบ.ตร. หรือจเรตำรวจ ซึ่งในการพิจารณาวันนั้นมีบุคคลที่มีคุณสมบัติคือรอง ผบ.ตร. 4 ท่าน ซึ่งเกณฑ์ในการคัดเลือกให้ยึดลำดับอาวุโสและความรู้ความสามารถ โดยกฎหมายก่อนหน้านี้ระบุว่าให้ยึดเพียงอาวุโสเป็นหลัก แต่ พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 ให้พิจารณาเรื่องความรู้ความสามารถด้วย โดยให้นายกฯ เป็นผู้เสนอชื่อ และที่ประชุม ก.ตร. เป็นผู้ลงมติโหวต
ชัยกล่าวต่อว่า จากข้อเท็จจริงแคนดิเดตทั้ง 4 คน ในแง่อาวุโสนั้นมี 2 ระดับ คือ พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ มีความอาวุโสสูงที่สุด และมากกว่าอีก 3 คน จำนวน 1 ปีเท่ากัน โดยก่อนที่นายกฯ จะเสนอชื่อ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ได้เปิดให้ ก.ตร. แสดงความคิดเห็นถึงความรู้ความสามารถของแคนดิเดตแต่ละท่านว่าเป็นอย่างไร รวมถึงได้ให้ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ในขณะนั้น เป็นผู้นำเสนอในฐานะผู้บังคับบัญชาว่าแคนดิเดตแต่ละคนเป็นอย่างไร โดยนายกฯ ได้รับรู้อย่างรอบด้านก่อนเสนอชื่อ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ และที่ประชุมก็เห็นชอบกับข้อเสนอของนายกฯ
“เมื่อเทียบข้อเท็จจริงกับกฎหมาย การแต่งตั้งครั้งนี้ไม่มีปัญหา ถูกต้องตามหลักกฎหมายทุกประการ ข้อเท็จจริงมีความชอบธรรม สมเหตุสมผล นายกฯ ไม่ได้ลุแก่อำนาจ ยึดตามหลักกฎหมายและรับฟังอย่างรอบด้านแล้วจริงๆ” ชัยกล่าว
เมื่อถามว่า จากการฟ้องร้องขณะนี้จะดำเนินการอย่างไร ชัยกล่าวว่า ก็จะชี้แจงตามข้อเท็จจริง ให้ไปชี้แจงที่ไหนก็ทำได้ ไม่ใช่เฉพาะนายกฯ แต่คนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สามารถชี้แจงได้ทุกคน
ชัยกล่าวด้วยว่า นายกฯ บอกแต่เพียงว่านึกไม่ถึงว่าจะเป็นปัญหา และมันไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ทำให้เสียเวลา เสียสมาธิในการทำงาน แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วสังคมก็อยากจะรู้ จึงให้ตนมาชี้แจงทำความเข้าใจ