บรรดาผู้นำจากทั่วโลกอย่างน้อย 145 ประเทศ รวมถึง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย เดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78) ระหว่างวันที่ 19-24 กันยายน ณ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวของผู้นำโลกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ผ่านพ้นวิกฤตโควิด ขณะที่ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ยังได้เดินทางไปร่วมกล่าวบนเวทีประชุมด้วยตนเองเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากสงครามรุกรานยูเครน
โดยผู้นำรัสเซีย และมหาอำนาจอย่างจีน ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ไม่ได้ไปร่วมการประชุมครั้งนี้
วันแรกของการประชุม เซเลนสกีและผู้นำโลกหลายคนได้ขึ้นกล่าว พร้อมเน้นย้ำวาระสำคัญของโลก ทั้งสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ จากกรณีสงครามรัสเซีย-ยูเครน ความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน และภาวะแบ่งแยกแตกขั้วของโลกที่กำลังเกิดขึ้น ตลอดจนวิกฤตโลกรวนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
และนี่คือสรุปประเด็นสำคัญที่ผู้นำโลกได้ออกมาพูดบนเวที UNGA78 วันแรก
เซเลนสกี-ไบเดน ย้ำโลกอย่าเสียความมุ่งมั่นต้านรัสเซีย
ในการปรากฏตัวบนเวที UNGA ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน เซเลนสกีกล่าวเตือนว่า รัสเซีย “กำลังพยายามเปลี่ยนยูเครนให้เป็นอาวุธต่อต้านโลก”
และเพื่อร้องขอต่อชาติพันธมิตรไม่ให้ปล่อยให้ความเหนื่อยล้าจากสงครามอันยืดเยื้อมาบั่นทอนการสนับสนุนยูเครน เซเลนสกีกล่าวเตือนว่า “เสบียงอาหารและพลังงานจากรัสเซียจะถูกนำมาใช้เป็นอาวุธ และทั้งโลกนั้นจะต้องทนทุกข์ทรมาน
“เมื่อความเกลียดชังถูกใช้เป็นอาวุธทำลายชาติ มันจะไม่มีทางหยุดนิ่ง เป้าหมายของการทำสงครามกับยูเครนในปัจจุบันคือการเปลี่ยนที่ดินของเรา ประชาชนของเรา ชีวิตของเรา และทรัพยากรของเรา ให้เป็นอาวุธเพื่อต่อต้านคุณ ต่อต้านระเบียบที่อิงกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ” เซเลนสกีกล่าว
ความคิดเห็นของเซเลนสกียังสะท้อนถึงความเห็นของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวถ้อยแถลงเรียกร้องให้ผู้นำโลกยังคงแน่วแน่ในการสนับสนุนยูเครน
“รัสเซียเชื่อว่าโลกจะเหนื่อยล้า และปล่อยให้ยูเครนถูกทารุณกรรมอย่างไร้ผล ถ้าเรายอมให้มีการแบ่งแยกยูเครน เอกราชของประเทศหนึ่งจะยังมั่นคงหรือไม่? ผมขอเสนอแนะด้วยความเคารพว่าคำตอบคือไม่” ไบเดนกล่าว
ไบเดนอยากลดความเสี่ยงจีน ไม่ใช่แยกออกจากกัน
อีกประเด็นที่ทั่วโลกจับตามองคือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งไบเดนกล่าวว่า การเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนกับทั่วโลกที่สหรัฐฯ พยายามผลักดัน รวมถึงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรับมือประเทศใด ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างถึงจีนอย่างชัดเจน
ไบเดนยังกล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังพยายาม “บริหารจัดการการแข่งขันระหว่างทั้งสองประเทศอย่างรับผิดชอบ” เพื่อไม่ให้ส่งผลจุดชนวนความขัดแย้ง
“ผมบอกว่าเรากำลังลดความเสี่ยง ไม่ใช่แยกตัวออกจากจีน เราจะต่อต้านความก้าวร้าวและการข่มขู่เพื่อปกป้องกฎระเบียบ ตั้งแต่เสรีภาพในการเดินเรือ ไปจนถึงการบินข้ามทะเล และระดับการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยรับประกันความปลอดภัยและความเจริญรุ่งเรืองมานานหลายทศวรรษ แต่เราก็ยังเต็มใจที่จะทำงานร่วมกับจีนในประเด็นที่ความคืบหน้านั้นขึ้นอยู่กับความพยายามร่วมกันของเรา” เขากล่าวในที่ประชุม
วิกฤตโลกรวนยังเป็นประเด็นใหญ่
ไบเดนยังเน้นย้ำว่า ปักกิ่งและวอชิงตันต้องทำงานร่วมกันในเรื่องสภาพภูมิอากาศ
เขากล่าวเตือนว่า มนุษยชาติทั้งหมดกำลังเผชิญความเสี่ยงจากวิกฤตสภาพอากาศ และชี้ว่า “คลื่นความร้อน ไฟไหม้ ภาวะแห้งแล้ง และน้ำท่วมทั่วโลกที่เกิดขึ้นในช่วงไม่นานนี้ เป็นเพียงภาพรวมของเรื่องราวเร่งด่วนที่รอเราอยู่ หากเราไม่สามารถลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและเริ่มดำเนินการเช่นนั้น เพื่อทำให้สภาพอากาศโลกปลอดภัย”
เลขาฯ UN เตือนโลกแตกสลาย
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN เตือนบรรดาผู้นำโลกด้วยความจริงจังว่า โลกกำลังจะ ‘แตกสลาย’ โดยระบุถึงภัยคุกคามที่มีอยู่ และชี้ถึงความล้มเหลวของทั่วโลกในการทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขและรับมือ
“โลกของเรากำลังแตกสลาย ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์กำลังเพิ่มมากขึ้น ความท้าทายระดับโลกกำลังเพิ่มขึ้น และดูเหมือนเราจะไม่สามารถรับมือกับมันร่วมกันได้” เขากล่าว
โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับกูเตอร์เรสคือ ‘แผนช่วยเหลือ’ สำหรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2030 ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวกำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2015 ครอบคลุมประเด็นต่างๆ รวมถึงความหิวโหย ความยากจน ความเท่าเทียมทางเพศ และสภาพภูมิอากาศ
แต่ตามรายงานของ UN เมื่อเร็วๆ นี้พบว่า มีเป้าหมายเพียงร้อยละ 15 จาก 140 เป้าหมายเท่านั้นที่กำลังเดินไปอย่างถูกทาง และส่วนใหญ่เดินหน้าไปในทิศทางที่ผิด ทำให้คาดว่าจะไม่มีใครบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในอีก 7 ปีข้างหน้าได้ทัน
ภาพ: Michael M. Santiago / Getty Images
อ้างอิง: