วันนี้ (13 กันยายน) ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจภูธรภาค 7, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร กว่าร้อยนายรวมตัวที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (อาคารใหม่) กว่า 100 นาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าตรวจค้นเป้าหมายสำคัญในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ที่มีความเชื่อมโยงกับบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ที่ ประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ถือหุ้นส่วนอยู่ เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่สงสัยว่ามีการร่วมกันสมทบในการเสนอราคาประมูลโครงการก่อสร้าง ที่เอื้อผลประโยชน์ต่อกัน หรือการฮั้วประมูล โดยมี 15 จุดที่เข้าตรวจค้นในวันนี้ โดยมีจุดสำคัญ 6 เป้าหมาย
เป้าหมายที่ 1 คือที่ทำการบริษัท พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด อยู่ในพื้นที่ของตำบลตาก้อง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จุดนี้มีลักษณะคล้ายเป็นแพลนต์ปูนขนาดใหญ่มีรถบรรทุกจำนวนหลายคันจอดอยู่บริเวณลานกว้าง ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่แสดงหมายค้น ศาลอาญา เพื่อขอเข้าตรวจค้น ทางพนักงานของบริษัทและ รปภ. พยายามขัดขวางเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปโดยทันที แต่เจ้าหน้าที่พยายามชี้แจงให้ฟังว่าพฤติกรรมดังกล่าวถือว่ามีความผิดฐานขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ก่อนที่พนักงานบริษัทดังกล่าวจะยินยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในพื้นที่ของบริษัท โดยจุดนี้มีทางหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เข้าไปเคลียร์พื้นที่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบข้างใน
ภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เดินทางเข้ามาร่วมตรวจค้นภายในบริษัทดังกล่าวด้วย ก่อนออกมาเปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เบื้องต้นพบพิรุธ ส่อเข้าข่ายสมคบกันฮั้วประมูลราคา โครงการก่อสร้าง ซึ่งเชื่อว่าผู้กระทำผิดไม่ได้มีแค่คนเดียว การตรวจค้นวันนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานนำไปวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อหาจุดเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้กระทำผิดคนอื่นๆ ถ้าถึงใครก็เตรียมรับผิดได้
นอกจากหน่วยงานที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว วันนี้มีเจ้าหน้าที่ทั้งจากกรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร มาตรวจสอบเรื่องการเสียภาษี รวมถึง ป.ป.ง. ได้เข้ามาตรวจสอบด้วย การที่ลงพื้นที่ตรวจค้นทั้ง 4 จุดวันนี้ ยืนยันว่าทุกจุดมีความเชื่อมโยงกันมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้
เป้าหมายที่ 2 คือ บริษัท ธงชัยเจริญก่อสร้าง 2566 จำกัด เป็นคู่แข่งที่ร่วมประกวดราคาก่อสร้างถนนกับบริษัทของกำนันนก หลังมีข้อมูลว่าอาจฮั้วประมูล ทีมงานฝ่ายกฎหมายของบริษัทธงชัยยืนยันว่าเป็นเพียงบริษัทคู่แข่งกับบริษัทของกำนันนกเท่านั้น แต่ไม่รู้จักกันส่วนตัว เปิดเป็นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย มีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท
เป้าหมายที่ 3 บริษัท สิงห์ชัย เค.พี.เอส. จำกัด ที่เป็นคู่แข่งของกำนันนก อีกแห่ง ตั้งอยู่ที่ตำบลกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โดยจากข้อมูลแนวทางการสืบสวนพบว่า บริษัทนี้มี นริศร วุฒาพาณิชย์ เป็นหุ้นส่วน โดยเมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางได้แจ้งหมายศาล และนำกำลังเข้าตรวจค้น พูดคุยกับเจ้าของบ้านและนริศรที่อยู่ภายในบ้าน
จากนั้นได้เข้าตรวจสอบเอกสารต่างๆ ของบริษัทในห้องทำงานที่เก็บเอกสาร โดยนำเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร และเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง เข้ามาร่วมตรวจสอบเอกสารต่างๆ ด้วย เพื่อหาข้อมูลหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างต่างๆหรือไม่ โดยได้ตรวจยึดเอกสาร และคอมพิวเตอร์ไปตรวจ ใช้เวลาตรวจค้น นานกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนริศรไปสอบปากคำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7
โดยนริศรเปิดเผยสั้นๆ ว่า ส่วนตัวรู้จักกับกำนันนก เคยคุยกันบ้าง เพราะเป็นผู้รับเหมาในจังหวัดนครปฐมเหมือนกัน และบริษัทของตนเอง จะแข่งขันกับบริษัทของกำนันนกในการประมูลงาน เพราะตัวเองเป็นบริษัทเล็กพร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีการฮั้วประมูลหรือเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทกำนันนก ยินดีให้ตรวจสอบทุกอย่างและให้ความร่วมมือกับตำรวจ
สำหรับเป้าหมายที่ 4-5 เป็นบ้านของศักรินทร์ หรือ กำนันเต้ง ทุ่งรี ในตำบลทัพหลวง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม แนวทางการสืบสวนพบว่า มีความเกี่ยวข้องกับกำนันนกในการฮั้วประมูลโครงการหนึ่ง แต่เมื่อไปถึงก็ไม่พบเจ้าตัว ซึ่งญาติๆ บอกว่า ทำธุรกิจค้าขายอยู่ต่างประเทศ
เป้าหมายที่ 6 เป็นของ จ.ส.ต. พิสิฐ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการหมู่งานทางหลวงฯ ที่อยู่ในวันเกิดเหตุและมีประเด็นเรื่องของการขอให้ย้ายสายงานจากสารวัตรแบงค์ ในพื้นที่ตำบลตลาดจินดา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นบ้านพักของ จ.ส.ต. พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่งานทางหลวงฯ ที่อยู่ในวันเกิดเหตุและมีประเด็นเรื่องของการขอให้ย้ายสายงานจากสารวัตรแบงค์
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงไม่พบตัว จ.ส.ต. พิสิฐ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้น พบอาวุธปืน 9 กระบอก เป็นปืนยาว 3 กระบอก ปืนสั้น 6 กระบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกลับไปเพื่อตรวจสอบ