×

สรุปปรากฏการณ์ ‘VanMoof’ ผู้มีฉายา Tesla แห่งวงการจักรยานไฟฟ้า เข้าสู่ภาวะ ‘ล้มละลาย’ ภารกิจบุกเบิก E-Bike ล้มเหลว กระทบโลกทั้งใบ!

10.08.2023
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • การล้มละลายของ VanMoof กำลังฝากรอยแผลใหญ่และลึกไว้ในอุตสาหกรรม E-Bike ระดับโลก ก้าวที่ล้มเหลวของสตาร์ทอัพผู้ผลิตจักรยานไฟฟ้าสัญชาติเนเธอร์แลนด์รายนี้ถูกมองว่าจะส่งผลกระทบถึงการรับรู้ของผู้บริโภคในหลายประเทศ และการจัดหาเงินทุนในแวดวง E-Bike ต่อไปอีกนาน
  • บทสรุปของสิ่งที่เกิดขึ้นคือธุรกิจ E-Bike ไม่ได้มาถึงทางตัน แต่สิ่งที่ทำให้ตันคือ ‘การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์’ โดยไม่มีความร่วมมือกับพันธมิตรที่กว้างขวางและเหนียวแน่นพอ ถือเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดที่ทำให้ VanMoof ต้องประสบปัญหาทางการเงิน 
  • จุดอ่อนนี้ของ VanMoof สามารถเตือนใจสตาร์ทอัพทั่วโลกให้ระวังตัวเมื่อต้องการบุกเบิกธุรกิจใดก็ตาม โดยเฉพาะการออกแบบส่วนประกอบที่ผลิตขึ้นเอง ซึ่งอาจสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง แต่จะเต็มไปด้วยความท้าทายด้านเทคนิค โลจิสติกส์ และการเงิน เนื่องจากชิ้นส่วนสั่งทำพิเศษจำเป็นต้องใช้เครื่องมือและความรู้เฉพาะด้าน ทำให้การซ่อมแซมเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงลิบลิ่ว

VanMoof เคยถูกสื่อมวลชนเรียกขานว่า ‘Tesla แห่งวงการจักรยานไฟฟ้า’ จักรยานไฟฟ้าของ VanMoof มีการออกแบบให้ดูเรียบง่าย แต่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่โดดเด่น ทั้งการเชื่อมต่อบลูทูธและจอแสดงผลในตัว จึงไม่แปลกที่ VanMoof จะประสบความสำเร็จในการขยายการเข้าถึงสู่ตลาดต่างประเทศในระยะเวลา 14 ปีที่ก่อตั้งมา โดยส่งออกวัฒนธรรมจักรยานของชาวดัตช์ไปยัง 25 ประเทศทั่วโลก

 

แต่แล้ว VanMoof ก็เดินสะดุดขาตัวเอง วันนี้บริษัทประสบปัญหาทางการเงินและถูกศาลกรุงอัมสเตอร์ดัมประกาศให้เป็นนิติบุคคลล้มละลาย ทำให้ไม่มีแรงในการดันเป้าหมายการปฏิวัติการเดินทางในเมือง ด้วยจักรยานไฟฟ้าความเร็วสูงมอเตอร์ทรงพลัง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่วิ่งในระยะทางไกลได้ แถมยังสามารถเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ มีระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ มีระบบป้องกันจักรยานหายด้วยการรองรับฟีเจอร์ Find My ของ Apple รวมถึงมีพอร์ตชาร์จ USB-C ในจักรยานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดอย่าง S5 และ A5 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

สื่อต่างประเทศระบุว่า จักรยานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของ VanMoof มีคุณสมบัติและชิ้นส่วนที่ VanMoof ออกแบบเอง ซึ่งสร้างความท้าทายเรื่องการส่งมอบที่ตรงเวลาและการคืนเงินลงทุนที่หนักที่สุดเมื่อเทียบกับทุกรุ่น เพราะมีข้อบกพร่องจำนวนมากอย่างคาดไม่ถึง ตั้งแต่แบตเตอรี่ที่ทำงานผิดปกติ ไปจนถึงปัญหาชิฟเตอร์ (Shifter) ค้าง ทำให้บริษัทมีภาระอย่างมากในการจัดการการซ่อมแซมภายในบริษัท กลายเป็นหนึ่งในหลายที่มาของการล้มละลายในระยะเวลาเพียง 2 ปีหลังจากที่บริษัทได้รับเงินทุนกว่า 175 ล้านดอลลาร์

 

บทเรียน VanMoof ทำนวัตกรรมต้องสมดุล

 

หนึ่งในบทสรุปที่ทำให้ VanMoof ไม่สามารถรักษายอดขายและจัดการผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้นได้ คือการไม่ได้สร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการทำงานร่วมกันกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม ส่งให้การคิดค้นใหม่ๆ ซึ่งเป็นเหมือนทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ VanMoof กลายเป็นจุดอ่อนในพริบตา

 

เห็นได้ชัดจากกรณีของปัญหาชิฟเตอร์ค้าง จักรยานทุกคันที่ถูกออกแบบมาให้มีเกียร์มักจะต้องมี Shifter เพื่อส่งเสริมให้การปั่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตรงนี้ VanMoof เลือกที่จะพัฒนา Shifter ขึ้นเองเช่นเดียวกับหลายส่วนประกอบจักรยานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ 

 

ดังนั้นเมื่อ Shifter ที่ต้องสั่งทำพิเศษนี้ต้องใช้เครื่องมือและความรู้เฉพาะด้าน การซ่อมแซมจึงกลายเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง ช่างซ่อมในพื้นที่ใกล้เคียงหลายคนไม่คุ้นเคยกับความซับซ้อนของจักรยานไฟฟ้าแบรนด์ VanMoof ทำให้กระบวนการซ่อมแซมยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก

 

 

ในอีกมุม การล่มสลายของ VanMoof ยังเป็นเครื่องเตือนใจที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรม E-Bike ภาวะนี้ขีดเส้นใต้ 200 เส้นถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการทำงานร่วมกันเป็นอีโคซิสเต็ม 

 

แม้ว่านวัตกรรมจะมีความสำคัญต่อการรักษาความสามารถในการแข่งขัน แต่การปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมและการรับประกันความสามารถในการซ่อมบำรุงที่ง่ายดายอย่างเป็นระบบก็ยังมีความสำคัญไม่แพ้กัน ในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากระเป๋าฉีกเพราะต้นทุนการบำรุงรักษาพุ่งกระฉูด

 

E-Bike ไม่ตาย?

 

ขณะนี้ผู้เล่นรายอื่นในตลาด E-Bike กำลังตื่นตัวกับการล่มสลายของ VanMoof หลายแบรนด์หันมาประเมินกลยุทธ์ของบริษัทเสียใหม่ สปอตไลต์ตอนนี้ฉายไปที่บริษัทขนาดเล็กชื่อ Cowboy ในบรัสเซลส์ และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ไอทีอย่าง acer ที่อาจกำลังปรับแนวทางเพื่อหลีกเลี่ยงชะตากรรมเดียวกัน 

 

โดยมีแนวโน้มเดินตามผู้เล่นรายใหญ่ที่มีเครือข่ายค้าปลีกและบริการที่มั่นคงกว่าอย่าง Pon ซึ่งมีข้อได้เปรียบเรื่องความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ E-Bike หลากหลาย ช่วยให้บริการบำรุงรักษาคล่องตัวขึ้น

 

ในขณะที่ชะตากรรมของบริษัทขนาดเล็กในวงการ E-Bike ยังคงไม่แน่นอน ความกังวลใจของผู้ใช้ก็ร้าวรานไม่แพ้กัน จำนวนไม่น้อยหวั่นวิตกเกี่ยวกับความต่อเนื่องของฟีเจอร์เฉพาะแบรนด์ เช่น ‘Touch Unlock’ ของ VanMoof ซึ่งต้องอาศัยการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ VanMoof

 

ภาวะล้มละลายนำไปสู่การปิดบริการชั่วคราวของ VanMoof ทำให้ลูกค้าบางส่วนไม่สามารถใช้งานจักรยานได้ ตรงนี้กลับเป็น Cowboy บริษัทจักรยานไฟฟ้าสัญชาติเบลเยียมที่ได้เปิดตัวแอป Bikey เพื่อช่วยเหลือเจ้าของจักรยาน VanMoof โดยเปิดให้สร้างและจัดเก็บรหัสดิจิทัลสำหรับจักรยานของแต่ละคน แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์ของ VanMoof จะออฟไลน์ก็ตาม

 

การออกแอ็กชันของ Cowboy ถือเป็นการเยียวยาการรับรู้ของผู้บริโภคให้มองสินค้ากลุ่ม E-Bike อย่างมั่นใจได้มากขึ้น แต่การล้มละลายของ VanMoof ถูกมองว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำลายความมั่นใจในการลงทุนกับอุตสาหกรรมจักรยานไฟฟ้า จนกว่าแบรนด์ E-Bike จะพิสูจน์ตัวเองว่ามีความสมดุลและมีความสามารถในการปรับตัวมากพอ สำหรับ VanMoof ซึ่งเป็นบริษัทที่ครั้งหนึ่งเคยมีแนวโน้มดีมาก ก็อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดหาเงินลงทุนเพื่อฟื้นฟูกิจการในอนาคตเช่นกัน

 

 

ความน่าสนใจอีกจุดอยู่ตรงนี้ คือ Tesla ของ อีลอน มัสก์ ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข่าวว่ามีการพูดคุยกับ VanMoof แต่ข่าวลือนี้ดูเหมือนว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ยักษ์ใหญ่ยานยนต์ EV จะร่วมลงทุนในตลาด E-Bike เมื่อพิจารณาจากคำประกาศก่อนหน้านี้ของมัสก์ที่ย้ำชัดเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจจักรยานยนต์

 

ที่สุดแล้ว แม้การล้มละลายจะสร้างแผลไว้เหวอะหวะขนาดไหน แต่ VanMoof ก็ยังมอบมรดกแห่งนวัตกรรมไว้ให้อุตสาหกรรม E-Bike เพราะวิสัยทัศน์ของ VanMoof ในการกำหนดนิยามใหม่ของการเดินทางในเมืองนั้นมีผลกระทบที่สำคัญต่อการรับรู้ของผู้บริโภคในตลาด ทำให้จักรยานไฟฟ้าได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลดีจากภาวะนี้ด้วย

 

ดังนั้น อิมแพ็กจากปรากฏการณ์ ‘VanMoof ล้ม’ จึงกระทบโลกทั้งใบ ในขณะที่ปัญหาธุรกิจจักรยานไฟฟ้าจะเป็นเครื่องเตือนใจที่ยังคงมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมสตาร์ทอัพไปอีกนาน.

 

ภาพปก: Annette Riedl / picture alliance via Getty Images

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X