โฟลเคอร์ เติร์ก (Volker Turk) ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมา เปิดทางสำหรับการส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยไซโคลนโมคา (Mocha) ซึ่งพัดถล่มเมียนมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา และส่งผลให้เกิดน้ำท่วม ฝนตกหนัก อาคารบ้านเรือนพังถล่ม และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 148 ราย
“ความเสียหายและการสูญเสียชีวิตเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้และหลีกเลี่ยงได้ และมีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับการไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ” เติร์กกล่าวในการแถลงข่าวในเจนีวา พร้อมระบุว่า
“มีความจำเป็นที่กองทัพเมียนมาจะต้องยกเลิกการปิดกั้นการเดินทาง และอนุญาตให้มีการประเมินความต้องการเกิดขึ้น พร้อมทั้งรับประกันการเข้าถึงและการส่งมอบความช่วยเหลือที่ช่วยรักษาชีวิต”
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อาศัยของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมา ซึ่งที่ผ่านมาชาวโรฮิงญาถูกกองทัพเมียนมาลิดรอนสิทธิและเสรีภาพมาโดยตลอด อีกทั้งยังปฏิเสธที่จะให้หน่วยงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เข้าไปช่วยปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ ซึ่งชาวโรฮิงญาจำนวนมากอาศัยในค่ายพักพิงและอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
ขณะที่เมื่อวันอังคาร (22 พฤษภาคม) องค์การสหประชาชาติยังได้ขอเงินช่วยเหลือฉุกเฉินจากนานาชาติ วงเงิน 333 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากไซโคลนโมคา ซึ่งคาดว่ามีจำนวนถึง 1.6 ล้านคน
ภาพ: SAI AUNG MAIN / AFP
อ้างอิง: