วันนี้ (28 เมษายน) ที่พรรคพลังประชารัฐ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงถึงการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค โดยได้มอบหมายให้ตนในฐานะรองหัวหน้าพรรคให้มาทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมแทน ซึ่งตามกำหนดการเดิม พล.อ. ประวิตรจะเป็นประธานการประชุมด้วยตนเอง
การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมสามัญประจำปีตามร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 43 ซึ่งกำหนดให้พรรคการเมืองต้องจัดทำรายงานการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมา เพื่อเสนอต่อไปที่ประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อขออนุมัติงบประมาณ และในวันนี้ก็ถือว่าเป็นการดำเนินการที่อยู่ในกรอบเวลาของกฎหมาย
สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วยกรรมการบริหารพรรค ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ตัวแทนสาขาพรรค จำนวน 250 คน และที่ประชุมได้มีการพิจารณาต่างๆ ตามระเบียบวาระที่พิจารณาเห็นชอบในการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง ตามที่ สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคได้นำเสนอต่อที่ประชุม และนอกจากนั้นได้มีการเสนอในประเด็นสำคัญ คือเสนอให้ที่ประชุมเห็นชอบรายงานการเงินของพรรคการเมืองในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่ง นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ในฐานะเหรัญญิกพรรคได้เสนอต่อที่ประชุม
ไพบูลย์กล่าวอีกว่า ระเบียบวาระต่อมาคือการเสนอนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ใช้ในการโฆษณาหาเสียง ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 57 ซึ่งจะยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมทั้งสิ้น 20 นโยบาย ถือว่าสมาชิกพรรคได้มีส่วนร่วมกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐอย่างถูกต้อง โดยมี 3 นโยบายที่เป็นการลดค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน 7 นโยบายเพิ่มเงินในบัญชีของประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 เสนอที่จะทำให้แก่ประชาชน
3 นโยบายลดค่าใช้จ่ายคือ
- ลดค่าไฟฟ้า หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลจะลดค่าไฟฟ้าเหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย ถือว่าลดลงเกือบครึ่งสำหรับช่วยเหลือประชาชน และจ่ายลดลง 2.70 บาทต่อหน่วยกับภาคอุตสาหกรรม
- ลดค่าน้ำมัน เพราะเป็นเรื่องสำคัญกับประชาชน ที่สำคัญพรรคพลังประชารัฐจะลดค่าน้ำมันจากถังน้ำมันเบนซินซึ่งในราคาลิตรละ 44.60 บาทจะลดลง 18.70 บาท ราคาใหม่ที่รัฐบาลคือพลังประชารัฐจะเหลือลิตรละ 25.99 บาท ส่วนน้ำมันดีเซลปัจจุบันราคาลิตรละ 34.44 บาทจะลดราคาลง 6.37 บาททำให้ได้ราคาใหม่คือลิตรละ 28.70 บาท โดยจะใช้การลดภายใต้หลักคิดจะต้องให้ความยุติธรรมกับประชาชน ไม่หาวิธีเพิ่มภาระให้แก่ประชาชน ดังนั้นเราจึงไม่เห็นด้วยกับการไปเก็บภาษีสรรพสามิต
- ลดค่าก๊าซจากปัจจุบันก็มีราคา 423 บาทต่อถัง จะลดราคา 173 บาท โดยมีราคาใหม่คือ 250 บาทต่อถัง
7 นโยบายเพิ่มเงิน
- บัตรประชารัฐ 700 บาท พร้อมวงเงินประกันชีวิต 2 แสนบาท
- โครงการแม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ
- เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- ให้ทุนการเพาะปลูกเกษตรกร 7.5 ล้านครัวเรือนที่ลงทะเบียน ครัวเรือนละ 30,000 บาท
- สร้างอาชีพผู้ถือบัตรประชารัฐ 1 ล้านคน โดยให้ทุนรายละ 30,000 บาท
- ลดต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนาไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 30,000 บาท
- สนับสนุนปุ๋ยคนละครึ่ง โดยให้รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือประชาชนครึ่งหนึ่ง
“การเสนอนโยบาย 20 นโยบายนั้นคือ 3 นโยบายลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน 7 นโยบายเพิ่มเงินในบัญชีให้กับประชาชน หาก พล.อ. ประวิตรเป็นนายกฯ ประเทศจะมีความร่มเย็น ก้าวข้ามความขัดแย้ง เศรษฐกิจเจริญเติบโต และที่สำคัญที่สุด พล.อ. ประวิตรอยากจะให้ประชาชนอยู่ดีกินดี” ไพบูลย์กล่าว