เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO เปิดเผยวานนี้ (27 เมษายน) ว่า ชาติพันธมิตร NATO รวมถึงประเทศอื่นๆ ได้ส่งมอบยานรบ 1,550 คัน และรถถังอีก 230 คันให้กับยูเครนแล้ว เพื่อช่วยให้ยูเครนสามารถจัดตั้งกองรบและยึดดินแดนต่างๆ คืนจากกองกำลังรัสเซียได้ โดยการส่งมอบยานรบดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 98% ของจำนวนยานรบที่ชาติต่างๆ ได้ให้สัญญาว่าจะส่งมอบให้กับยูเครนในช่วงก่อนหน้านี้
สโตลเทนเบิร์กกล่าวว่า “ในภาพรวมนั้น เราได้ฝึกฝนและจัดตั้งกองพลยานเกราะใหม่ของยูเครนมากกว่า 9 กองพล สิ่งนี้จะช่วยให้ยูเครนมีสถานะที่แข็งแกร่งเพื่อเดินหน้ายึดดินแดนคืนจากรัสเซีย”
สำนักข่าว Al Jazeera ระบุว่า สำหรับกองกำลังที่มีการจัดตั้งใหม่นั้นคาดว่าจะใช้ทหารรวมกว่า 30,000 นาย นอกจากนี้ ชาติพันธมิตรยังได้ส่งอาวุธยุทธภัณฑ์จำนวนมากให้กับยูเครนด้วย ส่วนชาติพันธมิตร NATO บางชาติ เช่น สวีเดนและออสเตรเลีย ก็ได้จัดส่งยานเกราะให้กับยูเครนด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ชาติสมาชิก NATO ยังได้จัดหาระบบต่อต้านอากาศยานและปืนใหญ่ ส่วนโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็กได้มอบเครื่องบิน MiG-29 ที่สร้างโดยสหภาพโซเวียต
สโตลเทนเบิร์กกล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นคือ ‘การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน’ แต่ถึงเช่นนั้นก็ไม่ควรประเมินรัสเซียต่ำเกินไป เนื่องจากรัสเซียกำลังระดมกองกำลังภาคพื้นดินมากขึ้นในขณะนี้
สำหรับการประชุมสุดยอดของ NATO ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ลิทัวเนียนั้น สโตลเทนเบิร์กกล่าวว่าจะมีการจัดตั้งแผนโครงการสนับสนุนยูเครนซึ่งมีระยะเวลาหลายปีด้วยกัน โดยสโตลเทนเบิร์กเชื่อว่าแผนการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้ยูเครนมีสถานะที่แข็งแกร่งเพื่อต่อกรกับรัสเซียในสงครามอันยืดเยื้อนี้
ภาพ: Dursun Aydemir / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: