×

อัปเดต 29 คอร์สเมนูฤดูกาลใหม่ จากร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งทั่วกรุงเทพฯ

27.04.2023
  • LOADING...
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

เข้าสู่ฤดูกาลใหม่แล้ว ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งท่ัวกรุงเทพฯ จึงเริ่มเปลี่ยนคอร์สเมนูต้อนรับซีซันด้วยการเสิร์ฟวัตถุดิบใหม่ รสชาติใหม่ ซึ่งเราว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นดี เพราะอยากเห็นว่าเชฟแต่ละคนมีวัตถุดิบเด็ดๆ หรือท่าไม้ตายอะไรรอให้พวกเราไปชิม!

 

เพราะฉะนั้นถ้าใครพร้อมจองที่นั่งสำหรับมื้อพิเศษ หรือยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ร้านไหน เรามีลิสต์ ‘29 ร้านไฟน์ไดนิ่งทั่วกรุงเทพฯ’ ที่เริ่มเสิร์ฟคอร์สเมนูใหม่มาให้เลือกกันแล้ว ตามนี้เลย

 

อ่อ แล้วใครไปชิมคอร์สเมนูไหนมาแล้ว อย่าลืมมาบอกกันบ้างนะ

 

1. Maison Dunand

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

บ้านหลังใหม่ของ เชฟอาโน ดูนัง ที่ใส่จิตวิญญาณจากบ้านเกิดในประเทศฝรั่งเศสลงในบรรยากาศร้านและจานอาหาร ส่วนคอร์สเมนูใหม่รอบนี้เชฟเก็บจานซิกเนเจอร์ไว้ และมาพร้อมจานอื่นๆ ที่ได้กลิ่นอายแถบเทือกเขาชัดเจนขึ้นกว่าเดิม

 

ไฮไลต์ของรอบนี้ เช่น ‘Garden Pea, Pike Perch Roe’ ถั่วลันเตากับไข่ปลาไพก์ หรือ ‘Caviar, Potato’ เมนูซิกเนเจอร์ที่เชฟจะมาทำเสิร์ฟให้ถึงข้างโต๊ะ

 

Maison Dunand

Open: เปิดวันพฤหัสบดี-จันทร์ เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป (วันเสาร์-อาทิตย์ เพิ่มรอบกลางวัน เวลา 12.00-14.00 น.)

Address: ซอยสาทร 10

Budget: 10 คอร์ส ราคา 2,600++ บาท และ 15 คอร์ส ราคา 4,900++ บาท

 

2. Baan Tepa

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารไทยครีเอทีฟซึ่งติดอันดับร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับเอเชีย อันดับที่ 48 นำโดย เชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ ผู้นำทีมเฟ้นหาวัตถุดิบทั่วประเทศไทย ก่อนนำมายกระดับได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

คอร์สเมนูฤดูร้อนของ Baan Tepa จะเริ่มเดือนพฤษภาคมนี้

 

Baan Tepa Culinary Space

Open: เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 18.00-22.30 น.

Address: ถนนรามคำแหง

Budget: 6 คอร์ส ราคา 3,900++ บาท และ 9 คอร์ส ราคา 4,500++ บาท

 

3. POTONG

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ซีซันนี้ POTONG ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งไทย-จีนในตึกเก่าย่านเยาวราช นำโดย เชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ เริ่มเสิร์ฟคอร์สเมนูใหม่ในชื่อ ‘The New Experience’ เป็นอาหารกลิ่นอายไทยผสมจีนเช่นเดิม และใช้วัตถุดิบในประเทศไทยทั้งหมด เช่น ลูกตาล หอยนางรม ปลาจะละเม็ด และคาเวียร์

 

ไฮไลต์ของรอบนี้ยังคงอยู่ที่เมนคอร์ส เชฟเปลี่ยนมาเสิร์ฟเป็ดเน้นๆ ให้กินตั้งแต่สมอง หัวใจ และอกเป็ดดรายเอจอันเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน

 

Restaurant.Potong (แท็ก: https://www.facebook.com/potong.restaurant)

Open: เปิดวันพุธ-จันทร์ เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป

Address: ถนนวานิช 1

Budget: 20+ คอร์ส ราคา 5,500++ บาท (ได้รับไวน์ 1 แก้ว)

 

4. IGNIV

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ห้องอาหารสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ IGNIV เริ่มเสิร์ฟคอร์สเมนูใหม่ที่เต็มไปด้วยสีสันต้อนรับฤดูใบไม้ผลิแล้ว โดยเน้นใช้วัตถุดิบในประเทศไทย ผสมกับวัตถุดิบนำเข้าตามฤดูกาล นำโดย เชฟเดวิด ฮาร์ดวิก ผู้รับหน้าที่ดูแลเมนูของคาว และ เชฟอาเน่ รีน ผู้รังสรรค์ของหวานทั้งหมดในร้าน

 

ไฮไลต์ในคอร์สเมนู Spring เช่น ‘Chicken’ ผักโขมพันอกไก่ ห่อด้วยหนังไก่ครัมเบิล เสิร์ฟกับแครอตและซอสไก่ เมนูนี้เชฟเดวิดได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาในวัยเด็กที่เขาใช้กับคุณยาย

 

IGNIV Bangkok

Open: เปิดวันพฤหัสบดี-จันทร์ เวลา 17.30-00.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ เพิ่มมื้อกลางวัน เวลา 12.00-15.00 น.)

Address: โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ

Budget: 4 คอร์ส ราคา 5,500++ บาท หรือ 5 คอร์ส พร้อมเมนูพิเศษ ราคา 8,900++ บาท

 

5. Le Normandie by Alain Roux

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ห้องอาหารฝรั่งเศสสุดคลาสสิกดีกรี 2 ดาวมิชลิน นำทีมโดย เชฟอลัง รูซ์ จาก Waterside Inn ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นห้องอาหารฝรั่งเศสครองดาว 3 ดวงติดกันมานานมากกว่า 30 ปี เชฟทำให้ที่นี่พิเศษขึ้นด้วยการยกเมนูจากห้องอาหารของตัวเองในเมืองเบิร์กเชียร์มาเสิร์ฟให้ทุกคนชิมถึงกรุงเทพฯ โดยมีให้เลือกทั้งอะลาคาร์ตและคอร์สเมนู

 

ตอนนี้เป็นรสชาติจากฤดูใบไม้ผลิ มีจานน่าสนใจ เช่น ‘ปลาเทอร์บอตทอดราดซอสเมอเนียร์’ เนื่องจากฤดูกาลนี้เป็นช่วงที่ปลาเทอร์บอตมีคุณภาพดีที่สุด เชฟนำมาเสิร์ฟพร้อมซอสเนยผสมเลมอนและพาร์สลีย์ กินคู่กับแมคาเดเมีย ถั่วฝรั่งเศส และซอสองุ่นเข้มข้น โดยเมนูนี้จะอยู่ในเซ็ตอาหาร 7 คอร์สเท่านั้น

 

Le Normandie by Alain Roux 

Open: วันอังคาร-อาทิตย์ มื้อกลางวัน เวลา 12.00-15.30 น. และมื้อเย็น เวลา 18.00-23.30 น.

Address: โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซอยเจริญกรุง 40

Budget:

  • มื้อกลางวัน 3 คอร์ส ราคา 2,950++ บาท
  • มื้อกลางวัน 4 คอร์ส ราคา 3,750++ บาท (เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์)
  • มื้อกลางวันหรือมื้อค่ำ 7 คอร์ส ราคา 7,500++ บาท

 

6. Elements, Inspired by Ciel Bleu

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ห้องอาหารฝรั่งเศสที่หยิบวัตถุดิบญี่ปุ่นมาผสมผสานจนเกิดเป็นรสชาติอันน่าประทับใจ นี่คือเสน่ห์ของ Elements ห้องอาหารหนึ่งดาวมิชลินในโรงแรมดิ โอกุระ ที่มี Ciel Bleu ห้องอาหาร 2 ดาวมิชลินในกรุงอัมสเตอร์ดัมเป็นแรงบันดาลใจ

 

ที่นี่นำโดย เชฟเจอราร์ด ฮอร์คาโญ ผู้เคยทำงานกับเชฟใหญ่แห่ง Ciel Bleu ไฮไลต์ในคอร์สเมนูใหม่ Spring Guestronomic Journey เช่น ‘Aged Sashimi Duo’ ปลาฮามาจิกับโทโร่และมะเขือเทศ เพิ่มอูนิสุดครีมมี่จากฮอกไกโดได้ด้วย

 

และสิ่งที่พลาดไม่ได้อีกอย่างคือ คอมบูชาแพริ่งที่ห้องอาหารทำเอง

 

Elements, Inspired by Ciel Bleu 

Open: เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 18.00-22.30 น.

Address: โรงแรมดิ โอกุระ

Budget: 4 คอร์ส ราคา 4,100++ บาท, 6 คอร์ส ราคา 4,800++ บาท และ 8 คอร์ส ราคา 5,900++ บาท

 

7. KAVEE

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารไทยที่นำเสนอวัตถุดิบและรสชาติได้อย่างน่าค้นหา นำโดย เชฟเต้-วรธน อุดมชโลทร ผู้มีประสบการณ์ในครัวอาหารไม่น้อยไปกว่าใคร แถมเขายังสนุกกับการตามหาวัตถุดิบใหม่ๆ มานำเสนอให้ไม่เหมือนใครด้วย

 

คอร์สเมนูใหม่มีชื่อว่า ‘Shade’ เชฟจะพาทุกคนเที่ยวชิมอาหารไทยแต่ละภาคด้วยอาหารหนึ่งคำ เมนูน่าสนใจ เช่น ‘Smoked Fish’ รสชาติของภาคกลางที่ได้ไอเดียมาจากข้าวแช่ ‘Tiger Prawns’ รสชาติจากทะเลตะวันออกที่เปรี้ยวสดชื่น หรือ ‘Thai Wagyu’ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูก้อยของภาคอีสาน

 

KAVEE 

Open: เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-22.30 น.

Address: สุขุมวิท 38

Budget: 8 คอร์ส ราคา 3,490++ บาท

 

8. Le Du

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่ดีที่สุดในประเทศและในทวีปเอเชียตอนนี้ เนื่องจากครองตำแหน่งสูงสุดที่อันดับ 1 บนลิสต์​ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับเอเชีย นำโดย เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เจ้าของร้านอาหารดังอีกหลายแห่ง อาทิ นุสรา ที่ครองอันดับ 3 บนลิสต์เดียวกัน

 

สำหรับคอร์สเมนูใหม่ เชฟเสิร์ฟวัตถุดิบตามซีซันผ่านเมนูซึ่งมีไฮไลต์ เช่น Golden Snapper ปลากะพงทองกับไข่มดแดงและข้าวเหนียว หรือ Khao Chae เมนูข้าวแช่ซิกเนเจอร์อันโด่งดังของฤดูที่ห้ามพลาดเด็ดขาด

 

Le Du 

Open: เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 19.00-22.00 น.

Address: ซอยสีลม 7

Budget: 6 คอร์ส ราคา 3,990++ บาท

 

9. Wana Yook

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งของ เชฟชาลี กาเดอร์ เจ้าของ 100 มหาเศรษฐ์ ที่นำเมนู ‘ข้าวแกงไทย’ มายกระดับใหม่ได้อย่างน่าสนใจ พร้อมเสิร์ฟให้ชิมในบรรยากาศบ้านทรงไทยโบราณย่านอนุสาวรีย์ฯ

 

สำหรับคอร์สเมนูใหม่รอบนี้มีจานน่าสนใจ อาทิ ‘แกงส้มมะละกอ’ เชฟนำมะละกอไปตุ๋นกับน้ำแกงส้มรสจัด ก่อนนำเนื้อเค็มไปเคี่ยวพร้อมน้ำกะทิจนนุ่ม กินแล้วได้ทั้งความหวานและอูมามิ

 

Wana Yook 

Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-23.00 น.

Address: ถนนพญาไท

Budget: 10 คอร์ส ราคา 3,400++ บาท

 

10. Gaa

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารอินเดียไฟน์ไดนิ่งในบ้านไม้ทรงไทยอายุ 60 ปี ใจกลางสุขุมวิท นำโดย เชฟการิมา อะโรรา เชฟหญิงชาวอินเดียผู้ยกระดับทุกรสชาติจากบ้านเกิดให้กลายเป็นอาหารสุดหรูได้อย่างทันสมัยและน่าจดจำ

 

สำหรับคอร์สเมนูตอนนี้มีไฮไลต์เช่น ‘Durian’ เชฟปรุงรสทุเรียนด้วยพริกและผงมะม่วงดิบ ให้กินคู่กับขนมปังทันดูรีและผักดอง หรือ ‘Beef Kebab’ เคบับสไตล์ดั้งเดิม ใช้เนื้อวากิวญี่ปุ่นปรุงด้วยเครื่องเทศไทย กินคู่ซอสเต้าหู้รมควัน ผัก ดอกไม้ และซอสเวย์คาราเมล

 

Gaa 

Open: เปิดทุกวัน เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป (วันเสาร์-อาทิตย์ เพิ่มรอบกลางวัน เวลา 12.00 น.)

Address: ซอยสุขุมวิท 53

Budget: 13 คอร์ส ราคา 4,700++ บาท

 

11. Sra Bua by Kiin Kiin

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ห้องอาหารไทย สระบัว บาย กิน กิน ซึ่งมีเชฟผู้อยู่เบื้องหลังคือ เฮนริค อูล-แอนเดอร์เซน เจ้าของร้านอาหารไทยติดดาว Kiin Kiin ในเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เอกลักษณ์ของที่นี่คือการนำเสนออาหารไทยรูปแบบใหม่ ซึ่งตีความจากประสบการณ์ของเชฟเฮนริค และนำทีมครัวโดยเฮดเชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์

 

ส่วนคอร์สเมนูใหม่ ‘Summer Journey’ เชฟเฮนริคได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทางในประเทศไทยและสเปน มีไฮไลต์น่าสนใจ เช่น ต้มข่าปูและไอศกรีมหน่อไม้ฝรั่งขาว เสิร์ฟคู่ซุปต้มข่าเย็นใส่เนื้อปูอลาสก้าและไอศกรีมรสหน่อไม้ฝรั่งขาว

 

Sra Bua by Kiin Kiin

Open: เปิดวันพุธ-อาทิตย์ มื้อกลางวัน เวลา 12.00-15.00 น. และมื้อเย็น เวลา 18.00-00.00 น.

Address: Siam Kempinski Hotel Bangkok (แท็ก: https://www.facebook.com/SiamKempinskiHotelBangkok

Budget:

  • มื้อกลางวัน 8 คอร์ส ราคา 2,600++ บาท และ 10 คอร์ส ราคา 3,200++ บาท
  • มื้อเย็น 16 คอร์ส ราคา 4,300++ บาท

 

12. Choen

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารร่วมสมัยที่ใช้ฟืนไฟอันลุกโชนในการประกอบอาหารเท่านั้น นำโดย เชฟมิว-จีราวิชช์ มีแสงนิลวีรกุล ผู้เคยทำงานในครัว Nahm และหนึ่งในอดีตทีมงานเบื้องหลังร้านชามแกง

 

คอร์สเมนูใหม่ของ โฌณ (Choen) มาในคอนเซปต์ ‘Choen x Chinatown’ นำอาหารในย่านเยาวราชมาตีความใหม่ แต่ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายดั้งเดิม เชฟจึงเน้นเสิร์ฟรสชาติที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นหลัก นำเสนอผ่านเมนูทั้ง 9 คอร์ส ที่มีจานน่าสนใจ เช่น ข้าวโพดเทียนเป้ง โชคุปังหน้าหมู

 

โฌณ Choen Restaurant

Open: เปิดวันอังคาร-เสาร์ เวลา 19.00-22.30 น.

Address: ซอยพันธ์จิตต์ แถววงเวียน 22

Budget: 9 คอร์ส ราคา 2,800++ บาท

 

13. Catalan Cuisine at Embassy Room

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ห้องอาหารกาตาลันที่ได้เชฟชาวสเปนมาเป็นผู้คุมทีม ที่นี่เสิร์ฟอาหารกาตาลันตามชื่อ และมีความแตกต่างจากตอนเปิดครั้งแรกๆ เพราะตอนนี้พวกเขาได้ยกระดับทั้งประสบการณ์และวัตถุดิบขึ้นไปอีกขั้น

 

เชฟเฟอร์ราน ผู้รับตำแหน่งเฮดเชฟ นำเสนอคอร์สเมนูใหม่ที่น่าสนุกและเต็มไปด้วยสีสันกว่าเดิม มีจานไฮไลต์ อาทิ ‘Krystal Caviar, Eel, Egg Yolk’ ไข่แดงกงฟีกับครีมปลาไหลและคาเวียร์

 

Catalan Cuisine at Embassy Room 

Open: เปิดทุกวัน เวลา 12.00-14.30 น. และ 18.00-22.30 น.

Address: โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ

Budget:

  • มื้อกลางวัน 3 คอร์ส ราคา 1,400++ บาท และ 4 คอร์ส ราคา 1,800++ บาท
  • มื้อเย็น 14 คอร์ส ราคา 3,800++ บาท และ 17 คอร์ส ราคา 4,700++ บาท

 

14. Blue by Alain Ducasse

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย 1 ดาวมิชลินที่มาพร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ผู้อยู่เบื้องหลังคือ เฟชอลัง ดูคาส เชฟอาหารฝรั่งเศสนักล่าดาวมิชลินในตำนาน โดยเขาส่งเชฟมือดีอย่าง เชฟวิลฟริด ฮ็อกเกต ที่เขาปลุกปั้นเองกับมือ มารับหน้าที่เฮดเชฟประจำครัวแห่งนี้

 

คอร์สเมนูใหม่ที่เริ่มเสิร์ฟแล้ว เชฟวิลฟริดได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านเกิด แต่ละเมนูจึงมีกลิ่นอาย ‘อาหารฝรั่งเศสตอนใต้’ โดยมีไฮไลต์ อาทิ ‘เนื้อลูกแกะจากเทือกเขาพีเรนีส’ เชฟนำมายัดไส้มะกอก เสิร์ฟคู่เครปถั่วลูกไก่ที่นำมายัดไส้มะเขือยาว มะเขือเทศ และมินต์

 

Blue by Alain Ducasse 

Open: เปิดวันพฤหัสบดี-จันทร์ เวลา 12.00-22.00 น.

Address: ไอคอนสยาม

Budget:

  • มื้อกลางวัน 5 คอร์ส ราคา 2,950++ บาท (เสิร์ฟทุกวัน)
  • ซิกเนเจอร์เมนู 4 คอร์ส ราคา 4,900++ บาท และ 5 คอร์ส ราคา 5,900++ บาท
  • เทสติ้งเมนู 9 คอร์ส ราคา 7,500++ บาท

 

15. Villa Frantzén

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารสัญชาติสวีเดนที่เปิดอยู่ในบ้านบรรยากาศอบอุ่น และมาพร้อมครัวแบบเปิด ผู้อยู่เบื้องหลังคือ เชฟบยอร์น ฟรันต์เซน (Björn Frantzén) เจ้าของร้านอาหารหลายแห่งทั่วโลก เช่น Frantzén ร้านอาหาร 3 ดาวมิชลินในสวีเดน หรือ Zén ในประเทศสิงคโปร์

 

อาหารที่นี่จะเสิร์ฟในรูปแบบแชริ่งให้กินด้วยกัน และทุกคนสามารถเลือกเมนูในแต่ละคอร์สเองได้ โดยตัวเลือกเมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลหรือวัตถุดิบ ตอนนี้มีจานใหม่ๆ น่าลอง เช่น Beef Tartar & Black Garlic Cucumber หรือ Deer & Crispy Brown Rice

 

Villa Frantzén

Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.30-23.30 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ เพิ่มรอบกลางวัน เวลา 12.00-13.30 น.)

Address: ซอยเย็นอากาศ 3

Budget: 6 คอร์ส ราคา 4,200++ บาท

 

16. Løyrom

 

 

ร้านอาหารนอร์ดิกอินสไปร์แห่งใหม่ที่เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่น นำโดย เชฟเบส นฤเบศร์ และ เชฟแนท นริศรา โดยรสชาติที่นี่เราว่าเข้าใจไม่ยากจนเกินไป แถมยังถูกปาก แม้แต่คนชิมอาหารนอร์ดิกครั้งแรกก็ต้องรู้สึกสนุกแน่นอน

 

คอร์สเมนูใหม่ของ Løyrom ‘A Journey of Sensations’ เชฟจะพาเราไปสัมผัสกลิ่นและรสชาติของฤดูร้อน ที่มาจากความหอมการย่างเตา ความเข้มข้นล้ำลึกแต่สดชื่นจากซิตรัสและเครื่องเทศ และเน้นวัตถุดิบประจำฤดูกาลในท้องถิ่นเช่นเดิม

 

Løyrom

Open: เปิดทุกวัน (ปิดวันอังคาร) เวลา 18.00-23.00 น.

Address: ซอยสุขุมวิท 26

Budget: 10 คอร์ส ราคา 2,990++ บาท

 

17. TAAN

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ห้องอาหารไทยอีกแห่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะที่นี่เปลี่ยนอาหารไทยธรรมดาๆ ให้น่าสนใจ ดึงเมนูที่ทุกคนคุ้นเคยมานำเสนอใหม่ให้กินสนุก นำโดย เชฟเทพ-มนต์เทพ กมลศิลป์ ผู้รักในการตามหาวัตถุดิบ และตั้งใจใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรท้องถิ่นหรือผู้ผลิตรายเล็กที่มีของดี

 

คอร์สเมนูปัจจุบันคือ ‘ธานกุ๊กช็อป’ นำอาหารกุ๊กช็อปที่หลายคนคุ้นเคยในวัยเด็กมาทำใหม่สไตล์เชฟเทพ เมนูไฮไลต์ เช่น กะเพรากุ๊กช็อป, ซีเต๊ก & ซีตูว์ และ สาเกและสาเก

 

TAAN Bangkok

Open: เปิดทุกวัน เวลา 18.00-23.00 น.

Address: โรงแรมสยาม แอท สยาม

Budget: 10 คอร์ส ราคา 3,190++ บาท

 

18. Mia

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งยุโรปผสมกลิ่นอายเอเชียที่นำโดยสองเชฟคู่รัก เชฟท็อป พงษ์ชาญ และ เชฟมิเชล โก ตอนนี้ร้านเสิร์ฟคอร์สเมนูใหม่ชื่อว่า Taste of Mia รวมดาวจานซิกเนเจอร์มาให้ลิ้มลองต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ

 

เมนูไฮไลต์ อาทิ ‘North Sea Crab’ เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่เราเพิ่งเคยลองครั้งแรก เชฟท็อปบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากซุปเย็นที่ชาวสเปนกินตอนฤดูร้อน แต่เชฟทำเวอร์ชันตัวเองด้วยการทำซุปให้ข้นขึ้น และเปลี่ยนมาใช้สาคูแทนขนมปัง

 

Mia restaurant

Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-23.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ เพิ่มรอบกลางวัน เวลา 12.00-14.00 น.)

Address: ซอยอรรถกระวี 1 (ด้านหลังเค วิลเลจ)

Budget: 5 คอร์ส ราคา 3,850++ บาท และ 8 คอร์ส ราคา 4,850++ บาท

 

19. Saawaan

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่นำเสนอวัตถุดิบในประเทศผ่านคอร์สเมนู ชูเทคนิคการทำอาหารแบบไทยๆ นำโดย เชฟเอิร์ท-ศริตวรรธน์ วันวิชิตกูร ผู้รับหน้าที่รังสรรค์อาหารคาว และ เชฟเปเปอร์ จงพานิชกุล เพสทรีเชฟฝีมือดีผู้รังสรรค์ทุกเมนูของหวาน

 

คอร์สเมนูใหม่ที่เริ่มเสิร์ฟครั้งนี้ เชฟต้องการชูวัตถุดิบพื้นบ้าน อาทิ ปลาหมึกจากระนอง คอหมูจากราชบุรี ข้าวอุดอยจากเชียงใหม่ นำมาผสมผสานกับวัตถุดิบนำเข้าตามฤดูกาล มีไฮไลต์ เช่น พล่าทะเล ปลาหมึกนึ่งมะนาว หรือต้มกะทิเนื้อเค็ม

 

Saawaan 

Open: เปิดทุกวัน เวลา 17.30-23.30 น.

Address: ซอยสวนพลู

Budget: 8 คอร์ส ราคา 2,790++ บาท

 

20. Keller

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารยุโรปร่วมสมัยในบรรยากาศสดใสโรแมนติกแต่ไม่ทิ้งความหรูหรา เชฟผู้อยู่เบื้องหลังทั้งการออกแบบร้านและเมนูอาหารคือ เชฟเมอร์โค เคลเลอร์ เชฟชาวเยอรมันผู้อยู่เมืองไทยมานานกว่าสิบปี และต้องการนำรสชาติโปรดในวัยเด็กมาทวิสต์ใหม่เพื่อเสิร์ฟให้ทุกคนชิม โดยมีทั้งรูปแบบอะลาคาร์ตและเซ็ตเมนูให้เลือก

 

สำหรับคอร์สเมนูใหม่ที่เชฟรังสรรค์ขึ้น มีเมนูไฮไลต์ เช่น ‘Pork Broth & Dumpling’ เกี๊ยวหมูที่ใช้เทคนิคการทำอาหารยุโรปผสมเข้ากับรสชาติสไตล์เอเชีย

 

Keller Bangkok

Open: เปิดวันอังคาร-เสาร์ เวลา 17.30-21.00 น.

Address: ซอยสวนพลู 2

Budget: Classic 8 คอร์ส ราคา 3,900++ บาท และ Journey 9 คอร์ส ราคา 4,500++ บาท

 

21. VILAS

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งของ เชฟปริญญ์ ผลสุข ที่ชวนเชฟชาวสเปนผู้รักอาหารไทยอย่าง เปเป้ (Pepe Dasi Jimenez) มารับหน้าที่นำครัว เอกลักษณ์ของที่นี่คือการนำอาหารไทยโบราณ วัตถุดิบไทยที่คนมองข้าม มาเปลี่ยนให้ทันสมัยใหม่ อินเตอร์ และน่าสนุก

 

คอร์สเมนูปัจจุบัน ‘วิลาสในเวลาอีสาน’ เป็นการนำอาหารอีสานมาเล่าใหม่ในฉบับ VILAS ไฮไลต์ เช่น ไก่ยอ-กรอบ ซอสพริกเหลือง, ไส้กรอกอีสาน และข้าวเกรียบว่าวก้อยปลา ซึ่งท้ังหมดเสิร์ฟในรูปแบบทาปาสหรืออาหารจานเล็กๆ สไตล์สเปน

 

VILAS วิลาศ

Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.30-22.00 น.

Address: Mahanakhon CUBE ชั้น 2

Budget: 12 คอร์ส ราคา 4,500++ บาท

 

22. Canvas

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่นำเสนอทุกวัตถุดิบได้ราวกับหลุดมาจากงานศิลปะ นำโดย เชฟไรลีย์ แซนเดอร์ส ผู้หลงใหลในการวาดรูปและทำอาหาร เขาจึงนำทั้งสองอย่างมาผสมกันจนเกิดเป็นเมนูที่พวกเราจะได้ชิม อีกทั้งเขายังเน้นใช้วัตถุดิบในประเทศไทยเป็นหลักด้วย

 

คอร์สเมนูใหม่ที่เริ่มเสิร์ฟแล้วมีชื่อว่า ‘The Color of Flavor’ เสิร์ฟอาหาร 20 คอร์ส เพื่อเล่าถึงสีสันและรสชาติในโลกของอาหาร เมนูไฮไลต์ อาทิ Caviar & Umami เชฟใช้คาเวียร์จากหัวหิน มะกรูด แก่นตะวัน หอมแดง ใบชะมวง นม ข้าวไรซ์เบอร์รี และยีสต์ ทั้งหมดกินพร้อมกันในหนึ่งคำ

 

Canvas 

Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-21.30 น.

Address: ซอยทองหล่อ 55

Budget: 20 คอร์ส ราคา 6,900++ บาท

 

23. Haoma

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารนีโอ-อินเดียนที่คว้าทั้งดาวมิชลิน 1 ดวง และดาวมิชลินเขียวรักษ์โลก นำโดย Deepanker Khosla หรือ เชฟดีเค ชาวอินเดียผู้ตั้งใจนำเสนอวัฒนธรรมอาหารอินเดียให้คนทั่วไปได้รู้จัก โดยมีสวนผักและสมุนไพรปลูกเองหลังร้านเป็นอีกวัตถุดิบที่ภูมิใจนำเสนอ

 

คอร์สเมนูปัจจุบันมีทั้ง ‘Meat & Seafood’ เน้นเนื้อสัตว์และอาหารทะเล หรือ ‘Vegetarian’ สำหรับคนกินมังสวิรัติ จานไฮไลต์ เช่น Samudra แกงปลาหมึกกับหอยเม่น แต่หากเป็นเมนูไร้เนื้อสัตว์ เชฟจะใช้คอตเทจชีสกับอะโวคาโด

 

Haoma

Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.30-22.00 น.

Address: ซอยสุขุมวิท 31

Budget: 18 คอร์ส ราคา 3,990++ บาท

 

24. Stage

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่นำโดย เชฟเจย์-สายนิสา แสงสิงแก้ว ผู้เคยฝึกงานในครัวร้านอาหารดังและทำงานร่วมกับเชฟมือดีมากมาย ก่อนออกมาเปิดร้านอาหารของตัวเองแห่งนี้

 

ปัจจุบันร้านเดินทางมาถึงคอร์สเมนูเวอร์ชัน ‘Stage 10.0’ นำเสนอเมนูใหม่กว่า 10 จาน มีไฮไลต์คือ Caviar Box Version 2 ที่รอบนี้ใช้ทั้งคาเวียร์และบาฟุนอูนิจากญี่ปุ่น ตักกินเป็นคำๆ เอาเข้าปากได้รสเค็มๆ มันๆ

 

Restaurant Stage

Open: เปิดทุกวัน เวลา 18.00-00.00 น.

Address: เอกมัย คอมเพล็กซ์

Budget: 6 คอร์ส ราคา 2,900++ บาท และ 10 คอร์ส ราคา 4,900++ บาท

 

25. Aksorn

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งโดยเชฟชาวออสเตรเลียผู้หลงรักอาหารไทย เชฟเดวิด ทอมป์สัน ซึ่งเขาเป็นผู้ก่อตั้งร้านอาหาร Nahm ณ กรุงลอนดอน ร้านอาหารไทยร้านแรกที่ได้รับรางวัลดาวมิชลินด้วย

 

สำหรับร้านนี้ เชฟเดวิดเน้นปลุกรสชาติในตำราเก่า นำมาปรุงใหม่โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่น และเสิร์ฟเมนคอร์สแบบสำรับกับข้าวอย่างที่คนไทยอาจหลงลืม ส่วนเมนูใหม่มีจานไฮไลต์ เช่น ใบบัวบกหอยนางรม ผักเต้าหู้ยี้นกพิราบย่าง หรือหมูตุ๋นมะระจีน

 

Aksorn 

Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-23.00 น.

Address: Central: The Original Store (แท็ก: https://www.facebook.com/central.theoriginalstore)

Budget: 6 คอร์ส (สำรับอาหาร 12 อย่าง) ราคา 3,400++ บาท

 

26. 80/20

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารไทยที่โฟกัสวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลเป็นหลัก นำโดย เชฟแอนดรูว์ มาร์ติน เฮดเชฟชาวญี่ปุ่น-แคนาดา ผู้นำการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยมาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์เมนูอาหาร อีกทั้งเขายังไม่ทิ้งรสชาติจัดจ้านสไตล์ไทยๆ และนำเสนอเมนคอร์สในรูปแบบสำรับที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยด้วย

 

คอร์สเมนูปัจจุบันเป็นเทสติ้งเมนู 14 คอร์ส มีจานไฮไลต์ เช่น หมูหอมแมงดา ต้มยำญี่ปุ่น เป็ดยิ้มยิ้ม ปลาทอดคุณยาย

 

80/20bkk 

Open: เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 18.00-23.00 น.

Address: ถนนเจริญกรุง

Budget: 14 คอร์ส ราคา 3,900++ บาท

 

27. J’aime by Jean-Michel Lorain

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ร้านอาหารฝรั่งเศสคลาสสิกที่มี ฌอง-มิเชล โลรองต์ (Jean-Michel Lorain) อีกหนึ่งเชฟ 3 ดาวมิชลินระดับตำนานเป็นอยู่เบื้องหลัง โดยเขาส่งศิษย์เอก เชฟอเมริโก เซสติ (Amerigo Sesti) มาเป็นเฮดเชฟในร้านอาหารแห่งแรกในไทยของเขา เพื่อนำเสนอรสชาติสไตล์ฝรั่งเศสที่เข้ากับสมัย และเน้นใช้วัตถุดิบไทยๆ

 

ที่นี่เสิร์ฟทั้งอะลาคาร์ตและคอร์สเมนู มีจานใหม่ๆ ไฮไลต์ เช่น ขากบครีมผักกาดหอม หรือซอร์เบต์มะเขือเทศเชียงใหม่กับน้ำปลาผู้ใหญ่แดงและคาเวียร์หัวหิน

 

J’AIME by Jean-Michel Lorain 

Open: เปิดทุกวัน เวลา 12.00-14.30 น. และ 18.00 น. เป็นต้นไป (ปิดมื้อเที่ยงวันอังคาร-พฤหัสบดี)

Address: โรงแรมยู สาทร

Budget: 5 คอร์ส ราคา 1,700++ บาท, 7 คอร์ส ราคา 2,900++ บาท และ 10 คอร์ส ราคา 3,500++ บาท

 

28. Signature

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ห้องอาหารฝรั่งเศสโมเดิร์นดีกรี 1 ดาวมิชลิน ที่เสิร์ฟทุกจานด้วยหน้าตาสวยงามทันสมัย มีกลิ่นอายฝรั่งเศส และประดับดอกไม้กินได้ในทุกๆ จาน นำโดย เชฟเธียรี่ ดราบราอู

 

สำหรับเมนูใหม่ที่เริ่มเสิร์ฟแล้วเป็นคอร์ส Spring หรือฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยสีสัน มีจานไฮไลต์ เช่น ‘Fish’ ที่ใช้ปลา Catch of the day แต่ละวันจึงอาจได้ปลาไม่เหมือนกัน เสิร์ฟกับซอสสไตล์โมร็อกโกที่ใช้เครื่องเทศ 14 ชนิด หรือเมนคอร์ส ‘Pigeon’ ใช้พิราบจากฝรั่งเศสเสิร์ฟคู่กับเชอร์รี พิสตาชิโอ และทาร์ตตับพิราบ

 

Signature

Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-22.00 น.

Address: VIE Hotel ชั้น 11

Budget: 5 คอร์ส ราคา 4,100++ บาท และ 8 คอร์ส ราคา 4,800++ บาท

 

29. Mezzaluna 

 

ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง

 

ห้องอาหารฝรั่งเศสดีกรี 2 ดาวมิชลิน บนชั้น 65 ของโรงแรมเลอบัว ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสุดยอดห้องอาหารที่นักชิมทุกคนอยากลองสัมผัส นำโดยเชฟชาวญี่ปุ่น ริวกิ คาวาซากิ อาหารฝรั่งเศสที่ Mezzaluna จึงมีกลิ่นอายจากแดนอาทิตย์อุทัยผสมอยู่ด้วย

 

คอร์สเมนูต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่ Mezzaluna เริ่มเสิร์ฟแล้ว มีจานไฮไลต์ เช่น ‘Sazae In Herb Butter’ หอยทากทะเลกับเห็ดแชมปิญอง

 

Mezzaluna Restaurant

Open: เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 18.00-00.00 น.

Address: ชั้น 65 โรงแรมเลอบัว

Budget: 7 คอร์ส ราคา 8,000++ บาท

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X