วันนี้ (9 เมษายน) พ.อ. รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินทางมาแสดงตนในการตรวจเลือกทหารได้ โดยให้ผู้ปกครองนำเอกสารประวัติการป่วยและใบรับรองแพทย์มาแจ้งต่อคณะกรรมการในวันตรวจเลือกว่า เมื่อประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีผู้ปกครองของทหารกองเกินมาแจ้งกับสัสดี อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ว่าบุตรชายของตนชื่อ ธนกฤต วุฒิโรธง เกิด พ.ศ. 2545 ภูมิลำเนาทหาร 47/3 หมู่ที่ 7 ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน ป่วยติดเตียง ไม่สามารถที่จะมาเข้ารับการตรวจเลือกในวันที่ 8 เมษายน 2566 ที่หอประชุมอำเภอเมืองลำพูนได้ มีแนวทางในการดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งสัสดี อำเภอเมืองลำพูน ได้อธิบายให้ผู้ปกครองทราบถึงข้อกฎหมายที่ต้องปฏิบัติว่า ทางคณะกรรมการจะออกเอกสารใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด.43) เป็นคนจำพวกที่ 3 (คนซึ่งมีร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการทหารในขณะนั้นได้เพราะป่วย ซึ่งจะบำบัดให้หายไม่ได้ภายในกำหนด 30 วัน)
พ.อ. รุ่งคุณกล่าวว่า กรณีนี้ให้เรียกมาตรวจเลือกในคราวถัดไป เมื่อคณะกรรมการตรวจเลือกได้ตรวจเลือกแล้วยังคงเป็นคนจำพวกที่ 3 อยู่รวม 3 ครั้งให้งดเรียก (การนับครั้งจะนับครั้งให้เฉพาะที่ได้ตัวมาตรวจเลือก ถ้าตัวไม่มาตรวจเลือกไม่นับครั้งให้) ซึ่งทางญาติบอกว่ายุ่งยาก ไม่สามารถทำได้ สัสดี อำเภอเมืองลำพูน จึงได้แนะนำว่า ถ้าจะให้ผลการตรวจเลือกจบภายในปีนี้ ให้นำบุตรชายมาแสดงตนเข้ารับการตรวจเลือก โดยขอรับการสนับสนุนรถรับ-ส่งผู้ป่วย (EMS) ของเทศบาลเวียงยองนำผู้ป่วยเข้าตรวจเลือก และให้มาจอดรออยู่บริเวณหน้าสถานที่ตรวจเลือก สัสดี อำเภอเมืองลำพูน จะอำนวยความสะดวก
โดยนำเรียนคณะกรรมการตรวจเลือกมาทำการตรวจเป็นกรณีเร่งด่วน เมื่อคณะกรรมการดำเนินการกำหนดเป็นคนจำพวกแล้ว จะได้รีบนำตัวผู้ป่วยกลับบ้าน ผลการตรวจเลือกจะจบสิ้นในวันตรวจเลือก ซึ่งทางผู้ปกครองเข้าใจและรับปากยืนยันว่าจะนำตัวผู้ป่วยมาเข้ารับการตรวจเลือกในวันที่ 8 เมษายน 2566 ที่หอประชุมอำเภอเมืองลำพูน และเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 09.30 น. ผู้ปกครองได้พาผู้ป่วยมาเข้ารับการตรวจเลือก
“คณะกรรมการตรวจเลือกได้อำนวยความสะดวกตามที่ได้ประสานไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ผลการตรวจเลือก กรรมการแพทย์ตรวจร่างกายพบว่าผู้ป่วยมีอาการกระโหลกศีรษะยุบ คณะกรรมการตรวจเลือกลงความเห็นว่าเป็นคนจำพวกที่ 2 (คนซึ่งมีร่างกายที่เห็นได้ชัดว่าไม่สมบูรณ์ดีเหมือนคนจำพวกที่ 1 แต่ไม่ถึงกับทุพพลภาพ) มอบเอกสารใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด.43) ให้ผู้ปกครองรับไป รวมใช้เวลาในการดำเนินการทั้งสิ้นประมาณ 10 นาที ซึ่งนับว่าธนกฤตได้ผ่านการตรวจเลือกตามข้อกฎหมายอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องมาเข้ารับการตรวจเลือกอีกต่อไป” พ.อ. รุ่งคุณกล่าว
การดำเนินการดังกล่าวถึงแม้ว่าจะเป็นการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย แต่ก็สร้างความลำบากให้กับผู้ปกครองรวมทั้งตัวธนกฤต เนื่องจากสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย ทางกองทัพภาคที่ 3 จึงขอโทษท่านทั้งสองมา ณ โอกาสนี้ รวมทั้งได้ตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ให้ทุกท่านทราบว่า หากท่านมีเหตุจำเป็นซึ่งไม่สะดวกที่จะมาแสดงตนเข้ารับการตรวจเลือกเหมือนกรณีดังกล่าว ขอให้แจ้งคณะกรรมการตรวจเลือก พร้อมภาพถ่ายปัจจุบันของผู้เข้ารับการตรวจเลือก ทางกองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้คณะกรรมการอำนวยความสะดวกให้กับท่าน โดยจะเดินทางไปตรวจร่างกายให้ถึงบ้านหรือโรงพยาบาลที่อยู่ในเขตอำเภอในวันที่มีการตรวจเลือก และมอบเอกสารใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด.43) ให้ท่านต่อไป