วันนี้ (8 เมษายน) สืบเนื่องจากกรณีที่คณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีการประชุมร่วมกันก่อนมีมติออกหมายเรียกตัวในฐานะผู้ต้องหา รวมทั้งสิ้น 4 ราย ประกอบด้วย
- แทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด
- บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด
ส่วนอีก 2 รายที่เหลือเป็นผู้ร่วมให้กู้ยืมเงินแก่ พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท จำนวนหลักร้อยล้านบาท
ซึ่งแทนไทจะต้องเข้ารับทราบ 2 ข้อกล่าวหา เนื่องจากพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงนั้น ได้แก่ ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันเอาทรัพย์สินทางอิเล็กทรอนิกส์ (พนันออนไลน์) โดยไม่ได้รับอนุญาต กำหนดในวันที่ 10 เมษายน เวลา 10.00 น. แต่เจ้าตัวพร้อมทนายความเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตั้งแต่วานนี้ (7 เมษายน)
พิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ แทนไท ณรงค์กูล พร้อมทนายความ ได้เข้าพบ พงษธร อินอำนวย ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีพิเศษที่ 6/2566 เมื่อพนักงานสอบสวนพบผู้ต้องหาอยู่ต่อหน้าแล้ว จึงได้แจ้งข้อเท็จจริงและข้อกล่าวหาให้ทราบโดยไม่มีการควบคุมตัว เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม แทนไทได้ปฏิเสธทั้ง 2 ข้อกล่าวหา สำหรับรายละเอียดทางคดีเพิ่มเติมนั้น พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะจัดแถลงให้สื่อมวลชนทราบและสอบถามในวันที่ 10 เมษายนนี้ เวลา 13.30 น.
มีรายงานว่าสำหรับแทนไท มีฐานะเป็นพยานจากกรณีที่พนักงานสอบสวนพบเส้นทางการเงินจำนวน 200 ล้านบาท ถูกฝากเข้าบัญชีธนาคารของพันธ์ธวัช แบ่งเป็นสองรอบ รอบแรก 150 ล้านบาท และรอบที่สอง 50 ล้านบาท โดยเป็นจำนวนเงินที่ไม่พบในเส้นทางการเงินปกติระหว่างแทนไทและพันธ์ธวัช คล้ายลักษณะการทำนิติกรรมอำพราง จึงเป็นเหตุให้แทนไทเข้าให้การชี้แจงเกี่ยวกับเงินจำนวนดังกล่าวในฐานะพยานเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา