×

ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ สื่อนอกเผยวิกฤต SVB กำลังสั่นสะเทือนวงการสตาร์ทอัพจีนเช่นกัน

14.03.2023
  • LOADING...
วงการสตาร์ทอัพจีน

ไม่เพียงแต่กลุ่มบริษัทเทคและสตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ถูกสั่นสะเทือนจากการปิดกิจการของ Silicon Valley Bank หรือ SVB แต่กลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศจีนที่อยู่ในอีกซีกโลกหนึ่งก็กำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าวเช่นเดียวกัน

 

ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีรายหนึ่งในประเทศจีนออกมาเปิดเผยกับ CNBC ว่า ในช่วงที่ผ่านมา SVB ถือเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่สตาร์ทอัพจีนนิยมใช้บริการ เนื่องจาก SVB เป็นธนาคารที่อนุญาตให้ธุรกิจสตาร์ทอัพเปิดบัญชีออนไลน์ผ่านการใช้หมายเลขมือถือของประเทศจีนได้ 

 

ขณะเดียวกันกระบวนการเปิดบัญชีของ SVB ยังใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งเร็วกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม เช่น Standard Chartered, HSBC และ Citi ที่อาจต้องใช้เวลาถึง 3-6 เดือนด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวด

 

แหล่งข่าวกล่าวว่า Venture Capital (VC) หรือธุรกิจเงินร่วมลงทุนหลายแห่งชอบที่จะทำงานร่วมกับ SVB เนื่องจาก SVB เป็นธนาคารที่อนุญาตให้ VC สามารถเห็นและรับรองการใช้เงินทุนของสตาร์ทอัพได้

 

“การไม่มี SVB แล้วถือเป็นผลเสียต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี เพราะปัจจุบันยังไม่มีธนาคารอื่นที่มีบริการข้างต้นเหมือนกับ SVB” แหล่งข่าวระบุ 

 

การมีบัญชีของ SVB ช่วยให้สตาร์ทอัพที่มีฐานอยู่ในเมืองจีนเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากนักลงทุนในสหรัฐฯ ได้ง่ายขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สหรัฐฯ เพิ่มความเข้มงวดเรื่องการเข้าทำ IPO ของบริษัทจีน

 

ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่ามีบริษัทสตาร์ทอัพจีนที่เป็นลูกค้าของ SVB มากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าสตาร์ทอัพจีนหลายแห่งที่ได้รับเงินลงทุนจาก VC ในสหรัฐฯ จะมีบัญชีอยู่กับ SVB 

 

หนึ่งในนั้นคือ Zai Lab บริษัทด้านไบโอเทคในเซี่ยงไฮ้ โดยข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นปีที่ผ่านมาระบุว่า Zai Lab มีเงินฝากอยู่ใน SVB ราว 2.3% ของเงินสดทั้งหมดจำนวน 1.01 พันล้านดอลลาร์ของบริษัท

 

บริษัทสตาร์ทอัพจีนอีกหนึ่งแห่งที่เป็นลูกค้าของ SVB คือ Everest Medicines ซึ่งปัจจุบันมีเงินสดราว 1% ของทั้งบริษัทถูกฝากอยู่ในบัญชีของ SVB 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X