เชื้อรา Ophiocordyceps เปลี่ยนคนให้กลายซอมบี้ใน The Last of Us ไม่มีจริง! แต่เป็น ‘ถั่งเช่า’ ซึ่งเคยเฟื่องฟูและเป็นที่ต้องการของเศรษฐีจีน จนมีราคาพุ่งสูงถึง 59,000 ดอลลาร์ หรือราว 2 ล้านบาทต่อกิโลกรัม ก่อนจะถูกดับฝันสั่งห้ามจำหน่ายเป็นอาหารเสริม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนเคยดู The Last of Us ซีรีส์จากค่าย HBO ที่สร้างจากวิดีโอเกมชื่อดัง โดยเนื้อหาภายในเรื่องแสดงให้เห็นว่าเมื่อมนุษย์ได้รับเชื้อ Ophiocordyceps Sinensis เข้าสู่ร่างกาย เห็ดราก็จะเติบโตขึ้นแล้วเข้าควบคุมความคิดจิตใจจนกลายเป็นซอมบี้
แต่ในโลกแห่งความจริง เชื้อราชนิดนี้คือ ‘ถั่งเช่า’ ที่ถือเป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถแพร่เชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ และปัจจุบันแพทย์แผนจีนต้องการเป็นอย่างมาก ถึงขั้นต้องเปิดพื้นที่เพาะเลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ยของจีน ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรน้อยกว่าครึ่งล้านคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- นักเศรษฐศาสตร์เรียกร้องให้ ‘จีน’ มองไกลกว่า GDP เพื่อจัดการ ‘ความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ’
- สมรภูมิอีคอมเมิร์ซจีนแข่งเดือด! JD.com ทุ่ม 1.5 พันล้านดอลลาร์ งัดกลยุทธ์ราคาถูก พร้อมเปิดตัวแคมเปญใหม่จับลูกค้า หวังแซงหน้าคู่แข่ง Pinduoduo รายใหญ่ในจีน
- สมาคมโรคไตฯ แถลงการณ์ ไม่หนุนผู้ป่วยกินถั่งเช่า ชี้ไม่มีข้อพิสูจน์วิทยาศาสตร์การแพทย์ยืนยันผลลัพธ์การรักษา
Qian Zhengming รองผู้อำนวยการหน่วยวิจัยถั่งเช่า HEC Health บริษัทในเครือ HEC Group ผู้ผลิตยาในเซินเจิ้น ระบุว่า บริษัทได้เริ่มทำฟาร์มถั่งเช่ามาตั้งแต่ปี 2007 โดยได้ลงทุนนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยควบคุมสภาพอากาศ ทำให้สามารถปลูกถั่งเช่าได้ตลอดทั้งปี
บริษัทดังกล่าวมีปริมาณการเก็บเกี่ยวถั่งเช่าส่งตลาดได้ประมาณ 50 ตัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 30% ของถั่งเช่าที่เก็บได้จากธรรมชาติในแต่ละปี โดยปัจจุบันจำหน่ายถั่งเช่าสด 10 กรัม ในราคา 1,934 หยวน (ราว 284 ดอลลาร์)
“เราสร้างสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่คล้ายกับที่ราบสูงทิเบตในด้านอุณหภูมิ ความชื้น และแสงอัลตราไวโอเลต” Zhengming กล่าว “คอมพิวเตอร์ของเราควบคุมสภาพอากาศในห้องต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าถั่งเช่าสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี”
ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการของเศรษฐีจีนหน้าใหม่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก และต่างเริ่มมองหาเครื่องดื่มชูกำลังที่มีความแปลกใหม่
South China Morning Post รายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วทำให้เกิดมหาเศรษฐีจำนวนมากในแดนมังกร ซึ่งก่อให้เกิดการบริโภคของหรูจำนวนมาก รวมไปถึง ‘ถั่งเช่า’ ด้วย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถั่งเช่ากลายเป็นวัตถุดิบที่ตลาดต้องการอย่างมาก จนทำให้ถั่งเช่าป่ามีราคาสูงถึง 400,000 หยวนต่อกิโลกรัม (ราว 59,000 ดอลลาร์) และทำให้หลายๆ บริษัทที่ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์จำหน่ายอาหารเสริม เริ่มตั้งแต่ Jiang Zhong Pharmaceutical, Tong Ren Tang และ Qizheng Tibetan Medicine สามารถระดมทุนได้หลายพันล้านหยวนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO)
แต่แล้วความเฟื่องฟูของถั่งเช่าก็ได้ลดลงในปี 2016 เมื่อหน่วยงานกำกับดูแลของแดนมังกรได้สั่งห้ามให้บริษัท 5 แห่ง รวมถึง Qinghai Spring ไม่ให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีถั่งเช่าเป็นส่วนประกอบ โดยอ้างว่ากังวลด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
สอดคล้องกับ Li Shaoping ศาสตราจารย์แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์จีนแห่งมหาวิทยาลัยมาเก๊า ที่กล่าวว่า การบริโภคถั่งเช่าเป็นอาหารกับยาค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งหากบริโภคในปริมาณมากจะเพิ่มโอกาสที่ร่างกายจะได้รับสารมากเกินไป
ขณะเดียวกัน ด้วยความที่มีราคาแพงจนเทียบได้กับ ‘ทองคำ’ ทำให้ผู้คนแห่ไปเก็บถั่งเช่าจากป่าจนสถาบันชีววิทยาที่ราบสูงทางตะวันตกเฉียงเหนือระบุว่า ทำให้ความหลากหลายที่เคยมีถึง 30 ชนิด เหลือเพียง 5 ชนิดเท่านั้น และเกรงว่าอาจจะไม่มีให้เห็นอีกแล้วในอนาคต
ภาพ: Kevin Frayer / Getty Images
อ้างอิง: