เพราะทุกคนใช้ชีวิตเต็มที่มาทั้งสัปดาห์ วันนี้เราเลยอยากชวนออกไปนั่งกินอาหารดีๆ เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกันสักมื้อ แล้วจะมีมื้อไหนเหมาะไปกว่ามื้อสายท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ที่มาพร้อมอาหารกินง่ายอิ่มสบายท้อง รับรองหากใครได้ลองสักครั้งจะต้องรู้สึกมีความสุขต่อไปได้ทั้งวันแน่ๆ
ถ้าใครพร้อมออกไปนั่งกินบรันช์เป็นมื้อเช้ากับเราแล้ว มาลองดูกันดีกว่าว่าในปีนี้จะมีร้านไหนน่าตื่นเช้าไปนั่งกินอาหารดีต่อใจบ้าง!
1. Cilantro
Cilantro Ratchathewi
ร้านมื้อสายในโครงการ GalileOasis ย่านราชเทวี ที่มาพร้อมบรรยากาศลอฟต์สุดร่มรื่นมีชีวิตชีวา เพราะด้านในเป็นคอมมูนิตี้รวมร้านและคาเฟ่เจ๋งๆ ไว้มากมาย ถ้าแวะมากินมื้อเช้าแล้วจะเข้าไปนั่งร้านอื่นต่อเลยก็ยังได้
เมนูของที่นี่จะเน้นความเรียบง่าย แต่รสชาติดี แถมมีความแปลกใหม่และหลากหลาย ทั้ง พาสต้า สลัด แซนด์วิช ซุป ไปจนถึงหอยนางรมสดๆ เมนูที่ต้องลอง เช่น Carrot pancake with sunny side up and crispy bacon (210 บาท) แพนเค้กแครอตกับไข่ดาวและเบคอนกรอบๆ
เปิดทุกวัน (ปิดวันอังคาร) เวลา 10.00-20.00 น. เฉพาะวันจันทร์และพฤหัสบดี เปิดเวลา 08.30-18.00 น. อยู่ในโครงการ Galileo Oasis ซอยโรงเรียนกิ่งเพชร
2. Dalmatian
Dalmatian Siam
ร้านบรันช์สุดฮิตจากกรุงโซลที่มีเจ้าหมาลายจุดเป็นสัญลักษณ์ ตอนนี้ร้านบินมาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยแล้วอยู่ที่สยาม มาพร้อมเมนูเดียวกับสาขาต้นฉบับ และเมนูใหม่พิเศษที่เสิร์ฟเฉพาะที่นี่เท่านั้น
อาหารเป็นสไตล์เกาหลีผสมตะวันตก แต่ละเมนูเสิร์ฟจานใหญ่เหมาะแบ่งกินด้วยกัน ซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาดคือ Dalmatian Breakfast (490 บาท) จานมื้อเช้าที่รวมขนมปัง ไข่ ไส้กรอก เบคอน อะโวคาโด และเห็ดผัดมาให้ อย่าลืมสั่ง Dalmatian Choco (150 บาท) มาลองด้วยนะ เป็นอีกเมนูถ่ายรูปน่ารักเลยละ
เปิดทุกวัน เวลา 11.00-00.00 น. (หลังช่วง Soft Opening เปิดเวลา 08.00-01.00 น.) อยู่สยามสแควร์ บล็อก I
3. Karo Coffee Roasters
Karo Coffee Roasters Phra Khanong
ร้านกาแฟและโรงคั่วในย่านปรีดี พนมยงค์ ที่นี่มาพร้อมเครื่องดื่มกาแฟสเปเชียลตี้ที่ไว้วางใจได้แน่นอน เพราะร้านส่งเมล็ดกาแฟให้หลายคาเฟ่ที่ทุกคนเคยไป แนะนำให้ลองสั่งกาแฟสักแก้วมาจิบคู่อาหารเช้าสไตล์ตะวันตก โดยแต่ละเมนูของที่นี่จัดเต็มทั้งปริมาณและความหอมมัน ครีมมี่กินอร่อย
เมนูแนะนำ เช่น Karo Breakfast Set (420 บาท) เสิร์ฟกาแฟดำมาพร้อมขนมปังกรอบๆ ไส้กรอกหมูทำเองชิ้นโต เบคอนชิ้นหนา ไข่คนนุ่มๆ และซอสมายองเนส รับรองกินหมดแล้วมีแรงต่อไปทั้งวัน
เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
4. Sarnies
Sarnies Sukhumvit
อีกร้านอาหารมื้อสายจากสิงคโปร์ที่หลายคนรัก เพราะจะแวะไปเมื่อไรก็มีทั้งกาแฟ อาหาร และขนมให้เลือกละลานตา โดยสาขาล่าสุดที่ต้องแวะไปอยู่ในซอยสุขุมวิท 37 มาพร้อมบรรยากาศมินิมัลสไตล์ญี่ปุ่นที่เหมาะนั่งกินมื้อสายมากๆ
เมนูที่อยากให้ลองคือ Miso Kombu Eggs Benedict (400 บาท) ไข่เบเนดิกต์เสิร์ฟคู่กับแซลมอนรมควันจากบ้านอาบุริและต้นหอมญี่ปุ่นผัด วางมาบนซาวโดวจ์มัฟฟินอังกฤษ ราดด้วยซอสสาหร่ายคอมบุมิโซะฮอลแลนเดส ปรุงรสปิดท้ายด้วยชิจิมิหรือพริกปรุงรสสไตล์ญี่ปุ่น ก่อนใส่วาซาบิเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติเผ็ดซ่า แต่ไม่ได้ฉุนจนขึ้นจมูกมากจนเกินไป คนที่ไม่คุ้นกับวาซาบิก็กินได้แบบสบายๆ
เปิดทุกวัน เวลา 07.00-22.30 น. อยู่ในซอยสุขุมวิท 37 และสาขาอื่นๆ ได้แก่ ซอยเจริญกรุง 42, ซอยเจริญกรุง 44 และซอยต้นสน
5. Fran’s
Fran’s Sathon
แม้จะเปิดมาได้สักพักใหญ่ๆ แต่ Fran’s ก็ยังคงเป็นร้านมื้อสายที่แน่นขนัด และต้องจองคิวล่วงหน้าถ้าคุณไม่อยากตื่นเช้า 8 โมงไปนั่งกินมื้อแรกตั้งแต่ร้านเปิด (ซึ่งมีโต๊ะว่างแน่นอน) ส่วนบรรยากาศมาในสไตล์กลาสเฮาส์ ห้อมล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวร่มรื่น พร้อมเสิร์ฟอาหารเช้าสไตล์อเมริกันอย่างสเต๊ก พาสต้า หรือเบคอนชิ้นหนาๆ ให้กินแบบจุกๆ
เมนูที่ต้องสั่งทุกโต๊ะคือ Velvet Egg & Bacon (290 บาท) แซนด์วิชหน้าเปิดที่ใช้ขนมปังซาวโดวจ์ ท็อปด้วยไข่คน และเบคอนเคลือบซอสเมเปิ้ลชิ้นหนายั่วยวนใจ
เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น. อยู่ในซอยงามดูพลี (สาทรซอย 1)
6. Okonomi
Okonomi Sukhumvit & Embassy
ร้านอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่น-อเมริกันที่มีบ้านเกิดอยู่ในนิวยอร์ก สาขาแรกในประเทศไทยอยู่ในซอยสุขุมวิท 38 มาพร้อมบรรยากาศสบายๆ สไตล์คาเฟ่ อาหารเช้าซิกเนเจอร์คือ Ichiju Sansai Breakfast เป็นสำรับอาหารญี่ปุ่นที่มีทั้งจานหลัก ข้าว และเครื่องเคียง นอกจากนี้ยังมีราเมน ซันโด ดงบุริ และโอนิกิริด้วย
บางเซ็ตเมนูจะเสิร์ฟถึง 11.00 น. เท่านั้น แต่มีเซ็ตที่เสิร์ฟตลอดวันให้สั่งเช่นกัน อาทิ Shoyu Koji Salmon (400 บาท) แซลมอนย่างโชยุโคจิ เสิร์ฟพร้อมผักเคลย่างราดซอสงาขาว โคร็อกเกะฟักทองผักโขม สลัดถั่วหวาน และข้าวญี่ปุ่นผสมธัญพืช
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. และสาขาใหม่ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เปิดทุกวัน เวลา 09.00-21.00 น.
7. Yellow Lane
Yellow Lane Ari
ร้านมื้อสายบรรยากาศดีในย่านอารีย์ เพราะมีทั้งที่นั่งในร่ม และกลางแจ้งที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ เหมาะกับมานั่งพักผ่อนสบายๆ ในวันหยุด ร้านมาพร้อมเมนูมื้อสายแบบเรียบง่าย มีทั้งแซนด์วิช สลัด สมูทตี้ รวมถึงเมนูวีแกนด้วย
เมนูที่แนะนำอย่างเช่น Strawberry Dream Bowl (280 บาท) สมูทตี้โบวล์ผลไม้เข้ากับอากาศบ้านเรา ท็อปมาด้วยผลไม้สด กราโนล่า และธัญพืช
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. อยู่ในซอยพหลโยธิน 5
8. Pridi
Pridi Ekkamai
คาเฟ่ในโรงคั่วที่มาพร้อมอาหารสไตล์นอร์ดิก ร้านนี้เป็นฝีมือของเชฟต้อยติ่ง-กานต์ตา สิทธิธรรม เปิดอยู่ในบ้านสีขาวพร้อมสวนหลังบ้าน ชวนรู้สึกโฮมมี่เมื่อมานั่งจิบกาแฟกินมื้อเช้ารสชาติดี
นอกจากกาแฟสเปเชียลตี้ที่ควรสั่งมาดื่ม ก็ต้องไม่พลาดเมนูอาหารที่แนะนำ เช่น Chicken Liver Pate (165 บาท) ตับไก่บดปาดกับขนมปังซาวโดวจ์ที่ขึ้นชื่อของร้าน หรือ Confit Chicken (285 บาท) ไก่กงฟีกินคู่กับแอปเปิ้ลคาราเมลไลซ์ ก็เข้ากันมากๆ
เปิดทุกวัน (ปิดวันพฤหัสบดี) เวลา 08.30-17.30 น.
9. Paper Plane Project
Paper Plane Project Thong Lor
คาเฟ่บนชั้น 40 ที่มาในบรรยากาศโคเวิร์กกิ้งสเปซ เปิดให้ทุกคนมานั่งจิบกาแฟ กินมื้อเช้า และยกงานมาทำพร้อมกันได้เลย อาหารจะเน้นเมนูกินง่ายแต่จัดเต็ม เพราะรู้ดีว่าทุกคนต้องการพลังงานในการทำงาน
เพราะฉะนั้นเมนูแนะนำก็คือ Paper Plane Brekkie (240 บาท) เป็นชุดอาหารจัดเต็มที่ประกอบด้วยไส้กรอกสมุนไพรย่าง เบคอน ไข่คน มะเขือเทศ และขนมปังซาวโดวจ์ ต้องสั่งมากินคู่กาแฟร้อนๆ รับรองสมองแล่นแน่นอน
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น.
10. Canteen.th
Canteen.th Sukhumvit 38
เพราะครอบครัวบนพื้นที่ของ H Dining ขยายใหญ่ขึ้น พวกเขาจึงเปลี่ยนชื่อคอมมูนิตี้ใหม่เป็น H Space ส่วนร้านอาหารมื้อเช้าถึงสายร้านเดิมที่หลายคนคุ้นเคย ก็เปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า Canteen มาพร้อมเมนูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดเช่นเดิม
ที่นี่มีทั้งสมูทตี้โบวล์ แซนด์วิช โทสต์ สเต๊ก เบอร์เกอร์ พาสต้า หรือเมนูฟิวชันต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่ทั้งหน้าตาและรสชาติ โดยเมนูแนะนำคือ Bibimbap (390 บาท) บิบิมบับเนื้อวัวหมัก กินคู่กับข้าวกล้อง ผัก และไข่ดองซีอิ๊วหวาน
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น.
11. Crackhouse
Crackhouse The Commons Thonglor & Saladaeng
ร้านอาหารเช้าสไตล์อเมริกันแบบ All Day Dining ที่เสิร์ฟเมนูไข่ๆ ให้เรากินแบบอิ่มท้อง เมนูจะเป็นประเภทแซนด์วิช เบอร์เกอร์ เบอร์ริโต้ หรือแพนเค้กนุ่มๆ กับไซรัปก็มี โดยร้านจะเปิดอยู่ในคอมมูนิตี้ The Commons ให้เราแวะมานั่งกินมื้อเช้าได้สบายๆ พร้อมมีอาหารอย่างอื่นให้เลือกอีก
มาร้านนี้ต้องลองเมนู Breakfast Burritos with Smoked Bacon (270 บาท) เบอร์ริโต้ชิ้นโตๆ อัดแน่นด้วยไข่ เบคอน และผัก รับรองกินชิ้นเดียวก็อิ่มไปจนมื้อหน้า
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-22.30 น. ร้านมี 2 สาขา คือ The Commons Thong Lor และ The Commons Saladaeng
12. Larder
Larder Phrom Phong
ร้านมื้อสายสไตล์โปแลนด์ที่น่าสนใจตรงมีเมนูอาหารโปแลนด์จานเล็กๆ ให้สั่งมากินเล่นด้วยกันได้ แต่หากเมนูห้ามพลาดต้องเป็น Kanapki แซนด์วิชหน้าเปิดสไตล์โปแลนด์ที่ไม่เหมือนใคร เมนูแนะนำเช่น Soppressata Calabrese (270 บาท) แซนด์วิชขนมปังซาวโดวจ์ประกบซาลามีรสเผ็ดนิดๆ ก่อนราดซอสเพสโต้ให้แบบจุกๆ เต็มแผ่น
แต่ถ้าใครอยากได้เบากว่านี้ก็ต้อง Tuna 3000 (250 บาท) ซาวโดวจ์ท็อปด้วยซอสทาร์ทาร์ ไข่ต้ม และทูน่าชิ้นสวย มาพร้อมชิปกรอบๆ ให้กินด้วยกัน
ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องโคลด์คัตและขนมปังซาวโดวจ์เนยแอนโชวีด้วย เพราะทุกอย่างร้านทำเองทุกขั้นตอน โดยขนมปังแผ่นละ 20 บาท และเนย 30 บาท
เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น. อยู่ในซอยสุขุมวิท 39
13. Pimp My Salad
Pimp My Salad Sathon 8
ร้านมื้อสายในเครือ Sarnies ที่มีความสนุกคือ ทุกคนสามารถเลือกสร้างโบวล์ของตัวเองได้ ใครจะเน้นโปรตีนหรือผักแน่นแค่ไหนก็ได้ตามสบาย แต่ถ้าไม่มั่นใจ ร้านก็มีเมนูที่จัดไว้แล้วให้สั่งเช่นกัน โดยมีครบทั้ง หมู ไก่ เนื้อ แซลมอน ทูน่า และโปรตีนวีแกน
เมนูแนะนำคือ Cool Gai (280 บาท) ไก่หมักกะทิมะกรูด กินพร้อมลาบถั่วลูกไก่ เห็ดผัด แจ่วมาโย และข้าวกล้อง บอกก่อนเลยว่าแต่ละเมนูเสิร์ฟมาค่อนข้างใหญ่ รับรองกินแล้วอิ่มจนมื้อถัดไปแน่นอน แต่ถ้าใครยังกินไหวก็อย่าลืมลองของหวานด้วย เพราะ Acai bowl (300 บาท) กับ บราวนี (150 บาท) ของที่นี่ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-22.00 น. อยู่ในซอยสาทร 8
14. Toby’s
Toby’s Ploen Chit
ร้านอาหารมื้อสายเจ้าโปรดตลอดกาลของใครหลายๆ คน เมนูของร้านนี้จะเป็นสไตล์ออสเตรเลีย แต่ไม่แปลกเกินไปสำหรับทุกคนแน่นอน เพราะยังเน้นความเรียบง่ายแต่มีรสชาติ แถมมีเมนูหลากหลายทั้ง ขนมปัง สลัด พาสต้า และกาแฟที่ดีไม่แพ้กัน
เมนูแนะนำของร้านคือ Breakfast Board (350 บาท) ประกอบด้วยไข่ 2 ฟอง แฮมรมควัน แซลมอน อะโวคาโด เบอร์รี ขนมปังซาวโดวจ์ และซัลซา หรืออีกเมนู Smashed Avocado (295 บาท) เป็นซัลซาอะโวคาโดบนขนมปังซาวโดวจ์ มาพร้อมไข่ มะเขือเทศ ผักโขม และโชริโซ
เปิดทุกวัน 09.00-17.00 น. โดยร้านมี 3 สาขา คือ ศาลาแดง สุขุมวิท 38 และเพลินจิต
15. Roast
Roast centralwOrld
ที่นี่เป็นอีกร้านประจำของคนชอบกินบรันช์ เพราะเสิร์ฟอาหารคอมฟอร์ตฟู้ดสไตล์ All Day Dining ที่เน้นการปรุงรสชาติและวัตถุดิบให้เข้าใจง่าย ไม่ปรุงแต่งเยอะ แถมมีครบทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม โดยทุกเมนูรังสรรค์ผ่านฝีมือของ Executive เชฟ Johnny Liu ผู้ดูแลอาหารของ Roast ทุกสาขา
เมนูแนะนำแน่นอนว่าเป็น Chicken & Waffles (320 บาท) ไก่ทอดบัตเตอร์มิลก์วางบนวาฟเฟิลนุ่มๆ กินพร้อมเนยผสมเครื่องเทศ หรือ Roast Breakfast (350 บาท) เสิร์ฟไข่ มะเขือเทศ เห็ด ซาวโดวจ์มันฝรั่งมาให้ พร้อมกับตัวเลือกแซลมอนรมควันหรือแพตตี้หมู
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. โดยร้านมี 3 สาขา คือ The Commons Thong Lor (ปิด 20.30 น.), EmQuartier และ centralwOrld
16. Roots
Roots 111 Praditmanutham
ร้านกาแฟสเปเชียลตี้ที่ตั้งใจใช้เมล็ดกาแฟจากในท้องถิ่น ซึ่งนอกจากเมนูเครื่องดื่ม Roots ก็ยังมีเบเกอรีและอาหารเช้าสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ดด้วย เผื่อว่าใครอยากกินมื้อเช้าให้อิ่มท้องคู่กับกาแฟดีๆ สักแก้ว
สาขาใหม่ล่าสุดเปิดอยู่ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม มาพร้อมบรรยากาศอบอุ่นเงียบสงบ น่านั่งรับแสงแดดยามเช้า ส่วนเมนูต้องลองคือ Crezel (100 บาท) เพรทเซลจากแป้งครัวซองต์ และ Bacon Breakfast Burger (260 บาท) เบอร์เกอร์ชิ้นกำลังดี มาพร้อมไข่ดาวเยิ้มๆ กับเบคอนชิ้นหนา
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 น. (เวลาปิดให้บริการแตกต่างไปตามสาขา) โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 10 สาขา คือ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, สุขุมวิท 23, เซ็นทรัลเวิลด์, ประตูผี, เดอะคอมมอนส์ ทองหล่อ, เดอะคอมมอนส์ ศาลาแดง, อาคารภิรัชทาวเวอร์ฯ, ลาซาล, เอ็มควอเทียร์ และ ไบเทค บางนา
17. Kay’s
Kay’s Sathon
ร้านอาหารเช้าบรรยากาศสวยที่ตอนนี้ขยายสาขาใหม่อีกหนึ่งแห่ง อยู่ในย่านสาทร สาขานี้มาพร้อมความมินิมัล ร่มรื่นสไตล์กลาสเฮาส์ และเมนูพิเศษที่ไม่มีในสาขาอื่นๆ แถมยังพาสัตว์เลี้ยงมาได้ด้วยนะ ถ้าใครเคยไปนั่งกินอาหารเช้าสไตล์ Kay’s ที่สาขารางน้ำ, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และสุขุมวิท 49 แล้ว ต้องลองมาที่นี่ดู
ส่วนเมนูที่มีเฉพาะสาขานี้ก็คือ Kay’s Market Plate (390 บาท) เสิร์ฟมันหวานญี่ปุ่นคู่กับไข่ เบคอนหนาๆ และผัก Honey Berries French Toast (270 บาท) เฟรนช์โทสต์ซิกเนเจอร์ เสิร์ฟเบอร์รีคู่บราวน์ชูการ์ ครีมชีส และน้ำผึ้ง Oatmeal Pancake (210 บาท) แพนเค้กข้าวโอ๊ตสูตรพิเศษ กินคู่เนยซินนามอน
เปิดทุกวัน เวลา 06.30-17.30 น. อยู่ใกล้ BTS สุรศักดิ์ ถนนสาทร
18. Landhaus Bakery
Landhaus Bakery Ari
ร้านเบเกอรีสไตล์ออสเตรเลียใจกลางย่านอารีย์ที่รอให้ทุกคนแวะมานั่งกินมื้อสายด้วยกันในบรรยากาศอบอุ่นร่มรื่น โดยขนมปังที่เป็นพระเอกของร้านจะอบสดใหม่ทุกวัน มีให้เลือกละลานตา พร้อมกับเมนูอาหารเช้าที่แน่นอนว่ามีขนมปังควบคู่ทุกเมนู
เมนูน่าสนใจอย่างเช่น Cold Cut with Roast Beef (550 บาท) มื้อเช้าแบ่งกินด้วยกัน เป็นโคลด์คัตกับเนื้อเสิร์ฟคู่ขนมปังและสเปรด หรือเมนูกินคนเดียวง่ายๆ Scrambled Eggs with Bacon (185 บาท) ไข่คนเบคอนกับขนมปัง 2 แผ่น
เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 07.00-19.00 น. อยู่ในซอยพหลโยธิน 5
19. Laun
Laun Samsen 4
ร้านอาหารแห่งใหม่ในตึกวินเทจย่านสามเสน ที่นี่เป็นผลงานของสองพี่น้องเจ้าของร้านบ้านนวล ที่อยากเปิดร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ไม่ต้องจองก็แวะมากินได้ ซึ่งนั่นก็คือ Laun (ลอน)
อาหารที่เสิร์ฟเป็นรสชาติชวนนึกถึงวัยเด็ก เช่น สปาเกตตีซอสมันกุ้ง (350 บาท), ข้าวหมูตุ๋นและไข่ดาว (280 บาท), ข้าวไก่อบ (280 บาท) หรือ ข้าวหมูก้อนทอดไข่ดาว (200 บาท)
เปิดทุกวัน (ปิดวันอังคาร) เวลา 08.30-16.00 น.
20. Poonypoonycoffee
Poonypoonycoffee Sutthisan
ร้านกาแฟเล็กๆ โดยบาริสต้าที่เก็บประสบการณ์ชงกาแฟมาจากออสเตรเลีย เชื่อว่าเป็นอีกร้านที่หลายคนแวะมาบ่อยๆ อาจด้วยความเฟรนด์ลีของมือชง หรืออาจด้วยบรรยากาศของร้านก็ตามที
ตอนนี้ร้านมีเมนูอาหารเช้าเพิ่มเข้ามาแล้ว แถมจัดหนักจัดเต็มน่ากินไม่หยอก รับรองสั่งมาคู่กับกาแฟดีๆ สักแก้วจะเป็นการเริ่มต้นมื้อแรกที่อิ่มไปจนมื้อหน้า เมนูน่ากินก็มี Salmon on Toast (190 บาท), Waffle Chicken (190 บาท) หรือ Poony Breakkie (220 บาท)
เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-18.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. อยู่ในซอยสบายใจ ย่านสุทธิสาร
21. Kad Kokoa Cacao + Bistro
Kad Kokoa Cacao + Bistro Sukhumvit 31
ร้านอาหารมื้อสายโดยทีมคราฟต์ช็อกโกแลตแบรนด์ไทย Kad Kokoa ที่ตั้งใจนำโกโก้มาใช้เป็นส่วนผสมในทุกๆ เมนูที่เสิร์ฟ อาหารที่นี่เน้นความเรียบง่าย ชูรสชาติวัตถุดิบให้เด่น และแน่นอนว่ามีการนำโกโก้หลายส่วนมาใช้ได้อย่างน่าสนใจ
เช่น Salmon Gravlax Cream Cheese (180 บาท) แซลมอนหมักเสิร์ฟบนขนมปัง พร้อมครีมชีสผสมน้ำจากผลโกโก้
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-22.00 น. อยู่ในซอยสุขุมวิท 31
22. Maison Bleue
Maison Bleue Phrom Phong
ร้านอาหารมื้อสายสไตล์ All Day Dining ในบ้านหลังสีฟ้า ที่เสิร์ฟเมนูกลิ่นอายฝรั่งเศสทั้งคาวหวานให้มานั่งใช้เวลาได้ทั้งวัน เมนูที่นี่เกิดจากเชฟขนมหวานจับมือกับเชฟของคาว อาหารแต่ละจานจึงผสมผสานเทคนิคทำขนมลงไป หรือได้แรงบันดาลใจมาจากขนมฝรั่งหลายชนิด
เช่น Smoked Salmon Mille-Feuille (345 บาท) ดัดแปลงมาจากมิลย์เฟย ทำใหม่ด้วยการจัดเลเยอร์สอดไส้ด้วยมูสแซลมอนรมควัน ท็อปแซลมอนรมควัน ไข่ปลาแซลมอน และกินคู่กับไข่คน
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-23.00 น. อยู่ในย่านพร้อมพงษ์ ซอยเมธีนิเวศม์ ด้านหลังเอ็มโพเรียม
23. Babyccino
Babyccino Ekkamai 12
คาเฟ่มื้อสายที่จริงจังทั้งอาหารมื้อแรกของวันและเครื่องดื่มกาแฟ ร้านมาพร้อมบรรยากาศร่มรื่นสไตล์กลาสเฮาส์ ให้ความรู้สึกโปร่งสบายเมื่อมานั่งใช้เวลา ส่วนเมนูอาหารจะเป็นสไตล์ตะวันตก และเมนูฟิวชันที่อยากให้ทุกคนมากินได้ทุกวัน แต่ละเมนูจึงเรียบง่าย กินสนุก หลากหลาย และอิ่มท้อง
เช่น Kimchi Quinoa with Salmon (450 บาท) เมนูข้าวผัดกับกิมจิควินัวกับแซลมอนชิ้นโต รสชาติจัดจ้านกำลังดี กินแล้วถูกปากคนไทย
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.30 น. อยู่ในซอยเอกมัย 12
24. Luka Bangkok
Luka Bangkok Chid Lom
ร้านมื้อสายที่หลายคนยกให้เป็นร้านประจำ เพราะนอกจากพาสัตว์เลี้ยงมานั่งเล่นด้วยกันได้ ก็ยังมาพร้อมบรรยากาศร่มรื่นในสวน และมื้อสายสไตล์ตะวันตกจับคู่กับกาแฟท้องถิ่น โดยร้านมี 2 สาขาที่เปิดบริการตอนนี้คือ สาทร และสิริเฮาส์
ส่วนเมนูที่ต้องลองคือ Luka Breakfast Burrito (330 บาท) เป็นตอร์ติญาเครื่องแน่น มีทั้งไข่ออร์แกนิก ชีส ไส้กรอก ควินัว อะโวคาโด และซัลซา
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
25. WH Cafe
WH Cafe Kamphaeng Phet 7 Rd.
ร้านอาหารมื้อสายโดยทีมเชฟจากร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งวังหิ่งห้อย ที่นี่เปิดอยู่บนพื้นที่เดียวกัน เพราะร้านเปลี่ยนโซนหนึ่งที่เคยใช้เสิร์ฟอาหารให้กลายเป็นสวนในร่มที่ดูเหมือนอยู่กลางแจ้ง พร้อมเสิร์ฟเมนูบรันช์ให้เรานั่งกินสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติ เมนูแนะนำก็คือ Cloudy Egg Benedict (420 บาท) เสิร์ฟไข่เบเนดิกต์นุ่มฟูมาบนซอสเซาเทิร์นและขนมปัง กินคู่กับไส้กรอก เบคอน ผักสลัด
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.
26. Brunch Paradiso
Brunch Paradiso Yen Akat
คาเฟ่มื้อสายในย่านเย็นอากาศที่พร้อมเสิร์ฟเมนูกินสนุกให้แวะมาได้ตลอดวัน อาหารจะมีทั้งจานบรันช์ที่เราคุ้นเคย คือรวมขนมปัง ไข่ ผัก และสลัดมาให้บนจานเดียว ไปจนถึงแซนด์วิชหน้าเปิด สลัด พาสต้า และของกินเล่นให้สั่งมาเติมความอิ่ม
เมนูน่าลอง เช่น Messy Egg (320 บาท) เสิร์ฟไข่คนและกุ้งย่างราดซอสฮอลแลนเดสมาบนขนมปังซาวโดวจ์ให้กินคู่กับผักสลัด
เปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.00 น.
27. F.I.X. & The Lazy Bunch
F.I.X. & The Lazy Bunch Sarasin
ร้านมื้อสายแห่งใหม่โดยทีมร้านกาแฟ F.I.X. Coffee ที่นี่เปิดอยู่บนถนนสารสิน มาพร้อมบรรยากาศสบายๆ กับมื้อสายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูในความทรงจำวัยเด็กของแต่ละครอบครัว ร้านนำมาเปลี่ยนให้เป็นอาหารจานใหญ่ที่เน้นความแปลกใหม่ กินง่าย เพราะอยากให้ทุกคนแวะมากินได้บ่อยๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
เมนูแนะนำเช่น Dirty Egg (320 บาท) จานนี้มีไข่ดาว มันฝรั่งทอด อะโวคาโด ชีส ไส้กรอกเป็ด กินคู่ซอสทรัฟเฟิล ซอสฮันนีมัสตาร์ด และเห็ดเกาหลี F.I.X. & The Lazy Bunch อยู่ใกล้สวนลุมพินี
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.
28. Breakfast Story
Breakfast Story Phloen Chit
ร้านอาหารเช้าที่เปิดมานาน และเชื่อว่าทุกคนต้องรู้จัก ที่นี่เน้นเสิร์ฟเมนูเรียบง่ายแต่กินอิ่มสไตล์ตะวันตก โดยมีหลากหลายสไตล์ให้เลือก ทั้งขนมปัง แพนเค้ก แรป เบอร์เกอร์ และสลัด
มีเมนูแนะนำอย่างเช่น Breakfast Poutine (280 บาท) มันฝรั่งกับไข่ดาว 2 ฟอง มาพร้อมเบคอน ชีส และซอสเกรวี อย่าลืมคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนกิน หรือ Breakfast Story (300 บาท) เสิร์ฟแพนเค้ก 3 แผ่นมาให้พร้อมไข่ 2 ฟอง เบคอนที่เลือกความหนาได้ กินพร้อมมันฝรั่ง เนย และไซรัป
เปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.00 น. โดยร้านมี 3 สาขาคือ เพลินจิต อโศก และพร้อมพงษ์