ซีพีออลล์ เตรียมออกหุ้นกู้ 3 รุ่น เรตติ้ง A+ ดอกเบี้ยระหว่าง 2.95-4.35% ต่อปี คาดเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 พร้อมแต่งตั้ง 7 สถาบันการเงินชั้นนำเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
บมจ.ซีพี ออลล์ หรือ CPALL ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น, เซเว่น เดลิเวอรี่ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 3 รุ่น อายุ 4 ปี อายุ 7 ปี และอายุ 12 ปี เสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป (ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน) อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 2.95-4.35% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน คาดว่าจะเสนอขายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยบริษัทและหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A+ แนวโน้ม ‘คงที่’ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ส่องผลงาน 4 หุ้นในเครือเจ้าสัว ‘ธนินท์ เจียรวนนท์’
- เจ้าสัวธนินท์ ฟันธง เศรษฐกิจไทยปีหน้าดีกว่าปีนี้แน่นอน! แต่มาก-น้อยขึ้นอยู่กับรัฐบาล
- เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ รั้งอันดับ 137 ของ ‘อภิมหาเศรษฐีโลก’ ปี 2565 ด้วยความมั่งคั่ง 4.5 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนกว่า 1 แสนล้านบาท
เกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บมจ.ซีพี ออลล์ หรือ CPALL กล่าวว่า เตรียมพร้อมที่จะเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 3 รุ่น ประกอบด้วย
- รุ่นอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.95-3.10% ต่อปี
- รุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55-3.75% ต่อปี
- รุ่นอายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.20-4.35% ต่อปี
สำหรับหุ้นกู้รุ่นอายุ 12 ปี บริษัทสามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้เมื่อหุ้นกู้ครบปีที่ 7 โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้จะเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป คาดว่าจะเสนอภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผ่านสถาบันการเงิน 7 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) รวมถึงมีการขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet เพื่อเพิ่มความสะดวกและตอบโจทย์นักลงทุนยุคดิจิทัลอีกด้วย
สำหรับหุ้นกู้ชุดดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 ที่ระดับ A+ แนวโน้ม ‘คงที่’ (Stable) ซึ่งสะท้อนถึงพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ เช่น การเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อในประเทศไทย อีกทั้งมีการรุกขยายธุรกิจออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว ลักษณะของธุรกิจค้าปลีกที่สร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ ได้รับผลตอบรับสูงจากลูกค้า โดยปัจจุบันมีลูกค้าสมาชิก ‘All Member’ อยู่มากกว่า 14 ล้านคน
ทั้งนี้ ซีพี ออลล์ เป็นผู้ประกอบธุรกิจหลักในการบริหารร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ ที่ให้บริการความสะดวกกับชุมชน โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 บริษัทฯ มีสาขา ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ เปิดให้บริการมากกว่า 13,000 สาขา และภายในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 700 สาขาในรูปแบบสแตนด์อโลน โดยเน้นร้านขนาดใหญ่ในรูปแบบร้านเดี่ยว (Stand-Alone) ที่มีพื้นที่จอดรถหน้าร้าน ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศ คาดว่าในปี 2566 จะเริ่มเห็นสาขาของ ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ ใน สปป.ลาว ขณะที่ในประเทศกัมพูชามีการเปิดสาขาไปแล้วกว่า 40 สาขา และยังจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจแบบ O2O ที่ผสมผสานช่องทาง Omni-Channel ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงบริการเดลิเวอรีของ ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ (7Delivery) ที่จัดส่งสินค้าถึงบ้านผ่านทางแอปพลิเคชัน เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคอีกด้วย
“การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีของผู้ลงทุนที่แสวงหาการลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และเป็นกิจการที่มีความมั่นคงภายใต้อุตสาหกรรมค้าปลีกที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ภายหลังจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด ผลการดำเนินงานของซีพี ออลล์ ในไตรมาส 3 ปี 2565 ที่ผ่านมามีการฟื้นตัวและเติบโตอย่างโดดเด่น และยังมีแนวโน้มที่ดีในผลการดำเนินงานสำหรับปี 2565 และต่อเนื่องในปี 2566 จากธุรกิจท่องเที่ยวที่เติบโตสูง อีกทั้งบริษัทฯ ยังเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนระดับโลก โดยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI ในกลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples Retailing กลุ่มดัชนี DJSI Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 (2560-2565) และกลุ่มดัชนี DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (2561-2565) โดย ‘ซีพี ออลล์’ เป็นองค์กรเดียวในประเทศไทยในกลุ่มดัชนี DJSI World ของกลุ่มอุตสาหกรรมนี้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนที่จะเลือกลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน” เกรียงชัยกล่าว
สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ บมจ.ซีพี ออลล์ ซึ่งกำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท