×

เนสท์เล่เอาจริง ร่วมกู้วิกฤตลดโลกร้อนทุกมิติ ผลักดันภารกิจเพื่อความยั่งยืนเป็นวาระสำคัญขององค์กร [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
15.12.2022
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 mins. read
  • จากการดำเนินธุรกิจในฐานะผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มมานานนับศตวรรษ เนสท์เล่ยืนหยัดในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น สะท้อนผ่านการให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูดูแลภาคเกษตรกรรมและทรัพยากรโลก
  • แสดงเจตนารมณ์ผ่านการ ‘ทำจริง’ ในแง่ของมาตรการด้านความยั่งยืน ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายโครงการที่สำเร็จลุล่วง และอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ระหว่างทางของเส้นชัย
  • ทั้งนี้ เพื่อทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเราและลูกหลานในอนาคต

โลกของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคอันเกี่ยวเนื่องกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนโดยตรง เชื่อว่าหนึ่งในแบรนด์ที่คนไทยคุ้นหูและคุ้นเคยเป็นอย่างดีคือ เนสท์เล่ (Nestlé) แบรนด์ที่มีโลโก้ภาพจำเป็นภาพรังนกและแม่นกคอยป้อนอาหารให้ลูกๆ ที่มีสินค้าครอบคลุมแทบทุกมิติในการดำรงชีวิตของมนุษย์

 

จากการดำเนินธุรกิจในฐานะผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มมานานนับศตวรรษ เนสท์เล่แสดงจตนารมณ์อย่างแรงกล้ามาโดยตลอดในการเปิดพลังแห่งอาหาร เพื่อเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อทุกคนในวันนี้และในอนาคต โดยให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูดูแลภาคเกษตรกรรมและทรัพยากรโลกด้วยความมุ่งมั่น แข็งขัน ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยที่มีผู้บริโภคจำนวนนับล้านใช้ผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ในทุกๆ วันของชีวิต เราจึงได้เห็นมาตรการด้านความยั่งยืนต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจของเนสท์เล่ในทุกมิติ

 

 

ด้านบรรจุภัณฑ์ 

เนสท์เล่ตั้งมั่นว่า บรรจุภัณฑ์ต้องเป็นมิตรกับโลกมากขึ้น และสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดในเชิงสิ่งแวดล้อมได้ จึงมีนโยบายเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ตอนนี้มีบรรจุภัณฑ์ของเนสท์เล่ 93% แล้วที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถรีไซเคิลได้ 

 

นอกจากนั้นเนสท์เล่ยังมีแผนจะลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่ลง 1 ใน 3 ภายในปี 2568 ซึ่งทุกวันนี้เนสท์เล่ได้ลงมือตามแผนกับหลายๆ ผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์ไอศกรีมเนสท์เล่หลายตัวได้เปลี่ยนมาใช้ซองกระดาษ ทดแทนการใช้พลาสติก และผลิตภัณฑ์ UHT ของบริษัททั้งหมดได้เปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษ อีกทั้งผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ และน้ำแร่ธรรมชาติมิเนเร่ มีการใช้ขวด PET ใส ที่สามารถรีไซเคิลได้หมดทุกส่วน 

 

นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและภาครัฐในการผลักดันการใช้พลาสติกรีไซเคิลจากขวด PET ในการผลิตขวดเครื่องดื่มใหม่ และกลุ่มผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู และไมโล ได้ใช้บรรจุภัณฑ์แบบ Monostructure ที่ผลิตจากพลาสติกตระกูลเดียวกัน ทำให้นำไปรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น เนสกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มยังเปลี่ยนมาใช้กระป๋องอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาที่รีไซเคิลได้ 100%

 

 

ด้านการลดคาร์บอน เพื่อปกป้องชั้นบรรยากาศ 

เรื่องคาร์บอนฟุตพรินต์ถือเป็นวาระเร่งด่วนด้านสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญ เนสท์เล่เองก็เช่นเดียวกัน โดยตั้งเป้าในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 พร้อมทั้งรุดหน้าผลักดันหลายๆ โครงการให้ทยอยเดินทางเข้าสู่เป้าหมายดังกล่าวแล้ว โดยนำร่องการใช้รถพลังงานไฟฟ้าในการขนส่งผลิตภัณฑ์คิทแคทแบบควบคุมอุณหภูมิ รถสามล้อไฟฟ้าขายไอศกรีมเนสท์เล่ รวมถึงตั้งเป้าเปลี่ยนกลุ่มรถยนต์ผู้บริหารให้เป็นรถยนต์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง 

 

นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินงานไปสู่เป้าหมายในการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2568 โดยโรงงานของเนสท์เล่ 5 ใน 7 แห่ง มีการติดตั้งแผงโซลาร์เพื่อเริ่มใช้ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

 

 

ด้านการสร้างความยั่งยืนให้กับภาคการเกษตร

เมื่อเนสกาแฟเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของตลาดกาแฟในประเทศไทย การสร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกรรมกาแฟจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับแบรนด์โดยตรง เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานกาแฟให้ยั่งยืน เนสท์เล่จึงตั้งเป้าผลิตกาแฟที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน 100% ภายในปี 2568 และทำสำเร็จตามหมุดหมายที่วางไว้แล้วในตอนนี้ โดยเมล็ดกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้าที่จัดซื้อในประเทศไทย 100% ผ่านการรับรองว่าเป็น Sustainably Sourced ตามหลักปฏิบัติในการทำสวนกาแฟตามมาตรฐานสากล 4C (Common Code for Coffee Community) 

 

 

ขณะเดียวกันก็ได้ดำเนินโครงการ ‘เนสกาแฟ แพลน’ ส่งมอบต้นกล้ากาแฟ 3.5 ล้านต้นให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟชาวไทย ซึ่งทำมาตั้งแต่ปี 2549 พร้อมทั้งเข้าไปช่วยปรับปรุงผลผลิตและสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีกว่าผ่านโครงการฝึกอบรมเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟกว่า 2,000 คน ช่วยให้เกษตรกรกว่า 2,500 คนได้รับการรับรองมาตรฐานความยั่งยืน 4C และได้ยกระดับอาชีพเกษตรกรของตนเอง 

 

อีกหนึ่งแนวทางที่สามารถช่วยพลิกฟื้นชีวิตเกษตรกรได้คือ แนวทางการเกษตรเชิงฟื้นฟู หรือ Regenerative Agriculture โดยมุ่งปรับปรุงคุณภาพดินและความอุดมสมบูรณ์ พร้อมฟื้นฟู-ดูแลทรัพยากรน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพ 

 

นอกเหนือจากเรื่องของกาแฟแล้ว เนสท์เล่ยังได้จัดให้มีการฝึกอบรมเกษตรกรในการเพิ่มคุณภาพและปริมาณน้ำนมดิบ ปรับปรุงแนวทางด้านการทำปศุสัตว์อย่างยั่งยืน และการใช้พลังงานทดแทน นับว่าเป็นองค์กรที่ร่วมด้วยช่วยขับเคลื่อนทฤษฎีเกษตรฟื้นฟูในประเทศไทยให้เป็นรูปธรรมและจับต้องได้จริง

 

 

ด้านการดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำ

เนสท์เล่ยังคงให้น้ำหนักในเรื่องการดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพน้ำในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง และจากคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้เรื่อง ‘Water Positive Pledge’ ใช้น้ำไปเท่าไรจะทดแทนให้เท่าเดิม เนสท์เล่ได้ทำโครงการ ‘เยาวชนพิทักษ์สายน้ำ’ ของธุรกิจกลุ่มน้ำดื่มเนสท์เล่ ได้ช่วยฟื้นฟูคุณภาพน้ำ เพิ่มจำนวนสัตว์น้ำในคลองขนมจีน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอีกหลากหลายโครงการ ทำให้ปัจจุบันโรงงานน้ำดื่มในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้รับการรับรองมาตรฐานการดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนระดับสากลจาก Alliance for Water Stewardship (AWS) ตรงตามคำมั่นของเนสท์เล่ 

 

 

ด้านการปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องความยั่งยืนในสังคมไทย

เพื่อให้คนไทยตระหนักถึงเรื่องความยั่งยืนในวงกว้าง เนสท์เล่จึงร่วมปลูกฝังแนวคิดด้านความยั่งยืนในสังคมไทย ผ่านการให้ความรู้แก่ผู้คนและชุมชนต่างๆ เห็นได้จากแคมเปญ ‘เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้’ (Every Little Act Matters) ที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยปรับพฤติกรรม เริ่มจากทีละเล็กละน้อย เพื่อช่วยกันปกป้องโลกของเรา 

 

 

จากปรัชญา ‘Good food, Good life อาหารที่ดีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี’ เราเห็นถึงความพยายามของเนสท์เล่ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้คุณภาพชีวิตของผู้คนดีขึ้นอย่างยั่งยืน ไม่ผิดไปจากสิ่งที่แบรนด์เชื่อและยึดถือเสมอมาว่า การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีจะช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นและมีความสุขมากขึ้น เมื่อเราให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เราจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตบนโลกที่น่าอยู่มากขึ้น เพื่อวันนี้และคนรุ่นต่อไปในอนาคต

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X