นิสัยความเอาแต่ใจของ คริสเตียโน โรนัลโด นั้นแท้จริงแล้วมิได้เพิ่งมาเป็นเอาในเวลาที่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์แล้ว
ความจริงโรนัลโดเป็นคนเอาแต่ใจแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ครั้งอยู่กับทีมอันดอรินญา สโมสรฟุตบอลแห่งแรกในชีวิต ซึ่งที่เป็นแบบนั้นเพราะคุณพ่อเป็นคนดูแลเรื่องชุดและอุปกรณ์ในการซ้อมของสโมสร (ที่ไม่แน่ใจว่าควรจะเรียกว่าเป็นสโมสรไหม) หรือกับสโมสรต่อมาอย่างนาซิอองนาลที่ได้ตัวว่าที่นักฟุตบอลระดับ GOAT ไปร่วมทีม เพราะข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้อย่างการสนับสนุนชุดแข่งและอุปกรณ์ให้อันดอรินญาเป็นเวลา 2 ฤดูกาลด้วยกัน
ในวัยเด็กโรนัลโดไม่เคยส่งบอลให้ใคร เขาแทบจะเล่นอยู่คนเดียวในสนาม อย่าว่าแต่คู่แข่งที่ไม่รู้จะหาทางแย่งอย่างไร แม้แต่เพื่อนร่วมทีมเองก็ไม่รู้จะบอกให้เขาส่งบอลมาให้อย่างไรเหมือนกัน
สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือหากเกมจบลงด้วยการที่ไอ้หนูคริสเตียโนแพ้ หรือแม้แต่วันที่เขาเล่นไม่ดี (ในความหมายคือยิงได้ไม่เยอะ) เขาจะร้องไห้ไม่หยุด
โค้ชของโรนัลโดในทีมนาซิอองนาลบอกว่า “เขารับมือกับความผิดหวังไม่เป็น” ซึ่งโชคยังดีสำหรับทุกคนในทีมที่วันแบบนั้นไม่ได้มาถึงบ่อยนัก
และโชคดีสำหรับทีมชาติโปรตุเกสที่อย่างน้อยเมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาถึงปูนนี้ โรนัลโดก็ดูจะมีวุฒิภาวะขึ้นบ้าง รู้จักการวางตัวเป็น ‘ลูกพี่’ ที่น่านับถือ
ย้อนกลับไปถึงข่าวฉาวจากบทสัมภาษณ์ในรายการทีวี ‘Uncensored’ ที่เขาเลือกจะเปิดใจในหลายประเด็นแบบไม่มีคำว่ากั๊กกับ เพียร์ส มอร์แกน อดีตคนข่าวผู้ผันตัวมาเป็นพิธีกรปากกรรไกร ทำให้ชื่อเสียงของโรนัลโดหม่นหมองลงอย่างมาก
โดยเฉพาะกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กันนั้นแทบไม่เหลือ
สิ่งที่เกิดขึ้นมันชวนให้โลกลูกหนังจับตามองว่านักเตะทีมชาติโปรตุเกสจะมีปฏิกริยาอย่างไรกับโรนัลโด ซึ่งภาพที่ออกมาผ่านสื่อนั้นถูกจับแต่งให้มีคำถามว่ามันมีซัมติงรองเกิดขึ้นระหว่างพี่ใหญ่กับน้องๆ ภายในทีม ไม่ว่าจะกับ บรูโน แฟร์นันด์ส, ชูเอา คันเซโล หรือ ดีโอโก ดาโลต์
แต่ก็เป็นหลายๆ คนในทีมที่ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรระหว่างกัน โดยเฉพาะ บรูโน แฟร์นันด์ส ที่เป็นประเด็นมากที่สุดเพราะภาพการจับมือที่ดูเหมือนเย็นชาระหว่างทั้งสอง จนสุดท้ายเจ้าตัวต้องถามนักข่าวกลับว่า “ตกลงได้ดูคลิปเต็มที่มีเสียงด้วยหรือยัง” เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันคนละเรื่องกับที่พวกเหยี่ยวข่าวจ้องรุมทึ้ง
ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ อย่างน้อยโรนัลโดก็ได้กลับมารู้สึกในสิ่งที่เขาต้องการตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา สิ่งที่หายไปและไม่มีวันจะได้รับกลับมาอีกในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด
ความรู้สึกของคนที่เป็นที่หนึ่ง ความรู้สึกของคนที่เป็นที่ต้องการ ความรู้สึกของคนที่เป็นที่ยอมรับและนับถือ
ความรู้สึกมากมายเหล่านี้ ผสมปนเปเข้ากับเรื่องราวตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตอย่างการสูญเสียลูกชายฝาแฝดไปอย่างน่าเศร้า อาจเป็นที่มาของหยาดน้ำในแววตาของโรนัลโดในระหว่างที่ร้องเพลงชาติโปรตุเกส ก่อนลงสนามพบกับทีมชาติกานา เมื่อคืนนี้
มันเอ่อล้นจนแทบจะกักเก็บไว้ไม่ไหว
แล้วเมื่อถึงเวลาลงสนามโรนัลโด ก็ตอบคำถามว่า ‘CR7’ จะไหวแค่ไหนสำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยการฉายภาพที่ทำให้เราได้หวนคิดถึงเขาในแบบเดิมๆ
สปีดความเร็วระยะสั้นที่พร้อมฉีกไปรับบอลยังที่ว่าง สัญชาติญาณในการเลือกไลน์ในการวิ่งที่พร้อมเปิดโอกาสให้เพื่อนจ่ายบอลยัดมาให้ สปริงข้อเท้าที่ทะยานขึ้นโหม่งบอลในแบบที่ทำให้ทุกคนต้องอ้าปากค้าง
ความปราดเปรียวดูมีชีวิตชีวาที่เห็นนี้ทำให้คิดว่านี่ใช่คนเดียวกับโรนัลโดในช่วงบั้นปลายกับแมนฯ ยูไนเต็ดที่เล่นไม่เอาอ่าวไม่เอาทะเลไหม?
อันที่จริงก็ไม่น่าประหลาดใจ เพราะโปรตุเกสเป็นทีมที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง ระบบการเล่น วิธีการเล่น ไปจนถึงผู้เล่นที่ แฟร์นานโด ซานโตส เลือก ทุกอย่างเพื่อนักเตะหมายเลข 7 ผู้เป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังของชาติที่อาจกล่าวได้ว่าก้าวขึ้นมาแทนที่ของ ยูเซบิโอ ไอ้เสือดำในตำนานแล้ว
สิ่งที่โรนัลโดแสดงให้เห็น ซึ่งแม้จะไม่ได้ถึงกับเล่นดีมากนัก แต่อย่างน้อยบรรดาทีมต่างๆ ที่อาจมีข้อสงสัยในตัวเขาก็อาจจะคลายความสงสัยลง
คริสเตียโน โรนัลโด คนนี้ยังมีคุณค่าในตัวเอง อยู่ที่คุณจะมองเห็นไหม?
การเรียกจุดโทษให้ทีมได้แม้จะดูเหมือนเป็นการได้จุดโทษที่ง่ายแต่ก็มาจากความฉลาดในการชิงเหลี่ยมเอาชนะคู่แข่ง ความเยือกเย็นในการทำหน้าที่สังหารจุดโทษ ประตูที่ทำให้เขากลายเป็นชายคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงในฟุตบอลโลกได้ 5 สมัยติดต่อกัน และอาจจะไม่มีคนต่อไปด้วยเพราะมันเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก
ความเป็นผู้นำในสนามที่ยังฉายแววโดดเด่น ความเป็นลูกพี่ที่พร้อมสนับสนุนลูกน้อง
แม้แต่ท่าดีใจ ‘Siuuu’ อันเป็นเอกลักษณ์ก็ยังถูก ออสแมน บูคารี ตัวสำรองของกานาที่ลงมาทำประตูไล่ตาม 2-3 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บทำเลียนแบบ (ไม่ว่าจะตั้งใจล้อเลียนหรือสดุดีก็ตาม)
นี่คือคำประกาศนามอันกึกก้องของผู้ยิ่งใหญ่
ข้าคือ คริสเตียโน โรนัลโด แล้วเจ้าล่ะคือใคร?
Richarlison for Brazil pic.twitter.com/uGloNx0gPC
— Midnite Football (@MidniteFtbl) November 24, 2022
การกลับมาของ R9
ค่ำคืนที่ผ่านมาไม่ได้มีเพียงแค่ CR7 ที่โดดเด่น แต่ยังมี ‘R9’ ด้วย
R9 คนนี้ไม่ใช่ โรนัลโด นาซาริโอ ชายผู้เป็นปรากฏการณ์ของโลกลูกหนังในยุค 90 (และเป็นโรนัลโดเดียวที่แฟนบอลบราซิลรู้จัก) แต่เป็น ริชาร์ลิสัน กองหน้าตัวเป้าทีมชาติบราซิลผู้ทำคนเดียว 2 ประตูให้ทีมเก็บชัยชนะเหนือเซอร์เบีย คู่แข่งที่น่าจะแกร่งที่สุดของกลุ่ม H ได้
พูดถึง ริชาร์ลิสัน เขาไม่ใช่กองหน้าบราซิลในแบบที่ใครจะหลงใหล ความสวยงามพลิ้วไหวในการเล่นแบบ ‘Ginga’ อันเป็นปรัชญาชีวิตของชาวบราซิล หรือ ‘Joga Bonito’ อันเป็นความหมายของคำว่าการเล่นอย่างงดงาม ไม่ต้องถามหาจากกองหน้าท็อตแนม ฮอตสเปอร์คนนี้
แต่สิ่งที่ริชาร์ลิสันมี เป็นสิ่งที่กองหน้าคนอื่นๆในทีมบราซิลของติเต ไม่ว่าจะเก่งกาจพลิ้วไหวแค่ไหน จะเป็น เนย์มาร์, วินิซิอุส จูเนียร์, ราฟินญา, แอนโทนี, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, โรดริโก ก็ไม่มี
มันคือความหนักแน่น แข็งแกร่ง และเป็นที่พึ่งได้
สำหรับ ติเต ความทุ่มเทของ ริชาร์ลิสัน เป็นส่วนเติมเต็มให้กับบราซิลชุดนี้สมบูรณ์ขึ้น และเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตัด โรแบร์โต เฟียร์มิโน กองหน้าระดับมันสมองออกจากทีม เพราะทีมชุดนี้ไม่ต้องการนักเตะที่มีไหวพริบอีกแล้ว
แล้ว ริชาร์ลิสัน ก็ตอบแทนความไว้วางใจของ ติเต และที่สำคัญตอบคำถามว่าตกลงแล้วเขายังเหลือความเป็นบราซิลในตัวอีกไหม ด้วยลูกกระโดดยิงแบบกรรไกร ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะเป็นประตูสุดสวยประจำทัวร์นาเมนต์
เป็นการกลับมาของ R9 ในแบบที่แตกต่าง
ไม่ต้องพลิ้วไหวมาก แต่ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้ก็พอแล้ว
- อังกฤษ vs. สหรัฐอเมริกา : พรีวิว ฟุตบอลโลก 2022 วันที่ 25 พ.ย. 2022 พร้อมช่องถ่ายทอดสด
- เนเธอร์แลนด์ vs. เอกวาดอร์ : พรีวิว ฟุตบอลโลก 2022 วันที่ 25 พ.ย. 2022 พร้อมช่องถ่ายทอดสด
- เกาะติดการแข่งขัน ‘บอลโลก 2022’ รายงานสดการแข่งขัน โปรแกรม พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจในศึกฟุตบอลโลก
- อัปเดตโปรแกรมการแข่งขันและช่องทางถ่ายทอดสดบอลโลก 2022