ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมเครือรัฐเอกราชที่คาซัคสถาน วานนี้ (14 ตุลาคม) โดยระบุว่า การระดมกำลังพลสำรองหลายแสนนายไปร่วมภารกิจสู้รบในยูเครนควรเสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์ ขณะที่สื่อรายงานว่า ชายรัสเซียหลายคนที่โดนคำสั่งระดมพล ถูกส่งไปรบและตายในยูเครนในระยะเวลาแค่สิบกว่าวัน
ปูตินเผยว่า จนถึงขณะนี้มีกำลังสำรองถูกเรียกระดมพลแล้วราว 2.2 แสนนาย จากทั้งหมดที่คาดไว้ประมาณ 3 แสนนาย และชี้ว่าภารกิจระดมพลจะเสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์
“งานนี้กำลังจะยุติ ผมคิดว่าภายในประมาณ 2 สัปดาห์ กิจกรรมการระดมพลทั้งหมดจะเสร็จสิ้น” เขากล่าว
ขณะที่ปูตินยืนยันว่า รัสเซียไม่ปรารถนาที่จะทำลายความเป็นรัฐของยูเครน พร้อมชี้ว่า ‘สำหรับตอนนี้’ กองทัพรัสเซียยังไม่มีแผนโจมตีทางอากาศระลอกใหญ่ในยูเครน ดังเช่นที่โจมตีไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลมากกว่า 100 ลูก ถล่มกรุงเคียฟและอีกหลายเมืองทั่วยูเครน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปหลายคน
“เป้าหมายของเราไม่ใช่การทำลายยูเครนทั้งหมด สำหรับพวกเขา ในจุดหนึ่งพวกเขาเพิ่งตัดการจ่ายน้ำประปาไปยังไครเมีย ซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่กว่า 2.4 ล้านคน กองกำลังทหารของเราต้องเข้าไปในพื้นที่และเปิดแหล่งน้ำให้กับไครเมียอีกครั้ง หากพวกเขาละเว้นจากการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ก็จะไม่มีการตอบโต้ใดๆ เลย”
ด้านสำนักข่าว The Moscow Times รายงานชะตากรรมของชายชาวรัสเซียที่ถูกเรียกระดมพล หลังปูตินประกาศคำสั่งระดมพลบางส่วนเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า ทนายความหนุ่มรายหนึ่งชื่อว่า อังเดร นิกิโฟรอฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในชายที่ถูกระดมพลชุดแรกๆ ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน ถูกส่งไปรบในสมรภูมิยูเครน และถูกสังหารเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ใกล้กับเมืองลิซิชานสก์ ในแคว้นลูฮันสก์ ซึ่งเป็นจุดที่กำลังมีการสู้รบอย่างดุเดือด
นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นรัสเซียยังรายงานเมื่อวานนี้ว่า มีชายอีก 3 คน อายุ 32, 40 และ 42 ปี จากเมืองครัสโนยาสก์ แคว้นไซบีเรีย ที่ถูกเรียกระดมพลและเสียชีวิตในยูเครนเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ทางการท้องถิ่นในแคว้นเชเลียบินสก์ของรัสเซีย ใกล้กับเทือกเขาอูราล ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดี (13 ตุลาคม) ว่าชาย 5 คนที่ถูกเรียกระดมพลจากเขตคอร์คิโนของภูมิภาคนี้ เสียชีวิตแล้ว ซึ่งการเสียชีวิตของพวกเขาก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจในโซเชียลมีเดียท้องถิ่นที่ตั้งคำถามว่า ทำไมชายที่ถูกเรียกระดมพลไม่ได้รับการฝึกอย่างเหมาะสมใดๆ ก่อนถูกส่งไปรบ
ภาพ: Contributor / Getty Images
อ้างอิง: