วันนี้ (12 ตุลาคม) ที่อาคารรัฐสภา กลุ่มคนงานเก็บเบอร์รีป่าฟินแลนด์ ปี 2556 ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ สุเทพ อู่อ้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) แรงงาน สภาผู้แทนราษฎร
ธีรศักดิ์ ภักดีนพรัตน์ ตัวแทนกลุ่ม เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนคนไทยรวม 50 ชีวิต ได้เดินทางไปเก็บเบอร์รีที่ประเทศฟินแลนด์ให้กับบริษัท Ber-Ex ในปี 2556 เมื่อไปถึงกลับต้องเผชิญกับสภาพการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม กฎหมายแรงงานไม่ให้ความคุ้มครอง จึงเรียกร้องให้ทางรัฐบาลฟินแลนด์รับทราบปัญหาและขอความช่วยเหลือในระหว่างที่อยู่ในประเทศฟินแลนด์และมีการดำเนินการส่งตัวกลับประเทศไทยนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2556 จากนั้นได้ดําเนินการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2557 แต่กลับถูกเพิกเฉยมาตลอด 9 ปี จนถึงบัดนี้ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากรัฐบาลไทย ทั้งที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนงาน 50 ชีวิต สร้างความทุกข์และความเดือดร้อนให้พวกเขาและครอบครัว แรงงานบางรายต้องขายบ้านขายที่ดินเพื่อหาทุนเดินทางไป บางคนหมดเนื้อหมดตัวดิ้นรนเพื่อหาเงินมาชดใช้หนี้ ซึ่งการเข้ายื่นหนังสือต่อกรรมาธิการแรงงานในวันนี้หวังว่าจะสามารถเปิดโปงขบวนการค้าแรงงานทาสมาทำงานที่ฟินแลนด์ ซึ่งขบวนการนี้มีอิทธิพลสูงและมีการจ่ายรับสินบนเพื่อให้การขนแรงงานไปทำงานที่ประเทศฟินแลนด์อย่างราบรื่นไม่ถูกสกัดกั้น
ด้าน ศิริบูรณ์ ชื่นชม ตัวแทนอีกราย กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นคือการร่วมมือของกระทรวงแรงงานในการส่งเสริมธุรกิจค้าแรงงานไทยไปเป็นแรงงานทาสเก็บเบอร์รีฟรีให้กับอุตสาหกรรมเบอร์รีป่าของฟินแลนด์มาโดยตลอด แรงงานไทยหลายร้อยชีวิตโดนหลอกไปทำงาน ระยะเวลาร่วม 3 เดือน ทำงานเฉลี่ยวันละ 14-15 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด สุดท้ายกลับบ้านมือเปล่าแถมยังมีหนี้สินที่ต้องชดใช้ ทั้งหมดนี้หากกระทรวงแรงงานไม่รับรองให้นายหน้าคนไทยและอุตสาหกรรมเบอร์รีฟินแลนด์สามารถนำแรงงานไปได้ คนงานไทยหลายร้อยชีวิตก็ไม่ต้องมีชะตากรรมเช่นนี้
ขณะที่สุเทพกล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือเตรียมไว้แล้ว และจะนำหนังสือร้องเรียนที่ได้รับไปยื่นต่อรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานในวันนี้เวลา 11.00 น. เพื่อขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และขอให้กระทรวงแรงงานอนุมัติเงินช่วยเหลือคนงานที่ประสบปัญหาในวงเงินคนละ 30,000 บาทให้กับคนงานทุก คนที่เสียหายจากฤดูกาลเก็บเบอร์รีปี 2565 โดยเร่งด่วน
“แม้ว่าเงินจํานวนนี้ยังไมพอที่จะจ่ายหนี้สินที่กู้ยืมไปทํางานก็ตาม แต่เชื่อว่าสามารถแบ่งเบาได้ไม่มากก็น้อย อีกทั้งจะใช้กลไกกรรมาธิการเพื่อติดตามความเป็นธรรมในพี่น้องแรงงานจนถึงที่สุด อีกทั้งจะผลักดันให้กระทรวงแรงงานรับรองการเดินทางไปทำงานต่างประเทศของแรงงานไทยอย่างถูกต้องตรวจสอบได้ ไม่ใช่กระทรวงแรงงานกลับค้าแรงงานเสียเองเช่นนี้” สุเทพระบุ